อันนี้เป็นบทความแรกที่มาลองเขียนเพื่อหารายได้ในช่วงกำลังพักผ่อนตอนตั้งท้องค่ะ ยังนึกไม่ออกจะเขียนเรื่องอะไรดี เลยขอเอาเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาแชร์นะคะ เรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อช่วง ต้นปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ ตอนนั้นทำงานที่ออฟฟิตแห่งนึง แล้วก็พบว่า คนในที่ทำงานไปตรวจเจอว่าติดเชื้อ จึงได้ไปตรวจที่มีรับเปิดตรวจฟรีกัน คนเข้าแถวตรวจกันเป็นร้อยๆคน ไปตั้งแต่ตี5ตรวจเสร็จราวๆเที่ยง แล้วอีก2-3วันให้หลัง ก็มีsmsแจ้ง แล้วเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อมา เก็บของแล้วเดินทางไปที่รพที่ขึ้นตรงกับที่ตรวจฟรีในวันนั้น โดยมีคนรู้จักพี่ที่ทำงานที่ติดเชื้อเหมือนกันมารับอาการของเรา หายใจไม่ค่อยออก มีไข้ ไอ ยังรับรสได้แล้วได้กลิ่น คลื่นไส้อาเจียน คล้ายคนเป็นไข้หวัดใหญ่ เจ้าหน้าที่ก็ให้พวกเรานั่งรอถึงคิวตรวจเลือด มีคนติดโควิดที่รอคิวเป็นร้อย กว่าจะเจาะเลือดและประสานงานกับทางโรงแรมเสร็จ รถรพ.ก็มารับพวกเราช่วงเที่ยงคืนไปส่งที่โรงแรม แต่ล่ะคนก็ถูกส่งไปต่างสถานที่กัน เป็นโชคดีของเราที่ได้มาที่โรงแรมอัสมาส พยาบาลและหมอดูแลดีมากๆค่ะ สงสารเจ้าหน้าที่ทุกท่านทำงานกันหนักมาก เพราะเป็นช่วงที่โควิดระบาดหนักมากค่ะ แล้วก็ถือว่า เราโชคดีที่ติดเชื้อในตอนนั้น เพราะถ้าช้ากว่านั้นคือเป็นช่วงที่ในกทมไม่มีเตียงแล้ว ห้องที่เราได้พัก เป็นห้องที่หรูหราดูดีสะอาดตามากๆ ภายในห้องมีแอร์ มี 2 ที่นอน มีห้องน้ำในตัว มีตู้เย็น ตู้เชฟ กาต้มน้ำ น้ำเปล่า โดยจับคู่พักกับรุ่นพี่ที่ทำงานอีกคนที่ติดเชื้อโควิดเหมือนกัน การติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่จะเน้นทางไลน์กลุ่มค่ะ และเจ้าหน้าที่จะคอยโทรมาสอบถามอาการ และให้ยาตามอาการ ห้ามออกไปภายนอกห้องค่ะ เจ้าหน้าที่จะติดต่อมาก่อนเพื่อเรียกเราไปทำการตรวจต่างๆ รถของทางรพ.ก็มา เอกซเรย์ปอด ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าตัวเองท้องก็เอกซเรย์ตามปกติและผลคือ เราเชื้อลงปอดค่ะ อาจด้วยอาการที่ดูเหมือนไม่หนักมาก เรากินข้าวได้ ได้กลิ่น แถมยังได้มานอนโรงแรมหรูๆ เราเลยพยายามทำใจให้สบาย คิดว่า มาพักผ่อน จริงๆอาการคือแย่มากๆ รู้สึกเหนือยมากๆ หายใจไม่ค่อยออก ผมร่วงเต็มห้อง แต่อยู่ในมือหมอแล้ว ถ้าตายก็ถือว่า หมดกรรมไปสบายแล้ว เราเชื้อลงปอดแต่ยังพอไหว