หากคุณเคยเรียนวิชาวิทยาศาสตร์มา คุณคงจะเคยได้ยินชื่อของ “เซอร์ ไอแซก นิวตัน” ผู้คิดค้นทฤษฎีกฎการเคลื่อนที่และกฎแรงโน้มถ่วง ที่ทำให้พวกคนที่เรียนปวดหัวไปตาม ๆ กัน วันนี้ผมจะมานำเสนอแนวคิดในการใช้ชีวิตด้วยทฤษฎีกฎการเคลื่อนที่ข้อที่ 3 ของนิวตัน แต่อย่าเพิ่งเข้าใจว่าวันนี้ผมจะมาเอาเรื่องวิทยาศาสตร์มาให้ทุกคนปวดหัวกัน เรื่องราววันนี้มีวิทยาศาสตร์ปนก็จริง แต่ไม่ปวดหัวแน่นอนครับภาพจาก wikimedia กฎการเคลื่อนที่ข้อที่ 3 ของนิวตันกล่าวไว้ว่า “ทุกแรงกิริยาจะมีแรงปฏิกิริยาในทิศทางตรงข้ามเสมอ” กล่าวคือเมื่อคุณออกแรงกระทำกับวัตถุในทิศทางหนึ่ง จะมีแรงในทิศทางตรงกันข้ามกระทำกลับมาเสมอ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ สมมุติว่าคุณปล่อยลูกบอลลงพื้น จะเห็นได้ว่าลูกบอลจะเด้งกลับมาในทิศทางตรงข้ามกับที่คุณปล่อยภาพจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/60582/ นำกฎที่ว่านี้มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตของคุณให้ประสบความสำเร็จคือ หากคุณตั้งใจลงมือทำอะไรเพื่อเป้าหมายของตัวเองสักอย่าง เชื่อได้เลยว่าจะมีผลลัพธ์ที่มันเด้งกลับมาหาคุณเสมอ และถ้าหากคุณต้องการให้ผลลัพธ์เด้งกลับมาที่คุณเร็ว ๆ คุณก็ต้องทุ่มเทออกแรงกระทำให้มากด้วยเช่นกัน จงเชื่อมั่นในกฎนี้และลงมือทำมันอย่างสุดความสามารถ หากคุณตั้งใจและทำมันด้วยปัญญา ผลที่มันจะกลับมาสู่คุณย่อมคุ้มค่ากับแรงที่เสียไปอย่างแน่นอนภาพจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/1905009/ นอกจากนั้นยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการหาความสุขได้ด้วย หากคุณอยากได้รับความสุขจากผู้อื่นให้มาก ๆ คุณต้องเป็นผู้ให้ความสุขกับผู้อื่นให้มากยิ่งกว่า หากคุณอยากได้ผู้คนที่เต็มไปด้วยความจริงใจ คุณต้องเป็นผู้ที่ให้ความจริงใจออกไปก่อน เมื่อคุณเป็นผู้ให้ที่ดี คุณก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมาที่ดี แต่หากคุณเป็นผู้ให้ที่แย่ คุณก็รอรับผลแย่ ๆ ที่จะตามมาได้เลย กฎนี้ใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตและเป็นจริงเสมอ หากจะเรียกกฎนี้ในทางพุทธศาสนาจะใช้ชื่อว่า "กฎแห่งกรรม" (กรรม แปลว่า การกระทำ)ภาพจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/933624/ ท้ายที่สุดนี้จงนำกฎข้อนี้ไปใช้ในทางที่สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ต่อตนเองและต่อสังคม เป็นผู้ให้ที่ดีและเมื่อถึงเวลาต้องรับก็จงเป็นผู้รับที่ดี หวังว่าแนวคิดนี้จะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ ท่าน และสามารถนำไปใช้ในชีวิตให้เกิดผลที่ดีตามมาได้ในที่สุดนะครับ