เมื่อเดือนที่แล้วผู้เขียนได้นำข่าวสารเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของดวงดาวที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมมาฝากทุกคนกันไปบ้างแล้ว และในครั้งนี้ก็ยังมีเรื่องราวของปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนมาฝากกันอีกเช่นเดียวกัน เพราะถ้าในมุมของคนที่ชื่นชอบและเฝ้ารอติดตามชมปรากฏการณ์ทางดวงดาวแล้วนั้น ก็ต้องอยากชมทุกปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือนแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูกันว่า ทางสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page ได้โพสต์ถึงกำหนดวันและเวลาของแต่ละปรากฏการณ์เอาไว้ว่าอย่างไรบ้าง วันที่ 4 มิถุนายน 2563 ดาวพุธจะปรากฏบนท้องฟ้ายาวนานที่สุด เนื่องจากดาวพุธอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ไปทางทิศตะวันออกมากที่สุด สามารถสังเกตการณ์ได้ทางทิศตะวันตก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วจะมีเวลาให้สังเกตการณ์อยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยกัน วันที่ 6 มิถุนายน 2563 เกิดจันทรุปราคาเงามัว (Penumbral lunar eclipse) คือปรากฏการณ์ที่ดวงจันทร์เคลื่อนผ่านเข้าไปในเงามัวของโลก โดยที่ไม่ผ่านเงามืด ซึ่งเราจะยังมองเห็นดวงจันทร์ได้เต็มดวง แต่ความสว่างนั้นจะลดน้อยลงไปกว่าปรกติ สามารถสังเกตได้การณ์ได้ในช่วงเวลาประมาณ 00.46 – 04.04 น. คือช่วงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 5 มิถุนายน เข้าวันที่ 6 มิถุนายน และในเวลาที่ดวงจันทร์จะเข้าไปในเงามัวได้ลึกที่สุดคือช่วงเวลาประมาณ 02.25 น. พื้นที่ครึ่งหนึ่งของดวงจันทร์ก็จะถูกเงามัวบัง ทำให้สีในด้านทิศใต้ของดวงจันทร์จะดูคล้ำลงกว่าปรกตินั่นเอง และหากจะสังเกตปรากฏการณ์ครั้งนี้ด้วยตาเปล่าก็จะเป็นเรื่องยากสักหน่อย เพราะอาจต้องอาศัยการดูผ่านภาพถ่าย ต้องมีเทคนิคการปรับตั้งค่ากล้องถ่ายภาพเพื่อทำให้เราได้เห็นความแตกต่างของเงามัวนี้ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เทคนิคการถ่ายภาพจันทรุปราคาเงามัว เพื่อการเปรียบเทียบแบบก่อนและขณะเกิดปรากฏการณ์ จากคำแนะนำของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) บอกขั้นตอนไว้ดังนี้ - ควรเริ่มถ่ายภาพดวงจันทร์เต็มดวงในช่วงเที่ยงคืน เพื่อจะนำมาเปรียบเทียบกันอีกครั้งในช่วงที่ดวงจันทร์เข้าสู่เงามัวของโลกมากที่สุด ในช่วงเวลาประมาณ 02.25 น. - เปิดจอ LCD หลังกล้องเพื่อช่วยในการโฟกัสภาพดวงจันทร์ให้ชัดที่สุด โดยเลือกจุดโฟกัสบริเวณหลุมบนดวงจันทร์ - ใช้ค่า ISO ประมาณ 100 – 200 เนื่องจากดวงจันทร์มีความสว่างมากอยู่แล้ว - ใช้ค่ารูรับแสงที่คมชัดมากที่สุด เช่น f/8.0 - ถ่ายภาพผ่านกล้องโทรทรรศน์หรือเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสูง เพื่อให้เห็นรายละเอียดของเงามัวชัดเจนมากที่สุด (จากภาพถ่ายเบื้องต้น ผู้ถ่ายใช้เลนส์ทางยาวโฟกัส 1200 mm.) - ตรวจสอบภาพถ่ายจากหลังกล้อง ว่าภาพถ่ายไม่สว่างโอเวอร์มากเกินไปเพราะจะทำให้ไม่เห็นรายละเอียดของส่วนเงามัวได้ วันที่ 9 มิถุนายน 2563 ปรากฏการณ์ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์เคียงดวงจันทร์ สามารถติดตามปรากฏการณ์นี้ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.30 น. ไปจนถึงรุ่งเช้า วันที่ 13 มิถุนายน 2563 ปรากฏการณ์ดาวอังคารเคียงดวงจันทร์ สามารถติดตามปรากฏการณ์นี้ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 00.30 น. ไปจนถึงรุ่งเช้า วันที่ 21 มิถุนายน 2563 เป็นวันที่มีปรากฏการณ์ครีษมายัน คือจะมีช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี เนื่องจากดวงอาทิตย์จะขึ้นและตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด เกิดมาจากการที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกโคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน และจะมีปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวนที่มีแนวคราสวงแหวนพาดผ่านไปยังทวีปแอฟริกา – คาบสมุทรอาหรับ - เอเชียใต้ - เอเชียตะวันออก – มหาสุมทรแปซิฟิก ดังนั้นเราจึงสามารถเฝ้าติดตามสุริยุปราคาบางส่วนได้จากเหนือท้องฟ้าของเมืองไทย ในเวลาประมาณ 13.11 – 16.09 น. โดยจะเกิดแนวคราสวงแหวนมากที่สุดในช่วงเวลา 14.49 น. และจะสิ้นสุดคราสบางส่วนในเวลา 16.09 น.ขอบคุณข้อมูลจาก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และ สมาคมดาราศาสตร์ไทยขอบคุณภาพปกบทความจาก Unsplash และภาพประกอบบทความทั้งหมดจาก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