อื่นๆ
ประสบการณ์ลูกจ้างในแบบมนุษย์เงินเดือน
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนแล้วนั้นย่อมหนีไม่พ้นสถานะการเป็นลูกจ้าง ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องยึดอาชีพการเป็นลูกจ้าง แน่นอนว่าหากทางบ้านไม่มีธุรกิจรองรับหรือไม่มีเงินทุนที่จะเปิดกิจการเป็นของตัวเองหรือสอบข้าราชการไม่ได้นั้นสิ่งแรกที่หลายๆคนทำเมื่อเรียนจบใหม่ๆคือการเดินเข้าไปหาสมัครงานตามบริษัทต่างๆ หากใครได้เข้าทำงานในองค์กรที่ดีมีมาตรฐาน ไม่ทำอะไรที่ขัดต่อหลักกฏหมาย มีผู้นำที่คิดถึงลูกน้อง มีผลตอบแทนที่ดี มีโบนัสปลายปีให้ชื่นใจก็ถือว่าโชคดีไป ผมจึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็นลูกจ้างในแบบมนุษย์เงินเดือนที่ผมเคยพบเจอมา เผื่อไว้เป็นความรู้ถึงสิ่งที่อาจต้องพบเจอในการทำงาน
สำหรับตัวผมเองนั้นเคยทำงานมาแล้วหลักๆอยู่ 3 องค์กรด้วยกัน ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป จนมาถึงองค์กรสุดท้ายที่ผมทำ ผมทำอยู่ที่นี่เกือบ 5 ปี และภายในองค์กรนี้มีบริษัทในเครืออยู่นับ 10 บริษัท ทำธุรกิจหลายอย่าง และนี่คือสิ่งที่ผมเคยพบเจอมา
Advertisement
Advertisement
- ให้ทำงานเกินเวลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง คือในแต่ละปี ทางบริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนขอบเขตตำแหน่งงาน ซึ่งต้องให้พนักงานแก้ไขปรับปรุงขอบเขตตำแหน่งงานของตัวเอง ซึ่งช่วงเวลาในการทำขอบเขตงานนี้พนักงานทุกคนจะต้องทำงานเกินเวลาโดยที่ไม่ได้รับค่าจ้าง เพราะในเวลาทำงานก็ต้องปฏิบัติหน้าที่และต้องมานั่งทำขอบเขตไปด้วย จึงต้องใช้เวลาทำงานเกินกว่ากำหนด ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าจะทำเสร็จ ทำเสร็จส่งไม่ผ่านก็ต้องมานั่งแก้ใหม่ และบางคนต้องทำอยู่ถึงดึกจนเที่ยงคืนก็มี แน่นอนว่าการทำแบบนี้ผิดต่อกฏหมายอย่างชัดเจน
- มีกำไรแต่ไม่จ่ายโบนัส แน่นอนว่าโบนัสมันคือสิ่งจูงใจในการทำงานอย่างดี เมื่อเราทำงานเหนื่อยมาทั้งปีพอได้โบนัสมันก็ทำให้เรามีแรงสู้ต่อในปีต่อไป ซึ่งผมเองทำงานมาเกือบ 5 ปีได้โบนัสอยู่ครั้งเดียว ทุกๆปีทางบริษัทจะประกาศผลกำไรให้พนักงานทราบ โดยส่วนใหญ่แล้วจะได้กำไรทุกปี แต่อาจจะไม่ถึงเป้าหมายเขาจึงไม่จ่ายโบนัส อันนี้ก็พอเข้าใจได้ แต่สิ่งที่ผมเจอมาคือ เขาจ่ายโบนัสให้เฉพาะบางคน เช่น จ่ายโบนัสให้เฉพาะคนที่เป็นระดับหัวหน้า แบบนี้มันยิ่งหมดกำลังใจในการทำงาน
