การตัดไม้ทำลายป่า ในปัจจุบันยังคงแก้ไขปัญหาไม่ได้บางพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ในป่ามีขนาดกว้างใหญ่ เวลาเดินทางสำรวจป่าต้องใช้เวลานาน รวมไปถึงจุดที่ค่อนข้างเข้าถึงได้ยาก จึงทำให้เกิดเป็นช่องว่างของผู้ไม่หวังดี แอบเข้ามาลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้พื้นที่ในป่าไม่อุดมสมบูรณ์ ในแบบที่ควรจะเป็น ส่งผลเสียเกิดภูเขาหัวโลน ป่าไม้แห้งเหี่ยว และปัจจัยหลักที่ทำให้คนบุกรุกพื้นที่เข้ามาทำลายป่า มีหลายสาเหตุดังนี้ รูปภาพโดย : Free-Photos จากเว็บ Pixabay (https://bit.ly/2PSVkgx) 1. คนในพื้นที่ที่มีอิทธพล แอบใช้อำนาจในทางที่ไม่ควร เข้าไปบุกรุกป่าไม้ ที่ไม่ใช่บริเวณที่ดินของตัวเอง มีการตัดไม้ ดัดแปลงไม้ แล้วขนบรรทุกไม้ไปขาย หรือนำไม้มาแปรรูปส่งออกไปขายประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้อำนาจที่มิชอบ สร้างประโยชน์แก่ของตัวเอง จนลืมไปว่าสิ่งที่ทำนั้นผิดกฏหมาย 2. การลักลอบการตัดไม้ของชาวบ้าน ที่อาศัยในบริเวณใกล้กับป่าไม้ เพื่อนำมาปลูกสร้างที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการนำไม้มาทำสิ่งของใช้ในครัวเรือน โดยลืมไปว่าสิ่งที่กำลังทำนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะถ้าตัดไม้บ่อย ๆ จะทำให้ป่าขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ในอนาคตของชาวบ้าน จะไม่มีพื้นที่ป่าให้ร่มเงา 3. การค้าไม้เถื่อน ถือเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ก็ยังมีให้เห็นอยู่ทุกวัน เนื่องด้วยการทำงานของกระบวนการค้าไม้ มีการทำงานที่ทำงานเป็นทีม การเชื่อมโยงระหว่างคนไทยและเพื่อนบ้าน ทำให้เวลาที่ลักลอบตัดไม้ ยังคงมีให้เห็นเป็นร่องรอยทิ้งไว้ แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ค่อยดูแลป่า แต่เนื่องด้วยพื้นที่ป่าไม้ มีการดูแลอาจจะเข้าไม่ถึง ทำให้จุดที่เข้าถึงได้ยากตรงนั้น เป็นป่าที่ลักลอบของกระบวนค้าไม้เถื่อน รูปภาพโดย : Nennieinszweidrei จากเว็บ Pixabay (https://bit.ly/34WEQIH) จากปัจจัยข้างต้นสรุปได้ว่า การตัดไม้ทำลายป่าจะส่งผลเสียร้ายแรง เช่น น้ำป่าไหลหลาก สัตว์ไม่มีที่อยู่อาศัย แหล่งน้ำจากภูเขาแห้งขอด ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าได้ง่าย ทำให้บริเวณพื้นที่ตรงนั้นเสียหาย เมื่อป่าขาดความอุดมสมสมบูรณ์ จะส่งให้พื้นที่รอบ ๆ เกิดการเสียสมดุลไปด้วย สัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าก็จะเริ่มค่อย ๆ สูญพันธุ์ เนื่องด้วยไม่มีแหล่งอาหาร ป่าไม้กลายเป็นภูเขาที่ว่างเปล่า ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้นตามมา รูปภาพโดย : _Marion จากเว็บ Pixabay (https://bit.ly/2QgNfkY) ผลเสียของการตัดไม้ทำลายป่า แม้ว่าจะได้รับการแก้ไขจากภาครัฐ รวมไปเจ้าที่หน้าที่คอยลาดตะเวน ผลัดกันดูแลแนวป่า เพื่อสังเกตสิ่งที่ผิดปกติ รวมไปถึงการเฝ้าระวัง ผู้ที่ไม่หวังดีเข้ามาบุกรุกป่า ส่วนด้านเอกชนก็ช่วยกันรณรงค์ การปลูกต้นไม้ทดแทนในส่วนที่เสียหายไป มีการทำฝ่ายกั้นนำ เพื่อชะลอน้ำไว้ใช้ในยามจำเป็น ให้แก่สิ่งมีชีวิตในป่า แต่อย่างไรก็ตาม ผลเสียของการตัดไม้ทำลายป่า ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง หรือต้องรอให้สูญเสียป่าทั้งหมดในประเทศไทยก่อน ถึงจะตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ "รวมด้วยช่วยกันดูแล อนุรักษ์ป่าไม้ของเรากันนะครับ" รูปภาพหน้าปกโดย : Ornaw จากเว็บ Pixabay (https://bit.ly/39bQe6N)