วันนี้เราจะมารีวิวทริปที่สนุกครบรส อีกทริป เป็นทริปที่เดินเยอะมาก และถ่ายรูปได้สวยทุกมุม เพราะถนนโล่งสวย ไม่มีสายไฟพันกันยุ่งเหยิงบดบังความงามของทัศนียภาพ(สายไฟฝังใต้ดิน) ก่อนที่จะรีวิว... ก็มาทำความรู้จักกันก่อนเนอะ รัฐปีนัง(Penang) อยู่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาเลเซีย “ปีนัง” แปลว่า ต้นหมาก เพราะสมัยก่อนเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นหมาก เป็นเกาะเล็ก ๆ แต่คลาสสิคทั้งเกาะ เป็นเกาะแห่งศิลปะ ทั่วทั้งเกาะเต็มไปด้วยร่องรอยของประวัติศาสตร์สมัยตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษในศตวรรษที่ 18 เป็นเกาะที่คนไทยที่มีสตางค์สมัยก่อนนิยมส่งลูกหลานไปเรียนภาษาอังกฤษกันที่นั่น ทริปนี้เราจะพาแบกเป้ตลุยเมืองหลวงของเกาะแห่งนี้ … จอร์จทาวน์ (George Town) จอร์จทาวน์ของปีนัง ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก (World Heritage Site)โดยองค์การยูเนสโก เมื่อปีพ.ศ 2551 นื่องจากมีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากยุโรปในยุคอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งเมื่อนำมาผสมกับวัฒนธรรมท้องถิ่นจนกลายเป็นวัฒนธรรมเฉพาะสไตล์ปีนังที่ไม่ซ้ำแบบใครในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รีวิวปีนังครบรส : Review Penang Full Fun ปีนังครบรส เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย เราและคณะทั้งหมด 11 คน ได้เดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปยัง หาดใหญ่ โดยสายการบินไทยแอร์เอชีย แลกเงินริงกิตเรียบร้อย (1 ริงกิต ประมาณ 7.8 บาท) ต่อรถไฟพัดลม จากหาดใหญ่ ไปยัง บาดังเบซาร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. )....ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่บาดังเบซาร์ พอถึงจุดนี้จะต้องตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้น 1 ชม. (เวลาที่ประเทศมาเลเซียเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ต่อรถไฟแอร์ (คล้ายกับ BTS ประเทศไทย) จากบาดังเบซาร์ ไปท่าเรือเฟอรี่ที่บัตเตอร์เวิร์ธ (ตรงนี้ผู้คนจะเยอะมาก ๆ ถ้าขึ้นรถไฟช้าอาจจะได้ยืนถึง 2 ชม.)… สำหรับใครที่ชอบความสบายและไม่อยากเสี่ยงกับการยืนบนรถไฟ แนะนำให้นั่งเครื่องบินจากดอนเมืองไปปีนังเลยจะดีกว่า แต่ถ้าต้องการเที่ยวครบรสสักครั้ง ก็ สนุก มันส์ จดจำไปนาน ดีน๊า ลงเรือเฟอรี่ที่บัตเตอร์เวิร์ธไปอีกประมาณ 15 นาที ก็ถึงที่หมาย... เกาะปีนัง เราพักที่ Tropicana 218 Macalister,Jalan Macalister อยากบอกว่า ถูกใจมาก เป็นคอนโดระดับ 4 ดาว ทำเลดีเยี่ยม อยู่ใจกลางเมืองในดาวทาวน์เมืองจอร์จทาวน์ สะอาดสะอ้าน มีหลายชั้น เราพักชั้นที่ 7 จำนวน 1 ห้องใหญ่ ซึ่งด้านในแยกย่อยอีก 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และมีห้องรวมไว้ดูทีวี ทำครัว ทานข้าว เม้าท์กัน… ชั้น 33 ก็สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองปีนังแบบ 360 องศาได้ และ ชั้น 11 ก็มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนสวย ๆให้นั่งชิล ๆ ลมเย็นสบาย ส่วนชั้นล่างสุดนั้น มีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม อร่อยทุกร้าน เรียกได้ว่า คอนโดแห่งนี้มีครบทุกอย่าง แถมข้าง ๆ คอนโดก็มีร้านขายขนมเปี้ยะเจ้าดัง และร้านติ่มซำเจ้าอร่อยก็อยู่ใกล้ ๆ ฟินมากพักที่นี่ ขอแนะนำ!! ---------------————— ❤️❤️❤️❤️ อาหารเช้าที่นี่ต้อง … ติ่มซำ ซึ่งอร่อยไม่แพ้ภูเก็ตบ้านเรา ราคาไม่แพงอีกต่างหาก และคนจะแน่นทุกร้าน