- ยึดเงินประกัน เรื่องเงินประกันนี้เป็นเรื่องที่เพื่อนร่วมงานของผมหลายคนเจอ ซึ่งที่บริษัทแห่งนี้จะต้องเสียเงินประกันมีตั้งแต่ 2,000 บาท ไปจนถึงระดับหัวหน้าหรือตำแหน่งที่เกี่ยวกับเงินคือ 10,000 บาท ซึ่งกฏของบริษัทมันมีอยู่ว่า ถ้าจะลาออกต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน ส่วนระดับหัวหน้าต้องแจ้งล่วงหน้า 2 เดือน ถ้าออกก่อนกำหนดจะไม่คืนเงินประกัน และจากที่ผมได้หาข้อมูลมา ไม่ว่าบริษัทจะเขียนกฏอะไรขึ้นมาก็ไม่สามารถเอาเงินประกันของลูกจ้างได้ ถ้าลูกจ้างไม่ได้ทำความเสียหายให้แก่บริษัท และในความเป็นจริงกฏที่บริษัทเขียนขึ้นมาถ้าระดับหัวหน้าลาออกต้องแจ้งล่วงหน้า 2 เดือน ผมอยากถามว่าถ้าเราได้งานที่ใหม่จะมีบริษัทไหนรอเราถึง 2 เดือนไหม บริษัทนี้เขามักจะชอบใช้กฏระเบียบนี้เป็นข้ออ้างในการไม่คืนเงินประกันลูกจ้าง ซึ่งขัดต่อหลักกฏหมายอย่างชัดเจน
- บีบให้พนักงานลาออก แน่นอนครับว่าเมื่อบริษัทประสบปัญหา ทางแรกที่เขาจะทำคือการปลดพนักงานออก ถ้าปลดออกแล้วจ่ายเงินชดเชยตามกฏหมายก็ไม่เป็นไร แต่อย่างผมเจอมาคือ เพื่อนในแผนกเดียวกันถูกย้ายให้ไปทำแผนกอื่น แล้วนำงานของคนนั้นมากระจายงานให้คนที่เหลือโดยไม่เพิ่มเงินเดือนให้สักบาท แน่นอนครับงานหนักขึ้นค่าแรงเท่าเดิม ส่วนเพื่อนที่โดนย้ายไปก็ถูกบีบสารพัดเพื่อกดดันให้ลาออก เพราะถ้าจะจ้างออกบริษัทต้องเสียเงินค่าจ้างตามอายุงานตามกฏหมาย เขาจึงเลือกที่จะบีบให้ลาออกเอง
- ลอยแพพนักงาน จากสถานการณ์โควิด19 ทำให้หลายๆบริษัทต้องหยุดกิจการชั่วคราว จากการที่เกิดการระบาดรอบแรกนั้นทางภาครัฐได้มีการแจกเงินช่วยเหลือ แต่จากการระบาดรอบที่สองนั้นถ้าบริษัทไหนไม่เข้าเกณฑ์ให้หยุดก็จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ และถ้านายจ้างสั่งให้หยุดงานเอง นายจ้างจะต้องจ่ายค่าเยียวยาให้แก่ลูกจ้าง แต่สิ่งที่ผมเจอคือสั่งให้หยุดงานโดยไม่ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายใดๆเลยทั้งสิ้น สั่งหยุดไปเรื่อยๆโดยไม่มีการชี้แจงใดๆเลย เหมือนการลอยแพพนักงาน เป็นอยู่แบบนั้นประมาณ 3 เดือน และจากที่ผมเห็นมาคือนายจ้างคนนี้แทบจะไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากนัก เพราะการระบาดรอบแรกนายจ้างเขาออกรถหรูป้ายแดงราคาหลายล้านบาทมาใหม่ พอระบาดรอบที่สองก็สร้างบ้านหลังใหญ่แทบจะเป็นคฤหาสน์ราคาหลายสิบล้านบาท นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้พนักงานอย่างเราอดคิดไม่ได้ว่าทำไมเขาไม่ช่วยเหลือพนักงานบ้างเลยในยามที่เดือดร้อนเลย
- คำพูดที่ว่าไม่พอใจก็ไปลาออก นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่นายจ้างเขาเคยพูดไว้หลายๆครั้ง แน่นอนแหละครับว่าหลายคนก็อาจจะคิดแบบนี้ว่าถ้าไม่พอใจก็ลาออกไป แต่ในความเป็นจริงแล้วน้อยคนนักที่จะกล้าลาออก การลาออกสำหรับหลายๆคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปเริ่มต้นใหม่ หลายๆคนมีภาระต้องรับผิดชอบ ซึ่งการลาออกไปมันค่อนข้างมีความเสี่ยง บางคนอายุมากแล้วลาออกไปก็กลัวจะหางานไม่ได้ การที่นายจ้างพูดเช่นนี้ยิ่งทำให้ลูกจ้างไม่มีกำลังใจที่จะทำงาน และยังสร้างภาพลบให้กับตัวนายจ้างและองค์กร
