ภาพปกจาก https://pixabay.com / Fernandozhiminaicela ในทุกวันนี้เชื้อไวรัสโควิด 19 ได้แพร่กระจายไปอยู่ในทุกมุมโลกก็ว่าได้ ดังนั้นการฉีดวัคซีนก็ยังเป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ ของการลดอัตราการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งดังนั้นนอกเหนือไปจากการที่ให้ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังคงต้องปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันต่างๆ ที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ การรักษาระยะห่างทางสังคม และการกักตัวอย่างเคร่งครัด ฉะนั้นบุคคลที่สามารถฉีดวัคซีนได้นั้นจะอธิบายในหัวข้อต่อไปนี้ ภาพจาก https://pixabay.com / neelam279 บุคคลที่สามรถได้รับการฉีดวัคซีน มีดังต่อไปนี้ 1. บุคคลที่จะได้รับการฉีดวัคซีนเป็นอันดับแรกนั้นก็คือ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้มี่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเชื้อไวรัสโควิด 19 เช่น อสม./อสต. ทหาร ตำรวจ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อกระจายไปสู่ประชาชน 2. บุคคลถัดมาคือ กลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จนไปถึงผู้สูงอายุ หรือหญิงตั้งครรภ์ หญิงที่ให้นมลูก ก็สามารถรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ถ้ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง และแพทย์ประเมินแล้วว่าการฉีดวัคซีนนั้นให้ประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ส่วนผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องก็สามารถให้วัคซีนได้ เช่นกันโดยให้แพทย์ประจำตัวเป็นผู้พิจารณาเลือกชนิดของวัคซีน แต่บุคคลเหล่านี้ที่กล่าวมาก็ยังไม่มีข้อมูลว่าวัคซีนโควิด 19 จะมีผลเสียหรือเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของผู้ที่มีอายุน้อยกว่า18 ปี กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หญิงที่ให้นมลูก กลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว จึงยังไม่ได้มีการแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด 19 ในช่วงนี้ ภาพจาก https://pixabay.com / Elf-Moondance ส่วนวัคซีนโควิด 19 ที่ได้ผ่านการอนุมัติแล้วมีอยู่ประมาน 2 ตัวด้วยกันคือ 1. วัคซีนแอสตร้าเซนเนกา ( AstraZeneca) โดยให้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยต้องได้รับวัคซีนทั้งหมด 2 ครั้ง ห่างกัน 10 - 12สัปดาห์ และจากการศึกษาองค์การอนามัยโลกและไทยจึงรับรองให้ผู้สูงอายุได้รับการฉีดวัคซีนได้ 2. วัคซีนซิโนแวด ( Sinovac ) โดยในขณะนี้กำหนดให้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 - 59 ปี โดยต้องได้รับวัคซีนทั้งหมด 2 ครั้ง ห่างกัน 2 - 4 สัปดาห์ และการศึกษาวัคซีนของ Sinovac ยังไม่สามารถฉีดให้กับผู้สูงอายุ จึงควรฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 18 - 59 ปีก่อน และยังมีวัคซีนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในการอนุมัติและขึ้นทะเบียนอีกด้วย ภาพจาก https://pixabay.com / Elf-Moondance หลังฉีดวัคซีนโควิด 19 อาจจะมีผลข้างเคียงของวัคซีนแต่ละชนิดได้ เช่น อาการปวด บวมแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายได้เอง แต่การฉีดวัคซีนก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงได้ จึงจำเป็นต้องสังเกตุอาการอย่างน้อย 30 นาทีหลังการฉีดวัคซีน หากเกิดอาการเหล่านี้ก็ให้ปรึกษาแพทย์ ซึ่งการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการป้องกันให้ได้รับเชื้อน้อยลงและก็ยังสามารถลดความรุนแรงของเชื้อลงได้ อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!