สวัสดีครับเพื่อน ๆ ห่างหายกันไป 3 เดือนกว่าเลยเลยที่ผมไม่ได้เขียนบทความ ต้องขอเกริ่นสาเหตุที่ไม่ได้เขียนบทความเนื่องจากติดงานหลายอย่าง ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลายและเรียน Pre-degree ม.รามคำแหงไปด้วย และช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมาเป็นช่วงสอบของโรงเรียนตามด้วยของมหาวิทยาลัยรามคำแหงผมจึงไปเตรียมตัวสอบ และได้ผ่านช่วงเวลาสอบมาแล้ว ผมจึงอยากจะเอาประสบการณ์การเรียน เรียนของตัวเองในช่วง 1 เทอมที่ผ่านมาแบ่งบันให้เพื่อน ๆ ให้ได้ทราบต้องขออธิบายกันก่อนนะครับว่า Pre-degree คืออะไรสำหรับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านแล้วอ่านไม่ทราบ แต่ผมเดาว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาอ่านบทความนี้น่าจะเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหงเช่นเดียวกันกับผม แต่จะขอให้ข้อมูลไว้ เผื่อมีรุ่นถัดมาหาข้อมูลสนใจเรียน Pre-degree เหมือนกันกับผมผมจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ นะครับPre-degree คือการเรียนปริญาตรีล่วงหน้า เหมาะสำหรับคนที่จบ ม.3 แล้ว โดยนักศึกษา Pre-degree สามารถเรียนควบคู่ไปกับมัธยมปลายได้ เมื่อสมัครเป็นนักศึกษา Pre-degree ก็ลงทะเบียนเข้าเรียนออนไลน์หรือในมหาวิทยาลัยตามแต่สะดวก และก็สอบปลายภาคครับ ข้อดีคือเหมาะสำหรับคนที่รู็ตัวเองเร็วว่าชอบอะไรอยากเรียนอะไร และผู้ที่ต้องการจบปริญญาตรีเร็วกว่าปกติครับสำหรับผมนั้นสมัครเป็น Pre-degree (ส่วนกลาง) รหัส 66 และเรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ เพราะผมมีความสนใจในภาษาญี่ปุ่น จึงเลือกเรียนวิชาเอกเอกญี่ปุ่น และวิชาโทภาษาไทยวิทยาครับ อันที่จริงอยากให้มีคณะมนุษย์เปิดสอนในส่วนภูมิภาคด้วยแต่ว่าก็ไม่มีคณะนี้เปิด จึงทำให้ผมตัดสินใจเรียนส่วนกลางตามความชอบของตนเอง ข้อดีของมหาวิทยลัยรามคำแหงที่ผมชอบคือเราสามารถจัดการบริหารเวลาเรียนเองได้เพราะเราแค่ลงเรียนในวิชาที่โครงสร้างหลักศุตรกำหนดโดยลงได้สูงสุด 22 หน่วยกิตต่อเทอม และลงได้ 3ภาคเรียน คือ 1และ 2 และภาคฤดูร้อนแต่ภาคฤดูร้อนจะลงได้น้อยกว่า ลงเสร็จสอบผ่านก็ยื่นขอจบการศึกษาได้เร็ว อย่างคณะผมใช้ 139 หน่วยกิต จบเร็วที่สุดได้ก็แค่ 3 ปี อีกอย่างคือไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็สามารถสมัครเป็นนักศึกษาเข้าเรียนได้ ให้อิสระกับการศึกษาและการบริหารจัดการตัวเอง ผมว่าเป็นมหาวิทยาลัียที่เหมาะกับผมครับและอีกอย่างคือการเปิดให้นักเรียน ม.ปลายเรียนล่วงหน้าคือการ Pre-degree เพื่อน ๆ คนไหนชอบสไตล์การเรียนแบบนี้ผมก็ขอชวนมาสมัครเรียนกันได้เลยนะครับ จุดเริ่มต้นการสนใจเรียน เกิดขึ้นในช่วงท้าย ม.3 ของผมหลังจากที่ผมได้เลือกเรียนต่อ ม.