สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ รู้มั้ยคะ ว่าจะมีอยู่หนึ่งกฎตามหลักวิทยาศาสตร์ ว่าถ้าหากเราคิดบวก เราก็จะได้เจอแต่เรื่องดีๆ เข้ามา แต่ถ้าหาว่าเราคิดลบ เราก็จะเจอแต่เรื่องแย่ๆ หรือเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกแย่ค่ะ กฎนี้มีชื่อว่า "กฎแรงดึงดูด" หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เป็นสิ่งที่ไม่ง่าย ไม่ยาก สามารถทำได้เองค่ะสมมุติว่าหากเพื่อนๆ อยากดึงดูดอะไรเข้ามา อย่างเช่น แฟนเก่า แฟน เงิน เพื่อนๆ สามารถทำได้ค่ะ เพียงแค่คิดบวก เชื่อในพลังของจักรวาล มันฟังดูตลกใช่มั้ยคะ55555 ตอนแรกๆ ที่เราอ่านเรื่องนี้ เราก็คิดว่าเออตลกดีนะ เบียวดีนะ เชื่อมั่นจักรวาลอะไรแบบนี้ แต่พอเราเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ เราถึงได้เข้าใจค่ะ ว่ามันสามารถช่วยได้มากจริงๆเรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนั้นเราเลิกกับแฟนค่ะ เราทะเลาะกันหนักมากจนเลิกกัน แล้วช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่เราทะเลาะกันบ่อยๆ จริงๆ ไม่มีความเข้าใจกัน ต่างคนต่างมีอีโก้ใส่กัน ทะเลาะกันแล้วไม่มีใครขอโทษใคร พอเป็นแบบนี้บ่อยๆ จากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กลายมาเป็นการบอกเลิกกันค่ะ ถามว่าตอนนั้นเราเสียใจมั้ย เราเสียใจค่ะ ตอนบอกโดนบอกเลิก เรานิ่งเลย ช็อคอยู่555555 เขาพิมมาบอกความในใจของเขาทั้งหมดตอนนั้นค่ะ ว่าเราทำตัวอะไรยังไง ซึ่งมันจริงค่ะ เรายอมรับเลยเรางี่เง่ามาก มันเป็นนิสัยพื้นฐานของผู้หญิงเกือบทุกคนเนอะ งี่เง่า เอาแต่ใจงี้ หยอกๆ ตอนนั้นเราเผลอทำกฎ no contact โดยที่ไม่รู้ตัวค่ะ น่าจะเพราะเราคิดว่าถึงทักไปเขาก็ไม่ตอบ ตอนเลิกกัน เราไม่ได้ยื้อเขาไว้ด้วยค่ะ เราแค่คิดว่าตอนนั้นเราเหนื่อยมาก มันเหมือนได้หยุดเวลาทุกอย่างเอาไว้ เราเสียใจนะ แต่เราแค่ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายหนัก เราแค่คิดว่ามันจบแล้วสินะ แล้วเราก็กลับมาทบทวนตัวเองค่ะ ว่าทำไมความสัมพันธ์ของเรามันถึงจบลง แล้วเราก็ได้รู้ว่าเรารักเขามากจริงๆ ตอนที่เราไม่ได้คุยกัน ตอนที่เราห่างกันไป เราขอบอกก่อนว่าเราคบกันแฟนคนนี้ได้สองปีกว่า สำหรับบางคนมันอาจจะไม่นาน หรืออาจจะนาน แต่สำหรับเรามันนานค่ะ และเขาเป็นผู้ชายที่ดีคนนึง ติดแค่ปากเสีย แฮะๆ พอเรากลับมาทบทวนตัวเอง พร้อมยอมรับข้อเสียของตัวเอง เเราก็เริ่มปรับปรุงตัวเองค่ะแต่แรกๆ เรายังอีโก้อยู่นะคะ เรามองว่าตัวเองไม่ผิดด้วยซ้ำ เราเอาแต่ดูดวง ดูบ่อยมากกก แล้วเราก็เชื่อค่ะ แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยคะ ดวงไม่ใช่ทุกอย่างค่ะ คำทำนายมันอาจจะออกมาดี แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย มันก็ไม่ได้ค่ะ งงมั้ยคะ เหมือนเราต้องเตรียมตัวรับสิ่งที่จะเข้ามา ไม่ใช่เอาแต่รอเฉยๆ ค่ะ อย่างเช่นเรา เรื่องแฟนเก่ากว่าจะคิดได้ก็ปาไปเดือนสองเดือน แต่ถามว่าเขากลับมามั้ย เขากลับมาค่ะ เพราะตอนนั้นเราทำ no contact พอเขาเห็นว่าเราไม่ตามไม่ทักไม่อะไรเลย เขากลับมาตามเราค่ะ เราใช้เวลาไม่ถึงเดือนนะคะ เขาก็เริ่มวนเวียนอยู่รอบตัวเราบ่อยๆ จนเขาพูดมาว่า "อยากให้กลับมามั้ย" แต่เราไม่ได้ตอบอะไรไป เพราะเรายังไม่ไว้ใจเขา ในตอนนั้นเราคิดว่าเขาอาจจะหยั่งเชิงรึเปล่านะ อะไรแบบนี้ แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยคะ เขาอยากกลับมาจริงๆ แต่เราไม่ได้เตรียมรับสิ่งนั้นเอาไว้ค่ะ เรายังไม่ได้เปลี่ยนตัวเองนิสัยเดิมๆ ยังออกมา คิดแง่ลบ อคติกับเขาอยู่ มันทำให้เขาไม่อยากกลับมาค่ะ เขาบอกเราว่า "เราไม่เปลี่ยนไปเลย นิสัยยังเหมือนเดิม" แล้วเราก็ทะเลาะกันบ่อย จนหนักถึงขั้นเลิกคุยกันไปช่วงนึงค่ะ ตอนนั้นเราคิดว่าเขาจะหายไปจากชีวิตเราจริงๆ แล้ว เพื่อนๆ คงอยากรู้ว่าทำไมเราไม่หาใหม่ หาใหม่ง่ายกว่า ทำไมต้องยึดติด เพื่อนๆ รู้มั้ยคะ สำหรับเราการเริ่มต้นใหม่มันไม่ได้ง่ายค่ะ จะบอกว่าเราดื้อรั้นก็ได้ 55555555 แต่เราคิดว่า เราอยากพยายามค่ะ เพราะเรายังไม่ได้พยายามเลย ความรักก็เหมือนธุรกิจค่ะมันคือการลงทุน ตอนนั้นเราได้ไปรู้จักกฎแรงดึงดูดเพราะไปเจอช่องนึงใน Youtube พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ตอนแรกก็นั้นละค่ะ ขำ555555 งงว่าอะไรคือกฎแรงดึงดูด ต้องไปอะไรกับจักรวาลยังไง กฎแรงดึดดูด คือการดึงดูดสิ่งที่เราอยากต้องการเข้ามาค่ะ โดยหลักการง่ายๆ เลยค่ะ 1. เลือกเป้าหมาย เราต้องโฟกัสทีละอย่างค่ะ อย่างเช่น ต้องการให้แฟนเก่ากลับมา อยากได้เงิน อยากรวย เราต้องโฟกัสทีละเป้าหมายนะคะ ไม่ใช่วันนี้บอก อยากได้แฟนเก่า พรุ่งนี้บอก เออะ! ไม่เอาละ เอาคนใหม่ดีกว่า ละวันต่อไปเปลี่ยนใจ ไม่ได้นะคะ55555 เป้าหมายเราต้องชัดเจนค่ะ ไม่งั้นจักรวาลจะงงว่าสรุปแล้ว เราต้องการอะไร 2. การคิดบวกค่ะ เราต้องเชื่อมั่นในจักรวาล เชื่อว่าทุกอย่างสำเร็จได้ เชื่อว่าจักรวาลจะคอยซัพพอร์ตเรา ซึ่งข้อนี้มันอาจจะยากค่ะ เพราะเรามักจะเกิดข้อสงสัยตอนเราคิด ว่ามันจะได้จริงหรอ มันจะเป็นจริงมั้ย เรางมงายหรือเปล่า เรากำลังให้ความหวังตัวเองมั้ย เราต้องพยายามเลิกคิดค่ะ ต้องคิดบวก ว่ายังไงก็ต้องได้ ต้องได้แน่ เดี๋ยวจักรวาลจะช่วยเหลือเรา เหมือนเราสั่งของในเว็บค่ะ เราก็สั่งของไปที่เหลือปล่อยให้ร้านจัดการ ปล่อยวางไม่ต้องจดจ่อ ไม่ต้องไปนึกสงสัยอะไรค่ะ 3. นึกถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เพื่อนๆ คงจะงงว่าแบบ มันยังไม่เกิดขึ้นนะ แล้วจะให้คิดยังไง นึกภาพไม่ออกอะไรแบบนี้ เราต้องพยายามสร้างภาพในหัวค่ะ ที่ไม่ใช่แค่ภาพจินตนาการแบบคิดๆ ไป แต่เราต้องใช้ความรู้สึกด้วย ถ้าหากว่าเราได้สิ่งนั้นเราจะรู้สึกยังไง เราจะมีความสุขมากมั้ย เราจะดีใจ ร้องไห้ หรืออะไรก็ว่าไปค่ะ พยายามนึกถึงผลลัพธ์ว่าเราได้สิ่งนั้นมาแล้ว คิดว่ามันเป็นของเรา แล้วจักวาลจะนำสิ่งนั้นมาให้เพื่อนๆ ค่ะ 4. Visaulization มันคือการจินตภาพค่ะ เป็นการใช้สมาธิเพื่อสร้างภาพในหัวค่ะ ว่าเราได้สิ่งนี้แล้วนะ นึกถึงภาพว่ามันจะเกิดขึ้นยังไง วันนั้นเราจะดีใจมากแค่ไหน เราจะรู้สึกยังไง อย่างเช่น ของเราเราอยากเจอแฟนเก่า เราคิดภาพในหัวก่อนนอนค่ะ มันจะเป็นช่วงที่เราไม่ค่อยได้คิดอะไรเท่าไหร่ เราก็หลับตาหายใจเข้าลึกๆ สักพักพอจิตใจเราเริ่มนิ่ง เราก็นึกภาพว่าเขาทักมาหาเรา บอกว่าจะมาหาเรา ตอนเขาทักมาเรามีความสุขมาก ตื่นเต้นมาก ดีใจมาก แล้วเราก็ได้กลับมาคุยกัน มาปรับความเข้าใจกัน บลาๆๆๆ ทำสัก 3-5 นาทีก่อนนอน กับตอนหลังจากตื่นนอนค่ะ ทำเสร็จแล้วปล่อยวาง ไม่ต้องโฟกัส ไปหาทำอะไรของเราต่อได้เลยค่ะ5. As ac if อันนี้แนะนำทำตอนอยู่คนเดียวนะคะ มันจะเขินๆ หน่อย 5555555 เพื่อนๆ มีโทรศัพท์ใช่มั้ยคะ (มันก็ต้องมีทุกคนอยู่ละป่ะ?) ข้อนี้เราจะนึกภาพกับโทรศัพท์ค่ะ งงมั้ยคะ ไม่งงนะ555555 มันเหมือนข้อสี่ค่ะ แต่อันนี้เราจะมีการแอดติ้งกับโทรศัพท์ อย่างกรณีเราคือไม่ได้คุยกันใช่มั้ยคะ เราก็คิดว่าเขาทักมาหาเรา โทรมาหาเรา ให้จับโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วนึกถึงแชทเขาที่เราดคุยด้วยบ่อยๆ คิดว่าทักมาหรือโทรมาก็ได้ เขาทักมายังไง โทรมาว่ายังไง ตอนนั้นเรารู้สึกยังไง ตื่นเต้น ดีใจ คิดถึง ใส่ความรู้สึกเข้าไปค่ะ เยอะๆ เลย ยิ่งรู้สึกเหมือนจริงเท่าไหร่ จักรวาลยิ่งจะทำงานให้เราเร็วมากขึ้น ถ้าเรารู้สึกสงสัย รู้สึกว่ามันจริงหรอจะได้จริงหรอ จักรวาลจะไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เราต้องการค่ะ ส่วนตัวเราลองทำทุกข้อค่ะ เราลองคิดบวก คิดว่ายังไงเดี๋ยวเขาก็ทักมา แล้วเขาก็ทักมาค่ะหลังจากที่ไม่ได้คุยกันเกือบอาทิตย์ ทักมาชวนไปร้องเพลง555555 ตอนนั้นเรากรี๊ดลั่นร้านบาบีก้อนเลยค่ะ แอบเขิน เพราะแบบเราทำมันทุกวัน พอมันเกิดขึ้นจริง เราดีใจมากค่ะ เพื่อนๆ อย่าลืมขอบคุณจักรวาล ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณรอบข้างด้วยนะคะ ขอบคุณอะไรก็ได้ที่เรารู้สึกว่าต้องขอบคุณ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ยิ่งเราขอบคุณยิ่งเป็นการทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีเร็วขึ้นค่ะ ที่สำคัญเลยคือ เราต้องคิดบวกด้วยนะคะ คิดบวก ปล่อยวาง แล้วผลลัพะ์จะเกิดขึ้นไวขึ้นค่ะ เราทำทุกวัน เราเชื่อว่ายังไงมันก็จะเกิดขึ้น เราเชื่อว่าจักรวาลจะรับฟังเรา เราก็มีท้อเหมือนกันนะคะ แต่เราไม่ถอย เวลาเราคิดลบเราจะรีบหาอย่างอื่นทำเลยค่ะ เพื่อไม่ให้คิดลบ ตอนนี้เรากับแฟนเก่าได้กลับมาคุยกันเหมือนเดิมแล้วค่ะ ถึงแรกๆ จะยังมีกำแพงกันอยู่ แต่พอคุยกันไปเรื่อยๆ สักพัก เราพยายามให้เขาเห็นว่าเราไม่เหมือนเดิมแล้ว ว่าเราเปลี่ยนแล้ว เขาก็ดูอ่อนโยนกับเรามากขึ้น ดูเอ็นดูเรามากขึ้น ความสัมพันธ์ดีขึ้น แต่เรายังไม่ได้กลับมาคบกันนะคะ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาค่ะ กับการที่จะสลัดภาพในอดีตของเราไป มันยาก แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถเราค่ะ ถ้าเราตั้งใจและเชื่อมั่นว่าทำได้ ยังไงก็ต้องมีผลลัพธ์ดีๆ รออยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มาอ่านนะคะ ขอให้เพื่อนๆ เจอแต่สิ่งดีๆ มีแต่พลังงาบวกนะคะภาพถ่ายโดย Ánh Đặng: pexelsภาพถ่ายโดย Ánh Đặng: pexelsภาพถ่ายโดย George Milton: pexelsภาพถ่ายโดย Josh Hild: pexelsภาพถ่ายโดย Ánh Đặng: pexels7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์