หลังจากการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดที่ 7 ในการแข่งขันกันระหว่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดรังในสนามแอนฟิลด์ของพวกเขา เอาชนะ "ขุนค้อน" เวสต์แฮมไปได้ 2-1 ก็ได้มีชื่อของนักฟุตบอลหนึ่งคน ที่เริ่มเป็นที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก เขาคนนั้นคือ "ดิโอโก โชต้า" นั่นเองครับ เขาเริ่มเป็นที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเหล่าแฟนฟุตบอลทั้งเหล่า "เดอะ ค็อป" เอง รวมไปถึงแฟนฟุตบอลทีมอื่น ๆ ก็เริ่มพูดถึงนักฟุตบอลคนนี้มากขึ้นแล้ว วันนี้ผม "นายคิ้ว" จะมาเขียนถึงเรื่องของ "ประวัติ Diogo Jota ว่าที่ไพ่ตายใบใหม่ของลิเวอร์พูล?" กันเองครับ "ดิโอโก้ โฆเซ่ เตเซร่า ดา ซิลวา" หรือชื่อที่เรารู้จักกันว่า "ดิโอโก้ โชต้า" เป็นเด็กหนุ่มที่เกิดในเมืองปอร์โต้ ประเทศโปรตุเกส จุดเริ่มต้นความหลงใหลในกีฬาฟุตบอลของเขา มาจากครอบครัวที่คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอล หลังจากนั้นก็ได้เริ่มเตะฟุตบอลแล้วได้เข้าทีมเยาวชนกอนดอร์มาร์ ทีมเยาวชนในเมืองปอร์โตตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ก่อนที่จะย้ายไปเข้าไปสู่ทีมเยาวชนของ ปากอส เด เฟร์เรร่า เมื่อปี 2013 ความโดดเด่นในฟอร์มการเล่นของโชต้าในทีมเยาวชนนั้น ทำให้ในปีต่อมา โชต้าก็ได้ลงเล่นอย่างเป็นทางการในทีมชุดใหญ่ของปากอส เด เฟร์เรร่า ด้วยการยิง 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ พาทีมต้นสังกัดเอาชนะในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยไปได้ ก่อนที่ฤดูกาลนั้น โชต้าในวัย 18 ปี ได้ลงสนามให้กับต้นสังกัด 12 นัด ทำไปได้ 4 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ และกลายมาเป็นผู้เล่นของปากอส เด เฟย์เรร่าที่อายุ "น้อยที่สุด" ที่สามารถทำประตูได้ในลีคสูงสุดประเทศโปรตุเกสจนถึงปัจจุบัน ฤดูกาลต่อมา ฟอร์มของเขาก็ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาลงเล่นในทุกรายการให้กับต้นสังกัดไป 35 นัด ทำไปได้ถึง 14 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์ จนกระทั่ง "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ค้วาตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร เซ็นสัญญา 5 ปี อย่างไรก็ตาม โชต้าไม่เคยได้ลงเล่นในสีเสื้อแดงขาวนี้เลย เพราะสุดท้ายเมื่อเปิดฤดูกาล โชต้าก็ถูกปล่อยให้กับปอร์โต้ ยืมตัวไปใช้งาน 1 ฤดูกาล และดูเหมือนว่า โชต้าจะเจอทีมที่ใช่แล้ว หลังจากที่ฤดูกาลต่อมา "วูล์ฟส์แฮมป์ตัน" เซ็นสัญญายืมตัวไปใช้งาน โชต้าก็ระเบิดฟอร์มเก่งของเขาได้ทันที ลงเล่นไปในลีกแชมป์เปี้ยนชิพไป 42 นัด ทำไปได้ 17 ประตู 6 แอสซิสต์ พา "วูล์ฟส์" คว้าแชมป์ในลีกแชมป์เปี้ยนชิพ เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกได้อย่างสวยงาม ด้วยฟอร์มที่โดดเด่นเช่นนี้ "วูล์ฟส์" จึงทุ่มเงินถึง 14 ล้านยูโร คว้าโชต้าเข้าสู่ทีม เมื่อ "วูล์ฟส์" เลื่อนชั้นขึ้นมาในพรีเมียร์ลีก พวกเขาเสมอและแพ้ไปในสองนัดแรก ก่อนที่จะพวกเขาจะตั้งหลักได้ ไม่แพ้ใครในลีก 6 นัดติดต่อกัน ซึ่งโชต้าเอง ก็เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดที่ 15 ในฤดูกาล 2018/2019 โชต้าก็สามารถทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ เขาเป็นคนยิงประตูชัยพาวูล์ฟส์แฮมป์ตัน เอาชนะเชลซีไปได้ 2-1 และนัดที่โดดเด่นที่สุดของเจ้าตัวที่สร้างชื่อให้กับเขา เป็นนัดที่เอาชนะเลสเตอร์ไปได้ 4-3 แบบโคตรมัน ในนัดนี้ โชต้าระเบิดฟอร์มสุดยอดมาก ๆ ซัดแฮตทริค ยิงคนเดียว 3 ประตู พา "วูล์ฟส์" กลับมาเอาชนะ "จิ้งจอกสยาม" 4-3 เมื่อจบฤดูกาลนั้น โชต้าได้ลงเล่นไปทั้งสิ้น 37 นัด ซัดไป 10 ประตู 7 แอสซิสต์ อีกทั้งยังพาวูล์ฟส์แฮมป์ตันคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลถ้วยยูฟ่า ยูโรป้าลีกได้สำเร็จ ฤดูกาลถัดมา โชต้าก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดี สามารถทำแฮตทริคไปได้ถึง 2 ครั้ง ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยอย่าง "ยูฟ่า ยูโรป้าลีก" ทำประตูในลีกได้อีก 7 ประตู เมื่อจบฤดูกาลนั้น โชต้าได้ลงเล่นในทุกรายการ 48 นัด ทำประตูไปทั้งสิ้น 16 ประตู 6 แอสซิสต์ เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูกาล 2020/2021 เป็น "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ทุ่มเงินถึง 45 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญาคว้าตัว "ดิโอโก โชต้า" เข้าสู่ทีม โชต้าได้ลงเล่นนัดแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูลในการแข่งขันลีกคัพรอบที่ 3 ชนะลินคอร์น ซิตี้ไปได้ 7-2 ก่อนที่ในนัดต่อมา โชต้าก็ทำประตูแรกในสีเสื้อ "หงส์แดง" ได้สำเร็จ ในนัดนั้นเขาถูกส่งลงสนามมาแทนที่ของซาดิโอ มาเน่ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และเขาก็ทำประตูได้จากการยิงลูกวอลเล่ย์ในนาทีที่ 88 พาทีมต้นสังกัด เอาชนะ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซนอล 3-1 หลังจากนั้น 3 นัด เขาก็เป็นคนโขกประตูชัย พา "หงส์แดง" พลิกกลับมาชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 นัดต่อมา เขาก็เป็นคนยิงประตูแรก ก่อนที่ซาล่าห์จะยิงจุดโทษในช่วงท้ายเกม พาลิเวอร์พูลเอาชนะมิดทิลแลนด์ในยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค 2-0 และนัดล่าสุด โชต้าก็ลงมาในฐานะตัวสำรอง ยิงประตูชัยในช่วง 5 นาทีสุดท้าย พลิกกลับมาเอาชนะ "ขุนค้อน" เวสต์แฮมไปได้ 2-1 การที่ "หงส์แดง" คว้าตัว "ดิโอโก โชต้า" เข้าสู่ทีมนั้น ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลนั้นมีมิติใหม่ๆมากขึ้น หลังจากที่หลายๆทีมเริ่มที่จะพยายามจับทางสามประสานตัวหลักในเกมรุกของลิเวอร์พูลได้บ้างแล้ว เมื่อโชต้าได้ลงโอกาสลงสนาม เหมือนกับว่าโชต้ากลายมาเป็นอาวุธชิ้นที่ 4 ที่พร้อมจะทำลายแนวป้องกันของคู่ต่อสู้ และกลายมาเป็นไพ่ใบที่สิบสองที่เป็นอาวุธลับของลิเวอร์พูล โชต้ากลายมาเป็นคนที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก และเริ่มมัดใจแฟนบอลเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ได้บ้างแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังลงสนามในฐานะตัวสำรอง ลงให้กับทีมต้นสังกัดได้ไม่ถึง 10 นัดด้วยซ้ำ แต่ไม่แน่นะครับ ในอนาคต โชต้าอาจจะกลายมาเป็นนักฟุตบอลตัวหลักของ "หงส์แดง" และเป็นหนึ่งในไพ่ตาย 11 ใบที่ลิเวอร์พูลจะขาดไปไม่ได้ก็ได้นะครับ! จบกันแต่เพียงเท่านี้นะครับ แล้วเจอกันใหม่กับบทความต่อไป "นายคิ้ว" ขอตัวลาไปก่อน ไว้ติดตามกันใหม่ครับ ขอบคุณรูปภาพจาก : sport.trueid.net รูปปก / รุูปที่ 1 / รูปที่ 2 / รูปที่ 3