สวัสดีเพื่อน ๆ พี่น้องทุกคนวันนี้เรามาแปลกสักหน่อยที่ไม่ใช่การแนะนำหรือรีวิว แต่เราอยากมาแชร์เรื่องราวที่เราได้ตกผลึกคิดที่ช่วยฮีลตัวเองจากเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน เรามองว่าคนเราเกิดมาไม่มีใครที่จะดีสุดโต่งร้อยเปอร์เซนต์ หรือเลวร้ายร้อยเปอร์เซนต์ เราต่างก็มีด้านเทา ๆ และหลากสีสันด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเผยด้านไหนให้สังคมได้รับรู้ หรือเราจะถูกสังคมกลืนกินหล่อหลอมให้เราเป็นคนอื่น จนในบางครั้งคนเราอาจมองข้ามบางสิ่งไป อย่างเช่นการกระทำของตัวเอง โดยลืมมองไปว่าการกระทำที่ทำอยู่นั้นใช่สิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เราอาจเป็นทั้งผู้กระทำ หรือเป็นผู้ถูกกระทำก็ได้ ดังนั้นเราไม่ควรที่จะเอาบรรทัดฐานของตัวเองไปตัดเส้นชีวิตคนอื่น ตัวผู้เขียนอย่างเราก็เช่นกันที่อย่างลองแลกเปลี่ยนมุมมองกันดังนี้สิ่งแรกที่เรามอง คนเราเกิดมามีสองคำที่จำเป็นต้องใช้คือ ขอโทษ และขอบคุณ ทำไมสองคำนี้ถึงจำเป็นกับชีวิตประจำของเรา เมื่อไหร่ที่เรารู้ตัวว่าทำอะไรผิดไปไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เราจึงต้องใช้ คำ"ขอโทษ"อย่างจริงใจ แล้วแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ถูกต้อง โดยไม่เอาลำดับอายุหรืออาวุโสเป็นตัวตั้ง ถึงแม้เราจะเป็นผู้ใหญ่เราก็ขอโทษเด็กได้ เด็ก ๆ ก็เช่นกัน และเมื่อระหว่างเราไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ถ้าได้รับการช่วยเหลือ หรือมีคนมาทำดีต่อเรา เราต้องรู้จัก "ขอบคุณ" ให้เป็นนิสัยเป็นมิตรไมตรีต่อกัน เมื่อเข้าใจกันแล้วการกอดกันก็อธิบายสัญลักษณ์สองคำนี้ได้ดีสิ่งที่สองที่เรามอง คำพูดเป็นนาย กายเป็นบ่าว เมื่อเราพูดอะไรออกไปแล้วคำพูดของเราถือว่าเป็นนาย พูดไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ดังนั้นก่อนจะพูดอะไรให้คิดให้รอบคอบ คำพูดก็เหมือนดาบสองคม พูดดีไตร่ตรองดีก็ย่อมเกิดผลดี พูดสิ่งที่ไม่ดีทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจก็กลายเป็นดาบที่ทิ่มแทงเราได้ ส่วนกายของเราเป็นบ่าว เคยคิดไหมว่านิ้วมือของเราก็เป็นตัวผลิตคำได้ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร หลายครั้งที่เกิดการวิพากษ์วิจารย์ นักเลงคีย์บรอด ไม่ว่าจะคนในวงการบันเทิงหรือใครก็แล้วแต่ที่โดนเหล่านั้น คนพิมพ์เอาสนุกมือ จับแอคเค้าท์ใครดมไม่ได้ แต่คนที่โดนเขาอาจจำไปอีกนาน เช่น การเสียชีวิตของนักร้องนักแสดงที่ฆ่าตัวตายหลายท่าน ดังนั้นหยุดคิดสักนิด หาข้อมูลให้ดีก่อนแล้วค่อยพูดหรือพิมพ์สิ่งที่สามที่เรามอง กระจกสะท้อนตัวเรา บางครั้งเราลองมองเข้าไปที่กระจกแรกที่สะท้อนตัวเราอีกคนแล้วลองถามเขาว่าที่เราพบเจอและเติบโตขึ้นมา คุณเหนื่อยไหมในสิ่งที่คุณทำ ทำแล้วมีความสุขหรือเปล่าหรือทำแล้วทุกข์ ถ้าเหนื่อยมากนักก็พักสักหน่อย ค่อย ๆ คิดว่ามีสิ่งใดตัวเราทำพลาดไป ถ้าสิ่งนั้นแก้ไขได้ก็แก้ หรือเจอปัญหาจากคนรอบข้าง เพราะเรายังต้องทำงานกับเขา "ถ้าเราเปลี่ยนแปลงคนอื่นไม่ได้ ก็เปลี่ยนแปลงที่ตัวเรา" ต่อให้เขาจะเมินเรา หรือต่อว่าเราอย่างไร เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ให้คุณค่าตัวเองให้มากที่สุด กระจกที่สองคือฟีดแบ็คจากคนในครอบครัว คนที่สนิทกับเรา อะไรที่เขาติเพื่อก่อ คำแนะนำที่ดีเราก็เก็บไปปรับปรุง เพราะบางครั้งเราอาจมองไม่เห็นตัวเอง แต่ถ้าไม่ได้ติเพื่อก่อเพราะหลายครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนสำหรับเราก็ปล่อยไว้ตรงนั้น สุดท้ายนี้เราอยากบอกว่าไม่ว่าใครจะเจอเรื่องอะไรมา อย่างน้อยถ้าเราให้คุณค่าแก่ตัวเราเองให้เกรียติตัวเอง และแก้ไขสิ่งที่เราบกพร่อง ส่วนสิ่งที่เราทำดีแล้วก็ทำต่อไปให้ดีที่สุดมันจะต้องมีคนที่เห็นความดีของเรา และให้อภัยในสิ่งที่เคยผิดพลาดไปซึ่งกันและกัน เรายังคงเชื่อเสมอว่า แค่ 1 คนที่เข้าใจเราเป็นที่สบายใจของเราก็เพียงพอแล้ว เราเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะปรับที่คนอื่นไม่ได้ก็ปรับมุมมองเปลี่ยนความคิดที่ตัวเราเครดิตภาพประกอบภาพที่1 Pexels by Kaique Rocha , ภาพที่2 Pexels by cottonbro , ภาพที่3 Pexels by fauxels , ภาพที่4 Pexels by Ilyasick , ภาพที่5 Pexels by cottonbro ภาพปก รูปและพื้นหลังจาก canva ออกแบบโดย hometownsomi7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์