กีฬาฟุตบอลที่เห็นเล่นกันอยู่ทุกวันนี้ จริงแล้ว มีการเล่นแข่งขันกันมาเนิ่นนานแล้ว มีจัดการแข่งขันชิงแชมป์ ชิงถ้วยรางวัลของรายการต่าง ๆ อยู่มากมาย มีทั้งถ้วยที่เล็ก และถ้วยที่ใหญ่ ในปัจจุบันนี้รายการแข่งขันของฟุตบอล ที่จะมีทีมแต่ล่ะประเทศมาเข้าร่วมเแข่งขันกัน ก็จะมีอยู่ไม่กี่รายการใหญ่ ๆ ที่ผู้คนทั่วทุกมุมโลกต่างให้ความสนใจกัน และน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าฟุตบอลโลกเลย ก็คือ ฟุตบอลยูโร นั้นเอง และวันนี้เราจะมาดูกันว่า ประวัติ และความเป็นมาของฟุตบอลยูโรเป็นอย่างไรกันบ้าง รูปภาพโดย pixel2013 จาก Pixabay การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือเดอะยูฟ่ายูโรเปี้ยนแชมป์เปี้ยนชิฟ เรียกสั้น ๆ ว่า ยูโร เป็นการแข่งขันของทีมฟุตบอลชาย ที่เป็นชาติสมาชิกสมาพันธ์ยุโรป หรือ ยูฟ่า มีการจัดแข่งขันขึ้น ทุก ๆ 4 ปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 ตั้งแต่จัดมาทั้งสิ้น 14 ครั้ง มีทีมชาติที่เคยเป็นแชมป์ คือ เยอรมันนีกับสเปน เป็นแชมป์ 3 สมัย ฝรั่งเศษ 2 สมัย สหภาพโซเวียต ( ประเทศรัสเซียในปัจจุบัน ) เชโกสโรวาเกีย ฮอลแลนด์ เดนมาร์ก และกรีซ ได้คนล่ะ 1 สมัย แต่ทีมชาติสเปน เป็นทีมเดียวที่ได้ 2 สมัย ติดต่อกัน คือในปี 2008 กับ ปี 2012 รูปภาพโดย pixel2013 จาก Pixabay เป็นรายการแข่งขันที่มีผู้ชมมากที่สุด เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากรายการ ฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโรในปี 2012 ในรอบชิงชนะเลิศ มีผู้ชมถึง 300 ล้านคน ฟุตบอลยูโร ได้เริ่มต้นขึ้นแบบจริงจังก็ในช่วงปี 1958 ฝรั่งเศษเป็นประเทศแรก ที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโรนี้ในปี 1960 มีเข้าร่วมกันทั้งหมด 17 ประเทศ แต่ ปัจจุบัน ในรอบคัดเลือก มีทีมชาติที่เข้าร่วมรายการนี้ถึง 54 ประเทศ และจะเหลือในรอบสุดท้ายเพียง 24 ประเทศเท่านั้น รูปภาพโดย pixel2013 จาก Pixabay ในปี 2020 ประเทศที่จะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้ มีทั้งหมด 12 ประเทศ คือ อิตาลี อังกฤษ สเปน อาเซอร์ใบจาน เดนมาร์ก ฮังการี เยอรมนี ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ โรมาเนีย รัสเซีย และประเทศสกอตแลนด์ จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน ถึง 12 กรกฎาคม 2020 มีประเทศเข้าร่วมด้วยกันทั้งหมด 24 ประเทศ สถานที่จัดงาน คือ ตามเมืองหลวงต่าง ๆ ที่ประเทศเจ้าภาพจัดงานขึ้น รูปภาพโดย pixel2013 จาก Pixabay เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับความรู้ในเรื่องประวัติ และความเป็นมาของฟุตบอลยูโร ในปัจจุบัน ฟุตบอลยูโร ยังคงได้รับความนิยมอยู่ค่อนข้างมากในแฟนบอล ถือได้ว่าตั้งหน้าตั้งตารอที่จะชมกันเลยทีเดียว โดยจะมีให้ชมกันทุก 4 ปี ห่างจากรายการแข่งขันฟุตบอลโลกอยู่เพียง 2 ปี เท่านั้น