เรามีโอกาสไปทาน 2 ร้าน ซึ่งอร่อยทั้งสองร้านเลย 1. Star Dim Sum Restoran อยู่ห่างจากคอนโดที่พักประมาณ 400 เมตร เดินชมเมืองเพลิน ๆ แป้บเดียวก็ถึงร้าน หลังทานเสร็จ ทุกคนชอบมาก บอกอร่อยทุกเมนูที่สั่ง โดยเฉพาะขนมจีบ ซาลาเปา และขาเป็ดพะโล้ 2. Leong Kee Tim Sum Restaurant ร้านนี้อยู่ในโซนตัวเมือง ใกล้ ๆ คอมทาร์ (Komtar เป็นห้างใหญ่ใจกลางเมือง ตัวตึกสูงสามารถขึ้นไปชมวิวของเมืองปีนังได้ แต่ต้องจ่ายเงิน ) สำหรับอาหารมื้ออื่น ๆ เช่น มื้อเที่ยง มื้อเย็น มีให้เลือกเยอะแยะเช่นกัน ไม่ว่าจะแถวตลาดสด หรือข้างถนน ภัตตาคาร ร้านอาหารไทย-จีน- ญี่ปุ่น หาไม่ยากเลยค่ะ โดยเฉพาะย่านเลิฟเลนสตรีทอาร์ต( Love lane street art ) ทั้งร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม เพียบ!!! หรือจะทานอาหารฟาสต์ฟู้ดตามแหล่งที่เราไปเที่ยวก็มีเยอะค่ะ (ย้ำอีกที…ที่คอนโดที่เราพักก็มีร้านอาหารอร่อย ๆ โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น และร้านขนมปัง) จบเรื่องที่พัก เรื่องกิน ก็มาถึงเรื่องเที่ยวบ้าง… สำหรับการเที่ยวในปีนัง อันดับแรกเลยคงต้องขอแนะนำให้นั่งรถเมล์ฟรีชมรอบเมือง ซึ่งรถเมล์ทุกสายจะต้องผ่านคอมทาร์( Komtar ) เราสามารถต่อรถเมล์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ที่คอมทาร์ แต่ถ้าต้องการความเร็ว สะดวกสบาย หรือถ้าจะออกเที่ยวนอกเมืองก็แท๊กซี่หรือรถตู้ค่ะ(ใครที่มีแอพของ Grab อยู่แล้วสามารถเข้าจองรถในแอพได้เลย) สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด!! 1. คฤหาสถ์เฉิงฟัตเจ๋อ หรือ The Blue Mansion ( Cheong Fatt Tze Blue Mansion ) เป็นแลนด์มาร์คที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ตัวคฤหาสถ์เป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างตามหลักฮวงจุ้ยของคนจีน ภายในตกแต่งงดงามมาก ที่นี่จะมีไกด์มืออาชีพรอต้อนรับพร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับคฤหาสถ์แห่งนี้อย่างละเอียดก่อนที่จะเข้าชม (บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ถ้ากลัวฟังไม่เข้าใจก็ใช้การศึกษาข้อมูลในกูเกิ้ลไปก่อน จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมที่นี่ได้เยอะค่ะ) ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมวันละ 3 รอบ ถ้าจะไปควรเช็คเวลาเปิดด้วยนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปรอ 2. บ้านสกุลคู หรือ คูกงสี (Khoo Kongsi) เป็นบ้านประจำตระกูลของชาวจีนฮกเกี้ยนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในปีนัง โดดเด่นในเรื่องความโออ่าหรูหราสวยงามอย่างปราณีต คล้ายพระราชวังจีน งานแกะสลักไม้ แกะสลักหิน ดูปราณีตทุกจุด เน้นสีแดงกับสีทองตัดกัน ดูอลังการมาก แสดงถึงความมั่งคั่งของตระกูลนี้ และรอบ ๆ บริเวณย่านนี้สามารถเดินแชะ ชม ชิม ช้อป งานแฮนด์เมค หรือไม่เมค ของน่าซื้อเยอะแยะเต็มไปหมด มีงานอาร์ตบนฝาผนังให้ถ่ายรูป ร้านค้าทุกร้านตกแต่งร้านหลากสไตล์ จะแนวฮิปฮอบ อาร์ต ไมเดิร์น เดินเพลิน ๆ ขนมลอดช่องรสทุเรียนย่านนี้อร่อยมาก (จำชื่อร้านไม่ได้) 4. ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) จุดนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ ใครมาปีนังแล้วมาไม่ถึงปีนังฮิลล์ ถือว่าไม่ได้มาปีนัง … นั่งรถไฟรางขึ้นชมวิวความงามของเกาะปีนังแบบ 360 องศา เหนือยอดไม้ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 833 เมตร ระยะทางขึ้น 1,996 เมตร (บริเวณนี้สูงที่สุดในปีนัง และมุมดีที่สุดในการถ่ายภาพตัวเมืองจอร์จทาวน์ในยามราตรี) คือจริงๆอยากแนะนำให้ขึ้นชมทั้งยามเช้า และยามค่ำ เพราะบรรยากาศจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง! (ยามเช้าก็จะได้ความฉ่ำปอด ชมธรรมชาติป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์บนยอดเขา มีรถกอล์ฟนำเที่ยวชมป่า ส่วนยามค่ำก็จะเห็นแสงไฟของตัวเมืองระยิบระยับดุจประกายเพชรยามต้องแสงไฟ สวยงามมาก) 5. หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่( Chew Jetty) เป็นที่อยู่อาศัยของชาวจีนแต่ละตระกูลที่อพยพมาอยู่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 บ้านไม้เก่าคลาสสิคสองข้างทางที่สร้างทอดยาวออกไปในทะเล พร้อมของกิน ของให้ช้อบ ตลอดทางเดิน (คล้าย ๆ เกาะเกร็ดบ้านเรา) 6. เดินชมเมือง ถ่ายรูปถนนสายอาร์ต ย่านเลิฟเลน ( Love lane street art ) ถนนเส้นนี้ใครมาปีนังไม่ควรพลาดเด็ดขาด!!! เป็นถนนที่เต็มไปด้วยภาพวาด งานศิลปะตามตึก ตามเสา ประตู หน้าต่าง ทุกตรอกซอกซอย สำหรับคนชอบงานศิลปะ เดินเพลินไม่มีเบื่อ และถ้าเดินเยอะแล้วรู้สึกร้อนอยากผ่อนคลาย ก็ขอแนะนำร้านขนมเค้ก ขนมปัง ชากาแฟ แอร์เย็น ๆ ย่านนี้ …ต้องร้านนี้ เกร๋มากๆ มีขนมปังเตาฟืนรสอร่อย กลิ่นหอมเย้ายวนใจ ชื่อร้าน The Mugshot Cafe GEORGE TOWN - 302 Chulia Street ทานเสร็จอย่าเพิ่งเดินออกนะคะ เพราะแว่นตาสวยๆเกร๋เท่ห์สมาร์ท อยู่ด้านในสุดของร้าน ซึ่งอาจจทำให้กระเป๋าฉีกได้ถ้าเดินเข้าไป 7. หลบแดดในห้างแอร์เย็นๆที่ Gurmey Plaza และ Gurmey Paragon ซึ่ง 2 ห้างนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กัน ซึ่งก็จะมีกิเลสทุกตารางนิ้ว ของแบรนด์เนมนำมาลดกระหน่ำ อาทิ.. เสื้อผ้า รองเท้า น้ำหอม ... อื่น ๆ (ของที่นี่จะถูกกว่าบ้านเราเพราะปลอดภาษีทั้งเกาะ) หรือจะไปห้างคอมทาร์ (Komtar)ที่ใหญ่ที่สุดก็ได้ …………………………………❤️❤️❤️❤️ จริง ๆ แล้ว ปีนังยังมีที่ให้เที่ยวอีกเยอะมาก ๆ แต่เรามีเวลาจำกัด เลยขอรีวิวเท่าที่เรามีโอกาสได้ไปนะค่ะ ทริปนี้ใช้งบไม่เยอะ เนื่องจากค่าครองชีพที่นี่ถือว่าถูกมาก ถ้าใครเดินไม่เก่งก็ขอแนะนำให้นั่งรถเมล์ฟรีชมรอบเมืองหลาย ๆ รอบ แล้วไปเช่าจักรยานปั่นตามตรอกซอกซอย หรืออาจนั่งสามล้อถีบชมเมือง ก็จะได้บรรยากาศอีกแบบ ปีนังครบรสของเรา เราไปแล้ว 2 ครั้ง เน้นเดินเป็นส่วนใหญ่ เดินเกือบทุกตรอกซอกซอย แวะชิมตามข้างทาง และ ตลาดสด ถ้าอยากเห็นสไตล์การแบกเป้เที่ยวแบบงบจำกัดของวัยรุ่นสมัยใหม่ เราก็ใช้การนอนตามโฮสเทลในบางคืน ซึ่งมันทำให้การมาเที่ยวปีนังทั้ง 2 ครั้งก็… ครบรสจริง ๆ สุดท้ายอยากฝาก… สำหรับใครที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษ ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ในสถานการณ์จริง แต่งบมีจำกัด … ปีนังน่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี (เราเคยทำโทรศัพท์หายที่นี่ ไปขอดูกล้องวงจรปิด และสุดท้ายก็ได้คืน แต่กว่าจะได้คืนก็เสียเวลาเป็นครึ่งวัน เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า การใช้สติแก้ปัญหาและภาษาอังกฤษ จำเป็นมากในการเที่ยวต่างประเทศ) ก่อนเดินทางกลับ แวะซื้อของฝากคนที่รอทางบ้าน… ร้านชอคโกแลต มีให้แวะหลายร้านค่ะ กลับโดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย จากสนามบินปีนังถึงดอนเมือง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง You can do the backpacking to this town to celebrate Christmas or study English by plane, train and boat. Penang Full Fun : ปีนัง ครบรส ภาพประกอบทุกภาพ โดยผู้เขียน : ไข่ฟู ครูนอกกรอบ