ปักหมุดจุดเช็กอิน “วังเวียง” ลองไปสักครั้ง แล้วจะหลงรัก “วังเวียง” แหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง “ลาว” ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งชาวตะวันตก ชาวตะวันออก และชาวเอเชีย โดยเฉพาะเหล่านักเดินทางชาวไทยที่หลายคนเตรียมเปิดแผนที่ปักหมุดให้วังเวียงเป็นจุดเช็กอินที่ต้องไปสักครั้ง ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเราเองนี่แหละค่ะ การเดินทางของเราครั้งนี้ขอบอกว่าเป็นอีกหนึ่งความผจญภัยที่ทำให้อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านสุดๆ เพราะเป็นทริปที่ทั้งสนุก มันส์ เพลิน อิ่ม อร่อย แถมมีมุมสงบ เรียกว่าครบรสเท่าที่เราจะรู้สึกได้ วิธีการเดินทางไปวังเวียงขอเเริ่มต้นที่จังหวัดอุดรธานีจะมีรถบัสให้บริการระหว่างเวียงจันทน์ – อุดรธานี ซื้อตั๋วเสร็จก็รีบขึ้นรถจับจองที่นั่งไว้ให้ดี เพราะรถเต็มทุกที่นั่ง รับประกันความแน่น ทั้งพ่อค้าแม่ขายยกลังสินค้าไปขายเพียบ แต่ได้ฟีลไปอีกแบบ เราเดินทางต่อไปแล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถตู้ที่เวียงจันทน์เพื่อมุ่งสู่ “วังเวียง” อีกครั้ง การเดินทางที่แสนยาวนานหลายชั่วโมงจบลงเมื่อรถตู้เข้าสู่ตัวเมืองเล็กๆ ที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสีเขียวสด หมอกลอยปกคลุมไปทั่วบริเวณ ตามถนนหนทางมีน้ำเจิ่งนองพอให้รู้ว่าฝนเพิ่งตก ส่วนอากาศก็เย็นสดชื่น เราเลือกที่พักที่มีระเบียงสามารถมองเห็นวิวภูเขาจากในห้องได้ บอกเลยว่าฟินสุดๆ ซึ่งที่วังเวียงมีหลายโรงแรมให้คุณเลือกชมความงามกันตามสะดวกเลย การท่องเที่ยววันแรกเราซื้อแพ็กเกจทัวร์พาเที่ยวถ้ำน้ำและพายเรือคายัค เริ่มต้นที่ “ถ้ำน้ำ” ต้องเดินทางไปที่จุดปล่อยตัว แล้วเดินเท้าลัดเลาะผ่านลำธาร ทุ่งนา และหมู่บ้านจนกว่าจะถึงทางเข้าถ้ำ เป็นสันเขื่อนเล็กๆ ให้เดินเล่นได้ ก่อนเข้าถ้ำต้องใส่ชูชีพและห่วงยางลอยตัวสาวเชือกเข้าไปในช่องแคบเล็กๆ ของถ้ำ แต่พอเข้าไปแล้วจะกว้างขึ้นหน่อย เราสาวเชือกลอยเข้าไปดูความงามในถ้ำและหินงอกหินย้อยไปเรื่อยๆ แล้ววนกลับออกมา จากนั้นไปพายเรือคายัคล่องแม่น้ำซอง พายไปด้วยชมวิวภูเขาและบ้านเรือนริมแม่น้ำไปด้วย ระหว่างทางมีบาร์น้ำให้เหล่านักพายแวะพักปาร์ตี้ พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ ฟินๆ แก้กระหาย บางจุดมีแป้นบาสให้เล่นกันเพลินๆ หรือจะนั่งริมศาลานอนเปลพักให้หายเหนื่อย แล้วค่อยพายต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งก็คือตัวเมืองวังเวียง ซึ่งเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร วันที่สองเราขอผจญภัยเองปั่นจักรยานไปบลูลากูนชมวิวระหว่างทางและถ่ายภาพกันให้หนำใจ แต่ที่บลูลากูนช่วงสายนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก แนะนำให้ไปแต่เช้า แล้วไปโดดน้ำฟินๆ เย็นเจี๊ยบเหมือนใส่น้ำแข็งลงไปในบ่อน้ำ ที่นี่มีจุดให้กระโดดน้ำสำหรับคนที่ชอบความมันส์ด้วยนะ แต่ใครเป็นสายชิลก็ใส่ชูชีพนอนลอยคอเล่นน้ำไปเพลินๆ ก็ได้ เล่นน้ำเสร็จแล้วเดินขึ้นเขาไปเข้า “ถ้ำปูคำ” ด้านล่างมีจุดให้เช่าไฟฉายเพราะในถ้ำค่อนข้างมืด ส่วนทางขึ้นลำบากนิดหน่อย ต้องใช้ความระมัดระวัง แต่รับประกันว่าขึ้นไปแล้วจะฟินกับวิวสวยๆ ในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา กลางถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาววังเวียง ผจญภัยกันมาเยอะขอทำกิจกรรมเบาๆ สงบๆ บ้าง เรากลับสู่ตัวเมืองวังเวียงไปไหว้พระในวัด บริเวณด้านนอกวัดมีผู้เฒ่าผู้แก่ขายกรวยใบตองปักดอกไม้ ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องสักการบูชาพระพุทธรูปของคนที่นี่ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าวังเวียงไม่ได้มีเสน่ห์แค่แหล่งท่องเที่ยวแต่ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ปิดท้ายขอเล่าส่วนของอาหารการกินซึ่งน่าจะถูกปากแบ็กแพ็กเกอร์ชาวไทยที่สุด เพราะอาหารที่นี่เขาแซ่บจริงอะไรจริง เมนูก็คล้ายๆ ที่ไทยแต่รสชาติถึงเครื่องถึงรส ทั้งส้มตำใส่กะปิ หมูย่างทรงเครื่อง หรือใครอยากลองเมนูอินเตอร์ๆ หน่อยก็มีแซนด์วิชลาวได้กลิ่นอายสไตล์ฝรั่งเศส มีเครื่องเคียงให้เลือกหลายแบบ ซึ่งจะเป็นร้านรถเข็นตั้งอยู่ทุกมุมถนนหากินง่ายมากๆ ขอบอกว่าวังเวียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทุกรส ครบทุกความบันเทิง ไม่ว่าไลฟ์สไตล์คุณจะเป็นแบบไหนก็ต้องประทับใจและหลงรักที่นี่แน่นอนค่ะ ภาพประกอบบทความโดย : นักเขียน