เคยมีคำกล่าวว่า “ทำอะไรก็ตามต้องทำอย่างมีศิลปะติดอยู่ในหัวใจเสมอ" เนื่องจากศิลปะเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่งที่มีความยืดหยุ่นและมีความสวยงามภายในตัวมันเอง มนุษย์จึงเลือกวิธีการแสดงออกทางด้านศิลปะตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของสภาพสังคม วัฒนธรรม ศาสนา วิถีชีวิตในท้องถิ่น รวมถึงการแสดงออกวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง เป็นต้น โดยผ่านการขีดเขียน วาดภาพล้อเลียน หรือพ้นสีบนกำแพงล้วนเกิดจากการแสดงออกมาจากจินตนาการและความรู้สึกของศิลปินทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม งานศิลปะไม่มีเพียงแต่การขีดเขียน วาดรูปเท่านั้น ปัจจุบันเราได้แบ่งแยกคำว่า ศิลปะ ไว้ทั้งหมด 9 ชนิด ได้แก่ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม ทัศนศิลป์ เพลง (ดนตรี) วรรณคดี (กวีนิพนธ์หรือละคร) ศิลปะการแสดง ( โรงละคร ,เต้นรำ,ละครใบ้,ละครสัตว์) โรงภาพยนตร์ สื่อ (การเผยแพร่ภาพโทรทัศน์และการถ่ายภาพ) ภาพการ์ตูน เห็นได้ว่ารอบ ๆ ตัวของเราย่อมมีความเชื่อมโยงกับศิลปะไม่ทางใดก็หนึ่งในชีวิตประจำวัน ในประเทศทางตะวันตกการเสพติดงานศิลปะเป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากเป็นการแสดงออกถึงฝีมือและจินตนาการของศิลปินซึ่งถือได้ว่าผลงานทางศิลปะเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของแต่ละบุคคลที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้ เราสามารถพบศิลปินอิสระจำนวนมากได้ตามท้องถนน ในตัวเมือง ซึ่งนำผลงานงานของตนเองออกมาแสดงและเสนอขายให้แก่ผู้ที่สัญจรไปมา ในส่วนของการเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หรือแกลลอรี่ย่อมได้สัมผัสถึงผลงานที่มีชื่อเสียงและมีการรับประกันฝีมือของศิลปินในระดับหนึ่ง ศิลปินระดับโลกที่โด่งดั่งสร้างผลงานศิลปะทรงคุณค่า เช่น ดาวินชี ปิกัสโซ หรือ ศิลปินของไทย เช่น อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้ยกระดับคุณค่าของงานศิลปะที่ไม่สามารถประเมินราคาเป็นตัวเงินได้ เชื่อเถอะว่าศิลปะไม่เคยทำร้ายใคร และไม่เคยมีใครมาทำลายศิลปะได้เช่นกัน เราพบว่าประโยชน์ของการเสพงานศิลปะย่อมทำให้มีทัศนคติ มุมมอง แปลกใหม่ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อได้สัมผัสเนื้อแท้ของชิ้นงาน 1.) ศิลปะทำให้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกจากเบื้องลึกก้นหัวใจ การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาเป็นภาพขีดเขียน รูปปั้น ภาพวาด หรือรูปแบบอย่างไรก็ตามย่อมเป็นการระบายอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดในช่วงเวลาขณะนั้น การได้สร้างสรรค์งานศิลปะหรือเสพผลงานของศิลปินต่าง ๆ ตามพิพิธภัณฑ์เป็นการผ่อนคลาย ลดความกังวล และได้รับความรู้เพิ่มเติมในขณะเดียวกัน งานศิลปะไม่มีผิดหรือถูก มีแต่เพียงความพอใจระหว่างผู้สร้างสรรค์กับผู้เสพงานสร้างสรรค์เท่านั้น ทั้งนี้ งานศิลปะย่อมมีรายละเอียดอย่างลึกซึ้งแอบซ่อนความหมายในการสื่อสาร อารมณ์ความรู้สึก ทัศนคติ มุมมองต่างๆ ซึ่งไม่สามารถแสดงออกผ่านทางคำพูดหรือลายลักษณ์อักษรโดยตรงต่อผู้รับสาร การตีความหมายของงานศิลปะจึงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งซึ่งแต่ละบุคคลสามารถใช้ความรู้ ประสบการณ์ การสังเกต จินตนาการของตนเองในการแปลความหมายที่แตกต่างกันออกไป งานศิลปะจึงไม่มีคำตอบตายตัวปราศจากขอบเขตของจินตนาการของผู้เยี่ยมชมโดยทั่วไป งานศิลปะเป็นชิ้นงานอ่อนโยนสวยงามเหมาะสำหรับผู้ต้องการเสพชิ้นงานผ่านด้วยสายตาและส่งผ่านต่อความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ในทางกลับกันศิลปะบางชิ้นงานกลับเป็นอาวุธชนิดหนึ่งในการต่อสู้ทางการเมือง อาจก่อให้เกิดอาการเคืองสายตาของผู้ปกครองเมื่อได้พบเห็นผลงานศิลปะวิพากษ์วิจารณ์ กล่าวได้ว่า การต่อสู้ทางการเมืองในอดีตระหว่างผู้ปกครองกับผู้ใต้ปกครองไม่ใช่เพียงแต่การต่อสู้ทางสงครามเท่านั้น เมื่อใดก็ตามผู้ใต้ปกครองถูกกดขี่และถูกจำกัดในการแสดงออกผ่านทางคำพูดหรือตัวหนังสือ จำเป็นต้องใช้วิธีการแสดงออกในการต่อสู้ผ่านทางผลงานศิลปะเพื่อมาเยียวยาความรู้สึกนึกคิดหรือเผยแพร่แนวความคิดในการต่อสู้ สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนภายในสังคม อาทิเช่น ภาพล้อเลียน ตัวอักษรย่อต่างๆ สัญลักษณ์ เป็นต้น ถือได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ซึ่งเป็นมากกว่าศิลปิน เนื่องจากการเข้าถึงงานศิลปะไม่จำกัด ชนชั้น อาชีพ อายุ ศาสนา สีผิว ความสามารถ ทุกคนมีสิทธิแตะต้องในงานศิลปะหรือเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์งานศิลปะด้วยตนเองได้เสมอ2.) ศิลปะทำให้บ้านเมืองมีความเป็นอารยธรรม อารยประเทศบ้านเมืองใด ผู้ปกครองเป็นผู้อุปถัมภ์เลี้ยงดูศิลปินอย่างดีให้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างมีอิสระเพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมพื้นเมือง ชี้ให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของสังคม ย่อมนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองแก่บ้านเมือง เนื่องจากการตกแต่งบ้านเมืองโดยการผสมผสานงานศิลปะมาถ่ายทอดวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองเป็นสิ่งที่กระตุ้นเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างถิ่นมาเยี่ยมชมซึมซับเรียนรู้วิถีชีวิตของคนพื้นเมืองนั้นมากขึ้น ส่งผลให้มีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ สังคม ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น เผยแพร่ชื่อเสียงของบ้านเมืองไปทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมในแต่ละปีจำนวนมหาศาล ในส่วนประเทศทางตะวันตก โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะระดับต้น ๆ ของโลก เมืองหลวงปารีสมีการออกแบบผังเมืองที่งดงามเสมือนเปลือกหอยที่ขดเข้ามาสู่ใจกลางเมือง สถาปัตยกรรมของตึกอาคารแบบดั้งเดิม การตกแต่งอาหารอย่างมีศิลปะ เป็นต้น ล้วนแต่เกิดมาจากการสร้างสรรค์งานศิลปะ คิดนอกกรอบของสังคมแบบเดิม ๆ ทั้งสิ้น กล้าคิดริเริ่ม คิดค้นหาสิ่งแปลกใหม่นำสิ่งที่ดีกว่ามาประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์3.) ศิลปะทำให้กลับย้อนสู่เวลาในอดีตหากคุณอยากย้อนเวลากลับไปในอดีตของสังคมเพื่อต้องการทราบที่มาของปัจจุบันและกำหนดจุดมุ่งหมายสร้างอนาคต งานศิลปะเป็นหนทางหนึ่งที่สามารถชี้เส้นทางในแต่ละยุคสมัยได้เป็นอย่างดี การออกแบบสถาปัตยกรรม วัด โบสถ์ วิหาร หรือ ชิ้นส่วนของวัตถุโบราณ ล้วนเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทรงคุณค่า มีพื้นฐานเกิดจากงานศิลปะสามารถรับรู้ได้ว่าอาณาจักร สังคม ชุมชนได้รับอิทธิพลมาจากที่ใด ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองเติบโตเพียงใด มีการขยายอาณาเขตผ่านการเผยแพร่ทางศาสนามากน้อยแค่ไหน ชิ้นส่วนงานศิลปะจึงย่อมเป็นเครื่องมือชี้ให้เห็นแสงสว่างเพื่อพบหาคำตอบนั้นๆ ในอดีต สังเกตได้ว่า เมื่อบ้านเจริญเติบโตรุ่งเรื่องถึงที่สุดชนชั้นปกครองมักให้ความสนใจเกี่ยวกับความบันเทิง การแสดงออกทางด้านศิลปะเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น โอเปร่า โขน ละครเวที ภาพวาด มโนราห์ เป็นต้น กิจกรรมเหล่านั้นบ่งบอกถึงความผ่อนคลายของผู้ปกครอง ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี ไม่มีความขัดแย้งทางสงคราม งานศิลปะจึงก่อกำเนิดขึ้นมาเรื่อยๆในยามบ้านเมืองมีความเป็นอารยะสุดท้ายนี้ งานศิลปะไม่เป็นเพียงแต่การให้ความบันเทิงเท่านั้น กลับแฝงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สร้างศิลปิน รักษาอัตลักษณ์ของบ้านเมืองให้คงอยู่ต่อไป เราจึงควรเสพติดความงามของศิลปะผ่านสายตาประกอบกับศึกษาประวัติความเป็นมา เจตนารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของศิลปิน เพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณในศิลปะได้เป็นอย่างดี อย่าลืมว่าศิลปินเป็นผู้สร้างศิลปะ ศิลปะก่อสร้างบ้านเมือง เจ้าเมืองต้องรักษาทั้งศิลปินและศิลปะ ความเป็นอารยธรรม อารยประเทศจึงกลับคืนมา ภาพถ่ายหน้าปกและภาพถ่ายประกอบโดย ผู้เขียน หรือ Une vie des routes ( อูนวี เด้ครูด )