ปลาย แผนการณ์เรียนวิทยาศาสตร์ -คณิตศาสตร์ (เพิ่มเติมภาษาญี่ปุ่น) จึงอยากลองเรียนภาษาญ๊่ปุ่นในระดับที่สูงขึ้นไปอีก หากเพื่อน ๆ จะตัดสินใจเรียนอะไรก็ลองหาสิ่งที่เหมาะกับเราและตัดสิ้นใจเลือกนะครับในส่วนของการเรียนผมยอมรับเลยว่าเหนื่อยมาก ๆ เพราะนอกจากจะต้องเรียนในโรงเรียนแล้วนักศึกษา Pre-degree อ่านหนังสือเตรียมสอบด้วย โดยผมใช้อ่านเอกสารที่สอนและทำสรุปเป็นไฟล์ไว้อ่าน แล้วมันก็จะมีบางวิชาที่อาจารย์ไม่ได้ทำเอกสารประกอบการสอนผมก็ใช้วิธีดูบรรยายย้องหลัง ซึ่งสามารถรับชมผ่านเว็บไซต์ได้เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ แล้วก็ทำสรุปเนื้อหาครับ เทอม 1 /66 ตอนนี้เกรดออกมาก็เป็นประมาณนี้เลยบางเกรดก็พอจะรู้ก่อนผลออกเพราะ จากการที่ไปสอบ e-testing ก็พอจะรู้เกรดแล้วบางวิชาไว้ถ้ามีโอกาสผมจะเอาเรื่องสอบ e-testing มาเขียนให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับแหม ผมเองก็ได้มาครบเลย ตั้งแต่ A ถึง F เลยต้องรับกันแบบอบอุ่นสำหรับการเป็นนักศึกษาใหม่เทอมแรกของผม แต่ก็ผ่านไปสำหรับประสบการณ์การเรียน มาถึงช่วงสอบผมต้องเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพ ก็ด้วยความที่เราไม่เคยไปกรุงเทพ ก็ครั้งนี้และก็เป็นโอกาสครั้งแรกที่ได้ไป ผมก็ฝึกเดินทางด้วยตัวเองในกรุงเทพอ่ะน่ะแรก ๆ ก็มีไปทันบ้าง หลัง ๆ ก่อนเริ่มเรียนแล้ว ผมชอบแวะไปหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยมาก ๆ มีหนังสือให้อ่านเยอะเลยบรรยากาศเงียบสงบ และมีมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้านการเรียนเยอะเลย การเรียน Pre-degree ม.รามคำแหง เทอมแรกของผมก็สนุกมากแต่เหนื่อยโดยรวมผมถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้ผมได้พัฒนยาตนเองได้เรียนรู็อะไรหลายอย่างและได้ความรู้ใหม่ ๆ ในชีวิตนอกจากการเรียนการสอนแล้วผมก็ได้ประสบการณ์ต่าง ๆ มากครับ สุดท้ายนี้ขอขอคุณที่อ่านกันมาจนจบนะครับ ใกล้ปีใหม่แล้ว สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับภาพปกออกแบบด้วย canva ภาพประกอบปกบทความ จาก canva ของ aopsan ภาพที่ 1 ขอบคุณรูปภาพจาก lil_foot_ จาก Pixabayภาพที่ 2 ขอบคุณรูปภาพจาก Sasin Tipchai จาก Pixabayภาพที่ 3 โดยผู้เขียน ขอบคุณรูปภาพจาก Ramkhamhaeng University. RU Course on Demand (M-Learning) ภาพที่ 4 โดยผู้เขียน ขอบคุณรูปภาพจาก e-Services Ruติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง ใช้เป็นภาพประกอบบทความเท่านั้นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !