#ปลูกต้นไม้ #โกโก้ #ช็อกโกแลต #คาเคา ปลูกต้นโกโก้กันเถอะ ช็อกโกแลต รสชาติอัน ความอร่อยที่ลุ่มลึก ละเอียดอ่อน และมีเอกลักษณ์ ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัยมาอย่างยาวนานนั้น ถูกผลิตขึ้นจากเมล็ดภายในผลจากต้นคาเคา ( cacao ) หรือบ้างก็จะเรียกว่าต้นโกโก้นั่นเอง มีการค้นพบที่เก่าแก่ที่สุดของการเริ่มบริโภคช็อคโกแลตมาเป็นเวลา ประมาณ 1900 ปี ก่อนคริสตกาล ที่เมล็ดโกโก้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เช่น นำมาบดดื่มเป็นยาที่ช่วยเพิ่มพละกำลัง ไปจนถึงยุคสมัยอียิปต์ของพระนางคลีโอพัตรา ที่สมัยนั้นช็อกโกแลต คือ เครื่องดื่ม ที่มีเพียงชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะได้ลิ้มรส นอกจากนี้เมล็ดคาเคายังเคยถูกเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เทพเจ้ามอบให้แก่มนุษย์ หรือเคยถูกใช้แลกเปลี่ยนแทนเงินตราอีกด้วย เป็นพืชที่ถือว่าเป็นสิ่งสูงค่ายิ่งในประวัติศาสตร์แต่ปัจจุบัน เราเอง ก็สามารถปลูกได้ง่ายๆที่หลังบ้านของเรา ต้นคาเคานี้ ไม่ได้ต้องการการดูแลประคบประหงมอะไรมากมายเลย เพียงแค่ต้องเข้าใจธรรมชาติของเขาเท่านั้น และหากอยากปลูกเพื่อสร้างรายได้ ประเทศไทยก็มีตลาดรับซื้อเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นพืชที่มีความต้องการในตลาดโลก แถมยังไม่สามารถผลิตได้มากตามที่ตลาดต้องการอีกด้วย จึงเป็นพืชที่น่าสนใจมากที่จะเริ่มปลูกเลยในวันนี้ ผู้เขียนจึงใคร่นำเสนอวิธีการปลูกดูแลต้นคาเคา ดังนี้ ทำความรู้จักธรรมชาติของต้นคาเคาต้นคาเคาตามธรรมชาตินั้น ถือกำเนิดขึ้นในพื้นที่ป่าดงดิบ ที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น ซึ่งอุณหภูมิต้องไม่หนาวเย็นเกินไป และต้องไม่ร้อนเกิน 30 องศาเซลเซียส ( ประเทศไทยก็ถือว่าเป็นสภาพอากาศที่เหมาะสมมาก ) แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่แล้งนานเกิน 3 เดือน เพราะคาเคาชอบให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ และแสงแดดจะต้องไม่มากจนเกินไป ตามแหล่งกำเนิดในป่าดงดิบ ซึ่งต้นคาเคาจะเจริญเติบโตได้ดี และสามารถให้ผลผลิตได้ตลอดปีเมื่อต้นมีความสมบูรณ์ การปลูกและดูแลรักษา1. เลือกสายพันธุ์ก่อนจะปลูกควรเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับการปลูกในประเทศไทย ได้แก่ พันธุ์ชุมพร 1 และ สายพันธุ์ I.M.1 ซึ่งปัจจุบันหาซื้อได้ง่ายจากร้านค้าออนไลน์มีบริการส่งถึงบ้าน หรือหากมีผลคาเคาก็สามารถเพาะเมล็ดเองได้2. ดินต้นคาเคาชอบดินที่มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ต้องระบายน้ำได้ดีไม่ให้มีน้ำขังเป็นเวลานาน โดยค่า pH ดินที่เหมาะสมที่สุด คือ 6.5 และไม่ต่ำ กว่า 5.5 ไม่ต้องให้ปุ๋ยเคมีก็สามารถให้ผลผลิตจำนวนมากได้เช่นกัน3. พื้นที่ปลูกต้นอ่อนคาเคาต้องการแดดน้อยมาก เพียงประมาณ 30 % เท่านั้น ควรเลือกที่ปลูกให้ดี ไม่ให้ถูกแสงแดดมากเกินไป เมื่อต้นเติบโตขึ้น สามารถโดดแดดได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ควรเลือกพื้นที่ปลูกให้ต้นคาเคาได้รับแสงแดดประมาณ 70 % หากจะปลูกในที่โล่งแจ้ง อย่างน้อยควรมีต้นไม้สูงปลูกร่วมเพื่อช่วยสร้างร่มเงาได้บ้าง ไม่ให้ต้นคาเคาถูกแดดจัดตลอดวัน4. การเก็บเกี่ยวผลผลิตต้นคาเคาจะให้ผลผลิตเมื่อมีอายุประมาณ 3 ปี โดยจะออกดอกเล็กจิ๋วตามลำต้นคล้ายตะลิงปิง และกลายเป็นผลในที่สุด ต้นคาเคาให้ผลผลิตตลอดปี ซึ่งจะสามารถเก็บผลผลิตได้ราวทุก ๆ 15 วัน นำเมล็ดมาหมักบ่ม 7 วัน จึงจะเกิดกลิ่นที่คลายช็อคโกแลต ก่อนนำไปตากแห้งหรือคั่ว และแปรรูปต่อไป แต่สามารถทานดิบได้เลยเช่นกัน สรรพคุณของคาเคานั้นมีมากมาย ตั้งแต่บรรเทาอาการอักเสบ ป้องกันฟันผุ ลดความดัน ลดไขมันในเลือด กระตุ้นการหลั่งเอ็นดอร์ฟิน ช่วยผ่อนคลายความเครียด สารพัด มากมายหลายประการ ในปัจจุบันหาซื้อต้นพันธุ์ได้ง่าย มีตั้งแต่ราคา 20 บาท เป็นต้นไป ราคาย่อมเยาว์มาก แถมยังปลูกดูแลง่ายขนาดนี้ หากบ้านมีพื้นที่เหลือ ก็เป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ขอบคุณภาพปกจาก flickr / ตกแต่งด้วย canva.comขอบคุณภาพประกอบจาก flickrภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 โดยผู้เขียน