ปลาทอดขมิ้น สูตรดั้งเดิม กินแล้วดีต่อสุขภาพ อาหารปักษ์ใต้ส่วนใหญ่จะมีขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบ เพื่อช่วยดับกลิ่นคาวปลา เพิ่มกลิ่นหอม และช่วยให้มีสีเหลืองน่ากิน ทว่าคุณประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ภายในอาหารชนิดนั้น ๆ มีมากล้น ซึ่งบรรพบุรุษได้นำแนวทางการกินแบบนี้มาช้านานแล้ว เพียงแต่บางครอบครัวโดยเฉพาะตัวผู้เขียนที่ได้เริ่มห่างหายวิถีการกินแบบดั้งเดิม จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จนผ่านเวลาล่วงเลยมาสักระยะหนึ่งแล้ว ตัวผู้เขียนจึงเริ่มสังเกตได้ว่าสุขภาพเริ่มเปลี่ยนไป มักมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย บางครั้งเป็นกรดไหลย้อน จนถึงกระเพาะอาหารอักเสบก็มี แต่ยังไม่สายเกินไป เมื่อได้มองย้อนอดีต ส่องชีวิตผู้คนในท้องถิ่นที่ใช้วิธีแบบดั้งเดิม จนพบว่าการกินอาหารเสริมสมุนไพรเป็นยาเข้าไปด้วย จะช่วยให้ห่างไกลโรคได้ การจะสอนให้เด็กรุ่นใหม่ที่เป็นลูกให้กินขมิ้นชันเป็นยาต้องเริ่มจากอาหารนั่นเอง เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ต้องเจ็บป่วยกับโรคที่หลีกเลี่ยงได้ให้เสียสุขภาพ ซึ่งในวันนี้จะมาแนะนำสูตรอาหารง่าย ๆ กินดีมีประโยชน์ คือปลาทอดขมิ้น มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ วิธีทำการเลือกปลามาทอดขมิ้น credit : https://pixabay.com/images/id-234677/ 1. ปลาทะเล ปลาทรายแดง ปลาจาระเม็ด ปลาสำลี ปลาน้ำดอกไม้ ปลาเก๋า ปลากะพงขาว และกุเลา เพราะเป็นปลาเนื้อขาว เมื่อทอดสุกแล้วเนื้อนุ่มไม่แข็งกระด้าง และเมื่อคลุกกับขมิ้นแล้วสามารถซึบซับขมิ้นเข้าได้อย่างทั่วถึง มีสีเหลืองสวย หากไม่มีก็ใช้ปลาชนิดอื่นได้ เช่น ปลาทู ปลาซาบะ 2. ปลาน้ำจืด ปลาช่อน ปลาดุก ปลาหมอ ปลาเนื้ออ่อน และปลานิล วิธีทำ 1. เมื่อได้ปลามาแล้วนำมาขอดเกล็ดให้เกลี้ยง ผ่าท้องควักไส้ ล้างทำความสะอาดจนหมดจดดีแล้ว จึงบั้งห่าง ๆ เพื่อเวลาคลุกเครื่องขมิ้นจะได้เข้าเนื้ออย่างทั่วถึง ทำเสร็จแล้วซับตัวปลาให้แห้ง เก็บตู้เย็นช่องธรรมดา เพื่อรอตำเครื่องขมิ้น 2. เครื่องขมิ้น นำขมิ้น 2 แง่งมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกใส่ครก ตามด้วยพริกไทยดำ กระเทียม ตามชอบ เติมเกลือให้พอเหมาะกับจำนวนปลา ใส่น้อยไว้ก่อนดีกว่าหากไม่เค็มยังพอแก้ได้ โขลกทั้งหมดให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกกับปลาให้ทั่ว หมักไว้ 1-2 ชั่วโมง โดยเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา 3. เมื่อหมักปลาครบเวลาแล้ว จึงนำปลา ออกจากตู้เย็นมาวางไว้ให้ความเย็นคลายตัวประมาณ 15-20 นาที 4. นำกระทะตั้งไฟให้ร้อนเปิดไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะจนน้ำมันร้อนดีแล้ว นำปลาคลุกขมิ้นลงไปทอด ระหว่างนี้ต้องคอยดูหากไฟแรงไปให้หรี่ให้ไฟอ่อนลงได้ เพื่อป้องกันสมุนไพรที่หมักปลาไว้จะไหม้ก่อนปลาสุก เมื่อปลาในกระทะเริ่มเหลืองให้กลับอีกด้าน ทอดให้สุกเหลืองเสมอกัน เป็นอันใช้ได้ ตักขึ้นใส่จาน ส่วนเครื่องขมิ้นที่เหลือจากการคลุกปลา ให้นำลงไปทอดในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนเหลืองกรอบ แล้วนำมาโรยบนตัวปลา เสร็จแล้วนำไปกินกับข้าวสวยร้อน ๆ ราดน้ำพริกมะนาวน้ำปลา หรือจะกินคู่กับแกงส้มปักษ์ใต้ก็อร่อยไม่เบาเลยทีเดียว เคล็ดลับการทำปลาทอดขมิ้นแบบพื้นบ้าน น้ำมันที่ใช้ทอดควรเป็นน้ำมันมะพร้าว ซึ่งมีวิตามินอีอยู่สูง และขณะทอดจะส่งกลิ่นหอมของน้ำมันมะพร้าว ผสมกลิ่นของขมิ้น ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่ดูดดึงสารสำคัญจากขมิ้นออกมาได้มากที่สุด จนทำให้สารของน้ำมันหอมระเหยชนิดสำคัญที่ละลายในน้ำมัน ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทันที ที่ได้กินเข้าไป จะสังเกตได้จากผู้ที่มีอาการท้องอืด ปวดท้องจากอาหารไม่ย่อย เมื่อได้กินปลาทอดขมิ้นแล้ว อาการทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญการใช้น้ำมันมะพร้าวมาทำปลาทอด ยังเก็บมาทำข้าวผัดขมิ้น หรือผัดพริกขิงได้ เพราะน้ำมันมะพร้าวซึ่งไม่ได้ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อนสูงในการสกัดน้ำมัน จึงใช้ซ้ำได้ อีกทั้งยังได้รับวิตามิน และสารเคอร์มินอยด์ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ จากขมิ้นอีกด้วย การทอดปลาจะใช้น้ำมันน้อยและทอดไฟอ่อนตามแบบโบราณ เพื่อไม่ให้เครื่องขมิ้นไหม้ก่อนปลาสุก อีกทั้งยังช่วยให้สารสำคัญในขมิ้นซึมเข้าไปอยู่ในเนื้อปลาได้มากขึ้นด้วย เมื่อทอดปลาแล้วจะเหลือน้ำมันขมิ้นสีเหลืองนำไปทำข้าวผัดได้ การทำปลาทอดขมิ้นให้เด็ก ๆ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ห่างไกลวิถีชีวิตดั้งเดิม จากการกินอยู่แบบภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้ชีวิตกินตามสมัยนิยม จนทำให้มีการเจ็บป่วยได้ง่าย นับว่าเป็นเรื่องดี ที่ยังมีสมุนไพรที่สุดยอดในการใช้เป็นอาหาร และยารักษาโรคในคราวเดียวกัน และด้วยกระแสการตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจดูแลตนเอง การกินอาหารที่มีขมิ้นชันผสมอยู่ จัดเป็นอาหารที่ควรให้ผู้ที่ยังไม่คุ้นกับกลิ่นขมิ้นชัน ทดลองกินเมนูปลาทอดขมิ้น ก่อนกินแกงที่ใส่ขมิ้นแบบอื่น ๆ