ปราสาทเขมรเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคอีสานในประเทศไทย ถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นการย้ำเตือนถึงการอนุรักษ์ให้สถาปัตยกรรมโบราณเหล่านี้อยู่ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนี้เป็นรายได้ของประเทศที่ในแต่ละปะสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างมหาศาล อีกทั้งปราสาทที่สร้างในสมัยเขมรนี้มีกระจายอยู่ทั้วภูมิภาคในเขตภาคอีสานทั่งที่เป็นที่นิยมเป็นแหล่งท่องเที่ยวและไม่เป็นที่นิยมก็มีไม่น้อย นอกจากปราสาทพิมายและปราสาทอื่น ๆ แล้ว ปราสาทพนมรุ้งยังเป็นปราสาทเก่าแก่อีกปราสาทหนึ่งที่คนทั้งภายในและภายนอกประเทศต่างเป็นที่อยากจะไปเที่ยวชม ปราสาทพนมรุ้งเป็นอย่างไรมาอ่านกันครับ ปราสาทพนมรุ้งตั้งอยู่ที่ บ้านดอนหนองแหน ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ คำว่าพนมหมายถึงภูเขา ปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล1,320 ฟุตจากระดับน้ำทะเล มีบันไดทางขึ้นที่สูงมากก่อนที่จะเข้าไปตัวปราสาท ปราสาทพนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาพราหมณ์ฮินดูลัทธิไศวะนิกาย ปราสาทแห่งนี้มีการสร้างต่อเติมมาอย่าง โดยเริ่มสร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 ต่อเติมในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 ต่อเติมช่วงสุดท้ายในช่วง 18 ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และเปลี่ยนเป็นพุทธสถานนิกายมหายาน ทางเข้าปราสาทเป็นเป็นทางเดินประดับเสาบังเรียก เสานางเรียง ทอดยาวไปถึงบันไดบันไดขึ้นไปบนภูเขาสูงชั้นบนก่อนถึงประตูเป็นสะพานนาครูปกากบาท ด้านข้างของปราสาทเป็นอาคารที่ก่อด้วยศิลาแลง เรียกโรงช้างเผือก จากนั้นขึ้นบันไดไปยังตัวปราสาท เมื่อขึ้นไปด้านบนแล้วจะเห็นระเบียงคคเป็นทางเดินไปถึงเขตด้านใน เมื่อเข้าไปด้านในจะพบปราสาทประธาน เป็นศูนย์กลางของพื้นที่ภายในมีฐานเป็นสี่เหลี่ยมย่อมุม ด้านหน้าปราสาทประธานเป็นมณฑปมีฉนวนเชื่อมไปยังปราสาทประธาน หน้าบันและทับหลังของปราสาทประธานมีภาพสลักนูนต่ำเช่น ศิวนาฏราศ รามายณะ นารายณ์บรรทมสินธุ์ และรูปฤษี เป็นต้น ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาทประธานมีปราสาทก่อด้วยอิฐสองหลังเรียกปรางค์น้อย ปราสาทหลังนี้วางผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้านหน้าปราสาทหันไปทางทิศตะวันออกตรงกับเมืองพระนครที่กัมพูชา หากที่ใดสนใจไปเที่ยวชมสามารถเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท หรือสามารถซื้อบัตรรวมได้ ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท ภาพถ่ายโดย พงศธร อิ่มอุดม ผู้เขียนบทความ