ก็คอยดูแลรุ่นพี่ที่ทำงานที่พักห้องเดียวกัน เขาไม่เชื้อลงปอด แต่เสียการรับรสเสียการได้กลิ่นเลยเสียขวัญมาก รวมทั้งกังวลสังคมจะรังเกียจเขากับครอบครัวตอนกลับไป ซึ่งเป็นเรื่องจริงในสังคมแถวบ้านพี่เขาค่ะ แต่เราเป็นพวกไม่แคร์สังคม เลยไม่สนจุดนั้นก็คอยปลอบเขาทั้งๆที่ตัวเองป่วยหนักกว่า555 อย่างที่บอกค่ะ เรารู้สึกโชคดีมากที่ได้มาพักรักษาที่นี้สิ่งที่เยียวยาจิตใจเรา นอกจากที่นอนนุ่มๆแอร์เย็นๆแล้วคือนานาของกินในแต่ล่ะมื้อค่ะ นึกถึงตอนนั้นยังลาภปาก ที่นี้เขาจะจัดอาหารมาให้ เช้า กลางวัน เย็น แล้วทุกมื้อคือ ดีงามมากกกกก คือฐานะของเราไม่ได้ดีมากค่ะ ที่จะได้กินหรูครบมื้อแบบนี้ทุกวันเลย แฮปปี้มาก ในแต่ล่ะมื้อ รุ่นพี่เขาทานไม่ไหว ก็ให้เราทาน อาหารแต่ล่ะอย่างเกรดดีมากค่ะ TwT นอกจากนี้ ช่วงก่อนบ่ายยังสามารถสั่งไลน์แมน 7-11 มาส่งได้โดยเจ้าหน้าที่จะยกมาให้ตอนบ่ายค่ะ แล้วแถวโรงแรมอัสมาสคือของกินอร่อยๆเยอะมากเป็นการป่วยที่สบายสุดในชีวิตค่ะ กินกระจาย ตั้งแต่ ส้มตำ ชูชิ ยัน kfc และอีก ฯลฯ ^q^ หลังรอเรื่องเบิกก็ได้รับยามาทานค่ะ มียาแก้ไอ แก้หวัด แล้วก็ยาต้านโควิดเพราะเชื้อลงปอด ส่วนพี่อีกคนไม่ได้เชื้อลงปอด เลยไม่ได้ยาต้าน ให้นอนพักรักษาตัวตามอาการ วันๆก็นอน กิน เล่นเฟส เล่นเกมมือถือ ดูทีวี รักษาตามอาการ สบายมากๆแค่ทำตามข้อบังคับ ไม่ออกไปนอกห้อง พักฟื้นตามหมอบอก อาการค่อยๆดีขึ้น เราได้ทราบเรื่องจากพี่ๆที่ทำงานทีถูกส่งไปคนล่ะที่ คนล่ะเรื่องกับของเราเลยค่ะ เรื่องอาหารคือเหมือนตามรพ. ไม่มีแอร์ และยานานมากกว่าจะมาถึง จนพี่ที่ทำงานเสียชีวิต ไป 2 คน เศร้าเสียใจมากกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากติดเชื้อ และไม่มีใครอยากให้เกิดค่ะ นอกจากพี่ที่ทำงานแล้วก็ยังมียาย กับแม่พี่ที่ทำงานที่เสียถ้าหากเราไม่โชคดีตรวจเจอเร็ว แล้วได้รับการรักษาเร็ว เราก็อาจไม่รอดได้มาเล่าค่ะ และที่สำคัญลูกเราเองก็คงตายไปพร้อมกัน เราเอะใจว่า ตัวเอง คลื่นไส้หนักมากและประจำเดือนยังไม่มา เลยลองสั่งที่ตรวจการตั้งครรภ์จากใน 7-11 มาค่ะ พอรู้ว่าท้อง ดีใจมากกกกกกกก พ่อของลูกรู้ก็ดีใจสุดๆ แต่ก็แทบสติแตกห่วงหนักเลยเพราะอยู่คนล่ะจังหวัด555พอทราบว่าท้องก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ หมอพยาบาลยิ่งดูแลเราเป็นเคสพิเศษ เพราะกินยาต้านโควิดกลัวกระทบลูก มียาแบบสำหรับคนท้องแต่ราคาสูงมาก และยังไม่มีงานวิจัยว่ามีผลกับเด็กไหมจึงต้องเสี่ยงค่ะ เพราะแม่เชื้อลงปอด เป็นความรู้สึกว่า ลูกมาเกิดเพื่อช่วยชีวิตแม่มากๆ ถ้าไม่มีเขามาเราอาจรู้สึกไม่อยากสู้ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะหลังจากรักษาหายก็คงตกงานไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องไม่รู้จะใช้ชีวิตอย่างไงต่อร่างกายก็ไม่เหมือนเดิมทำงานหนักๆไม่ไหว พอเขามาเกิดเราก็รู้สึกมีความหวังต้องมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อลูก แล้วลูกก็มีบุญมาในตอนที่แม่สบายซะด้วยปกติอดๆอยากๆอดมื้อกินมื้อทำงานหนัก แต่ตอนได้มารักษาตัวมีกับข้าวกินทุกมื้อแถมรุ่นพี่ก็ใจดีเลี้ยงของกินแทบทุกวันพอเขาอาการดีขึ้นขอบคุณที่เราดูแลเขา ผ่านไปราวๆ 16 วันได้ค่ะ ผ่านการเอกซเรย์โดยคราวนี้มีเครื่องป้องกันไม่ให้รังสีโดนลูกในท้อง เชื้อที่เกาะปอดเป็นฝ้าก็เบาลง หมอให้กลับบ้านได้ค่ะ ยังมีอาการเหนือยมากๆ หายใจไม่ค่อยออกผสมกับแพ้ท้องหนัก ไม่อยากกลับบ้านเลย คิดถึงแอร์เย็นๆที่นอนนุ่มๆและกับข้าวอร่อยๆทุกมื้อ สำหรับตัวเรา เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ ที่รอดมาได้ และได้รับความช่วยเหลือเต็มที่มากๆ เสียแค่ค่าปรอทวัดไข้ 80 บาทแต่หลายชีวิตต้องเจอกับการสูญเสีย และบุคคลกรทางการแพทย์ทำงานอย่างหนักกันมากๆ ขนาดตัวเราป้องกันตัวเองดียังติดเชื้อ ตอนนั้นก่อนติดเชื้อก็มีคิวจะได้ฉีด Az เดือนหน้า แต่ก็ดีที่ติดเชื้อค่ะ เพราะถึงเวลา คิวกลับโดนเลือน เลยได้ภูมิป้องกัน นี้ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ลูกในท้อง แข็งแรงดีมากค่ะ ดิ้นตลอด แม้จะผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งยาโควิด การเอกซเรย์ แต่เจ้าตัวเล็กก็สู้สุดใจเป็นกำลังใจให้แม่มีชีวิตอยู่ หลังติดโควิดก็ออกจากงานมาอยู่กับพ่อของลูกที่ต่างจังหวัดเพราะแพ้ท้องหนักมากจนทำงานต่อไม่ไหวบวกเชื้อกินปอดไปแล้วร่างกายจึงไม่เหมือนเดิม ตอนนี้ก็กำลังจะได้ฉีดไฟเชอร์เข็ม 2 ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้แล้วค่ะก็ต้องมาระวังโอไมครอนกันอีก >< มาถึงตรงนี้อยากบอกว่า แม่ๆท่านใดที่ติดโควิดพยายามทำใจให้สบายนะคะ ถ้าร่างกายเราแย่ลงพร้อมสภาพจิตใจแย่ลงด้วยจะมีผลกับลูก ขอให้ทุกคนผ่านพ้นไปได้นะคะ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ทำให้รอดชีวิตมาได้ ภาพทั้งหมดถ่ายโดย Xมาป่าtดีeวดาEเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !