เทอร์มิเนเตอร์ ไอโรบอท และ จักรกลอัจฉริยะ ภาพยนตร์สามเรื่องนี้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับอนาคตเมื่อมนุษยชาติได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์จนสามารถทำงานส่วนมากแทนมนุษย์ได้ โลกในสามเรื่องราวนี้เริ่มเป็นโลกที่สมบูรณ์และไม่มีทุกข์ แต่ทันทีที่ปัญญาประดิษฐ์ซึ่งโดยมากจะเป็นหุ่นยนต์ที่มีลักษณะและพฤติกรรมเหมือนมนุษย์ได้เริ่มมีชีวิตเอง ไม่รับคำสั่งจากมนุษย์ หรือ มีความคิดเห็นของตัวมันเอง โลกที่สมบูรณ์แบบก็ได้เปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่นในภาพยนตร์เรื่องเทอร์มิเนเตอร์ เมื่อหุ่นยนต์ได้ตระหนักว่าตนเองเหนือกว่ามนุษย์ จึงเริ่มหยุดยั้งมนุษย์ เรื่องราวเปลี่ยนจากโลกที่สมบูรณ์ เป็นโลกที่มนุษย์ไม่ได้เป็นสายพันธ์ที่เหนือที่สุดแล้ว และต้องต่อสู้เพื่อการอยู่รอด หากในภาพยนตร์ปัญญาประดิษฐ์เป็นเช่นนั้น คุณผู้อ่านคิดว่าปัญญาประดิษฐ์ในชีวิตจริงจะมีข้อดีและข้อเสียเช่นไร เราจะเริ่มกันกับตัวอย่างข้อดีของปัญญาประดิษฐ์ ข้อดีส่วนหนึ่งในปัญญาประดิษฐ์ก็คือ ความสะดวกในวิถีชีวิตของมนุษย์ คุณได้เผชิญสถานการณ์นี้กี่ทีแล้ว “ลูกมากวาดพื้นให้แม่หน่อย” หรือ “พื้นบ้านดูสกปรกมาก ทำไมยังไม่ดูดฝุ่น” และตอนสุดท้ายคุณก็ต้องทำความสะอาดเอง แต่ปัญหานี้ับริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ ๆ อย่าง ซัมชุง แอลจี หรือ พานาโซนิค ก็มีข้อแก้ปัญหาแล้ว โดยการผลิตเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถดูดฝุ่นเอง และไม่ต้องการคนควบคุมแล้ว ปัจจุบันนี้เครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้ยังไม่ได้เป็นประเภทที่นิยมเนื่องจากราคาของเครื่อง แต่ผู้ผลิตส่วนมากก็สัญญาว่า “ราคาจะลดลงในอนาคต” แต่หากเรามองเห็นประสิทธิภาพมากกว่าราคาก็ทำให้ปัญญาประดิษฐ์ดูมีประโยชน์ นอกจากปัญญาประดิษฐ์ยังมีราคาที่สูงเกินไปสำหรับคนส่วนมาก ปัญญาประดิษฐ์ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี เมื่อปัญญาประดิษฐ์ได้พัฒนาจนมันสามารถแทนงานของมนุษย์ได้ สังคมของพวกเราจะมีจำนวนของคนตกงานมาก นั่นหมายความว่าพวกคนที่มีอาชีพ อย่างเช่น ขับรถแทกซี่ ขับรถบรรทุกของ และขับรถไฟ เป็นต้น จะไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะยานพหนะมีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถควบคุมและนำทางได้ หากเราดูกันอย่างละเอียดว่าปัญญาประดิษฐ์อยู่ที่ไหน เราจะเห็นว่าปัญญาประดิษฐก็อยู่ในสิ่งที่พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้กันเลย คุณเคยเผชิญสถานการณ์นี้ไหม เมื่อคุณขับรถอยู่ ขณะที่คุณกำลังขับไปเรื่อย ๆ รถยนต์คันข้าง ๆ เกิดเปลี่ยนเลนและเกือบชนรถของคุณ เพราะว่าเขาไม่ได้ดูกระจกอย่างละเอียด หากยังไม่เคยเผชิญกับสถานการณ์นี้ก็ถือว่าคุณโชคดี แต่หากคุณขับรถบ่อยกว่านานทีปีหน คุณจะเชื่อมโยงกับสถานการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยปัญหานี้ผู้ผลิตรถยนต์จึงปรับระบบของรถให้เซ็นเซอร์ที่ตำแหน่งกระจกมองข้างของรถ เมื่อมีรถยนต์คันอื่นอยู่ใกล้ ๆ เซ็นเซอร์จะเปลี่ยนเป็นสีแดง นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าห้ามเปลี่ยนเลน นี่เป็นส่วนหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น แต่สิ่งนี้ทำให้สายพันธ์ุของมนุษย์พึ่งพิงเครื่องจักรไม่ใช่หรือ ถูกต้อง ในอนาคตความสามารถของมนุษย์จะไม่ได้สำคัญเท่าปัจจุบันนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นการพึ่งพาตนเองของมนุษย์จะลดลง ในความเป็นจริงแทบทุกอย่างในชีวิตของมนุษย์ก็ขึ้นอยู่กับเครื่องจักรอยู่แล้ว เช่น ในคณิตศาสตร์มนุษย์จะไม่สามารถคำนวณในความเร็วของคณิตกรณ์ได้ เนื่องจากคณิตกรณ์ถูกการจัดโปรแกรมมาแล้ว คำตอบของการคำนวณอยู่ในระบบก่อนคุณเริ่มพิมพ์เลขตัวแรก หรือในทางสาธารณสุขปัจจุบันนี้คณิตกรณ์บางเครื่องสามารถทำการวินิจฉัยโรคได้แล้ว เพราะเครื่องคณิตกรณ์คำนวณผลลัพธ์โดยการเก็บข้อมูลที่เป็นอาการของผู้ป่วยไว้ และโดยการผสมข้อมูลนี้กับความเป็นไปได้ คณิตกรณ์ก็สามารถทำการวินิจฉัยโรคได้ ไม่ว่าจะวินิจฉัยโรคได้เหมือนแพทย์หรือไม่ แต่ที่ปัญญาประดิษฐ์สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้แล้ว ทำให้ความสามารถของมนุษย์ไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกต่อไป ในความคิดเห็นทางจิตวิทยาของมนุษย์ เราจะเห็นว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นสิ่งที่พวกเราพึ่งพิงนานมาแล้ว แต่เมื่อเราวางข้อดีและข้อเสียใกล้กัน เราจะเห็นว่าข้อดีก็สำคัญกว่าข้อเสีย ถึงแม้ว่าสังคมของเราต้องปรับตัวภายในสองสามทศวรรษหน้า เพื่อที่จะไม่มีการตกงานที่ทำให้คนจำนวนมากสูญเสียอาชีพและรายได้ เราควรจะมองดูปัญญาประดิษฐ์เหมือนสิ่งที่มันเป็นจริง ๆ ก็คือการพัฒนาที่เราหยุดไม่ได้ และสิ่งที่พวกเราต้องการไม่เพียงแค่เพื่อมีชีวิตที่สะดวกสบาย แต่มีความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นด้วย ภาพโดย: cover https://unsplash.com/Robot https://unsplash.com/Sweeper Robot https://pixabay.com/Car mirror https://pixabay.com/Doctor https://unsplash.com/