Advertisement
Advertisement
สิ่งที่อยากบอกกับนายจ้างในฐานะลูกจ้าง
เนื่องจากผมเองเคยพบเจอกับปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น แล้วมันทำให้รู้สึกถึงการเอาเปรียบ ทำให้ไม่รู้สึกรักในองค์กร สิ่งที่อยากบอกคือถ้านายจ้างอยากให้บริษัทมีความเจริญก้าวหน้า อยากให้พนักงานทุกคนทำงานอย่างตั้งใจ อยากให้งานออกมาดี ควรจะทำให้พนักงานรู้สึกรักในองค์กร รักในงาน คำพูดที่ให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หากมีกำไรสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆก็เป็นสิ่งทำให้ลูกจ้างมีกำลังใจ เชื่อเถอะครับว่าถ้าลูกจ้างได้รับการดูแลที่ดีงานมันจะออกมาดีเอง เพราะทำงานทำแล้วมีความสุข ไม่ใช่การออกกฏระเบียบอะไรออกมาเพื่อทำให้พนักงานอึดอัด กฏต่างๆที่ขัดต่อหลักกฏหมาย แบบนี้มันจะยิ่งสร้างความอึดอัดในการทำงาน ซึ่งอาจทำให้งานที่ออกมาไม่มีประสิทธิภาพ และหากจำเป็นต้องลดพนักงาน ควรที่จะเรียกคุยดีๆ หากจ่ายให้ตามกฏหมายไม่ได้ก็ควรหาข้อตกลงว่าจะชดเชยให้ได้เท่าไร ผมคิดว่าชดเชย 1-2 เดือนก็ยังดีกว่าการบีบให้ลาออกเอง อยากให้นายจ้างคิดซะว่าให้เงินเขาไปตั้งตัวระหว่างรองานใหม่ ขอให้คิดว่าบางคนเขาอาจมีครอบครัวต้องดูแล การบีบให้ออกเองนั้นจะยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับคนๆนึงเป็นอย่างมาก สุดท้ายแล้วควรยึดเอาตามหลักกฏหมายจะดีที่สุด ในความเป็นจริงแล้วหากนายจ้างไม่ทำตามกฏหมาย ลูกจ้างน้อยคนนักที่จะกล้าไปฟ้องร้อง คนธรรมดาส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ค่อยมีใครจะกล้าไปสู่กับคนมีเงินอยู่แล้ว ก็ขอให้คิดถึงหลักมนุษยธรรมก็จะดีที่สุด
Advertisement
Advertisement
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ที่พบเจอมา ผู้เขียนเองอยากให้ผู้อ่านที่เป็นลูกจ้างคิดว่าการทำงานประจำมันมีความไม่แน่นอน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์โควิดที่ผ่าน ทำให้หลายๆคนต้องออกจากงาน บทความนี้จึงอยากให้เห็นว่าการมีเงินเก็บเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยามฉุกเฉิน จงเก็บเงินไว้ให้มากๆและที่สำคัญควรมีอาชีพเสริมไว้รองรับหากจำเป็นต้องออกจากงาน
ภาพปก โดย Lukas Bieri จาก Pixabay">lukasbieri จาก pixbay
ภาพที่ 1 โดย Ronald Carreño จาก Pixabay">RonaldCandonga จาก pixbay
ภาพที่ 2 โดย www_slon_pics จาก Pixabay">www_slon_pics จาก pixabay
ภาพที่ 3 โดย Pexels จาก Pixabay">pexels จาก pixabay
ภาพที่ 4 โดย Pavlo จาก Pixabay">pavlofox จาก pixabay
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น
