กลับมาแล้ววววว กับบทความประสบการณ์ท่องเที่ยว คราวนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ที่ไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์มาเมื่อตอนปีใหม่ที่ผ่านมา ทริปนี้จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย!ต ทริปนี้ผมไปกับทัวร์ Avenue Inter Travel Group. ราคาช่วงที่ผมไปอยู่ประมาณ 89,000 บาท (เผื่อใครอ่านแล้วอยากไปตาม) สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่ผมอยากไปมานานมากแล้ว และแล้วก็ถึงวันที่ไปเสียที ผมนัดเจอกับเพื่อนร่วมทัวร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะขึ้นเครื่องของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG970 บินตรงไปสนามบินนานาชาติซูริค ตอนที่ผมไปเช็คอินกับตม. ก็ไม่มีอะไรน่าผิดสังเกต แต่พอเดินไปที่เกตที่เครื่องผมจอดอยู่ ผมก็มองไปรอบๆ แล้วก็รู้สึกสงสัยว่า "อ้าว... ทำไมไม่มีคนเลย ทำไมว่างแปลกๆ" ตอนนั้นแทบไม่มีคนเลย มีแค่ผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกับผม กับเจ้าหน้าที่สนามบิน ผมก็สงสัย แต่ก็ไม่ได้ถาม ว่ามีงานอะไรหรือเปล่า (ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ 55555) พอสนามบินเปิดให้เราไปนั่งที่เกต ผมก็หาที่นั่งรอแล้วอ่านหนังสือไป สักพักได้ยินพนักงานการบินไทยประกาศว่าจะต้องดีเลย์ไปประมาณ 15 นาที เนื่องจากการจราจรทางอากาศหนาแน่น ผมก็คิดเอาเองว่า "สงสัยช่วงใกล้ปีใหม่มั้ง สายการบินอื่นเลยเพิ่มไฟลท์มาชั่วคราว" แล้วก็อ่านหนังสือต่อไป อ่านไปอ่านมา พนักงานก็ประกาศให้ขึ้นเครื่อง ผมก็ดูนาฬิกาว่ากี่โมงแล้ว "ดีเลย์ไปชั่วโมงครึ่งเลยเหรอ" หลังจากขึ้นเครื่องไปแล้ว นั่งรออีกสักพัก ก็ได้ออกจากเกตสักที (ดีเลย์ไปทั้งหมด 2 ชั่วโมง) ระหว่างบินไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากผมตื่นมาตอนบินอยู่เหนืออัฟกานิสถาน (ตื่นทำไม... 555) อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าโชคดีที่เครื่องดีเลย์หรืออะไร แต่ระหว่างที่ลดระดับเพื่อที่จะลงที่สนามบินซูริค พระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี เลยได้ภาพเทือกเขาแอลป์สวยๆ มาตั้งเป็นวอลเปเปอร์ หลังจากนั้นก็ถึงสนามบินซูริค ผ่านตม. ขาเข้ามาเสร็จเรียบร้อย ก็รับกระเป๋าแล้วไปขึ้นรถบัสเพื่อที่จะไปเมืองทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ชื่อว่าเมืองซาฟเฮาส์เซ่นต์ เพื่อที่จะไปดูน้ำตกไรน์ การเดินทางไปน้ำตกไรน์ที่ผมไป จะต้องข้ามไปประเทศเยอรมนี ก่อนที่จะกลับเข้ามาที่สวิสอีกครั้ง หลังจากกลับเข้ามาในสวิสแล้ว ก็ได้ไปชมวิวน้ำตกไรน์ ข้อเสียมีอยู่อย่างหนึ่ง คือ ถ้าไปตอนเช้า (แบบทริปผม) พระอาทิตย์จะอยู่ฝั่งเดียวกับน้ำตก จะทำให้ภาพย้อนแสงหน่อย ไม่ค่อยเหมาะกับการถ่ายรูปตัวเองเข้าไปด้วย (นอกจากว่าปรับแสงเป็นนะ ผมปรับไม่เป็น TT) หลังจากนั้นก็กลับไปที่ซูริค ไปเดินเล่นบนสะพาน Quaibrücke ก่อนที่จะไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารจีน ทานข้าวเสร็จแล้วเดินออกมาก็แปลกใจว่าทำไมเมืองใหญ่ขนาดนี้ไม่มีคนเลย ทานข้าวเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปเมืองอินเทอร์ลาเก้น เป็นเมืองที่พอผมไปเองแล้ว ก็อยากไปอยู่อีกสักสัปดาห์ อินเทอร์ลาเก้นเป็นเมืองเล็กๆ อยู่ระหว่างสองทะเลสาบ แม้จะมีนักท่องเที่ยวเยอะ แต่ก็รู้สึกว่าเมืองนี้เงียบมาก ระหว่างที่เดินไปเดินมาในเมือง ก็เจอคนไทยเป็นกลุ่มๆ ตามร้านขายของ แล้วอยู่ดีๆ ก็ไปเจอพี่บุ๊คโกะเฉยเลย คุณแม่ก็เลยขอถ่ายรูปสักหน่อย เสร็จแล้วก็เดินไปเรื่อยๆ รอบเมือง แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปทานข้าวเย็นที่ร้านใกล้ๆ โรงแรม เป็นฟองดูสวิส หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นขนมปังจิ้มชีส หรืออะไรประมาณนั้น แต่ว่าฟองดูที่ผมไปทานเป็นเหมือนหม้อต้ม แล้วให้เรา Deep-Fried เนื้อไก่หรือเนื้อหมูเอง แล้วไปจิ้มกับซอสต่างๆ ทานคู่กับสลัด ซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของผม ก่อนที่จะกลับเข้าไปพักที่โรงแรม - เครดิตภาพถ่ายทั้งหมดโดยนักเขียน