ผักทุกชนิดนั้นมีประโยชน์มากมายแต่หากว่าเรากินผักไม่ถูกวิธี แทนที่จะได้ประโยชน์ก็อาจจะกลายเป็นโทษไปก็ได้ อย่างเช่น การกินผักดิบมีผักบางชนิดที่เราไม่ควรกินดิบเพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ผักที่เราคุ้นเคยในท้องตลาดและแถวบ้านเรานั้นมีวิธีการนำมาปรุงอาหารนำมรทำอาหารก็แตกต่างกัน บางชนิดนั้นนิยมทานแบบสดๆคู่กับน้ำพริก บางชนิดใช้สำหรับ ต้ม แกง ผัด ยำ หรือเมนูต่างๆก็ตาม ที่ทำในแบบที่ผักสุขแล้ว 1.กะหล่ำปลีมีวิตามินซีสูงกินแล้วมีประโยชน์แน่นอนแต่ต้องปรุงให้สุขก่อนรับประทานเนื่องจากการกินกะหล่ำปลีดิบในปริมาณมาก สารออกซาเลทในกะหล่ำปีจะไปจับกับแคลเซียมที่กล้วยไตจนกลายเป็นสารแคลเซียมออกซาเลทซึ่งอาจมีสารตัวนี้ที่กล้วยไตมากๆก็เสี่ยงต่อโรคนิวในไตได้ ภาพจากhttps://bit.ly/2UyyMEE 2.บรอกโคลี่ไม่ควรกินดบเพราะว่าบรอกโคลี่นั้นมีน้ำตาลที่ต้องถูกย่อยด้วยความร้อนก่อนจึงจะไม่ก่อให้เกิดอาการท้องอืดได้บรอกโคลี่ยังมีสารฮอร์โมนบางชนิดที่เป็นตัวกระตุ้นความเสี่ยงโรคไทรอยด์แต่เจ้าฮอร์โมนที่ว่าจะถูกย่อยสลายไปเมื่อโดนความร้อนดังนั้นบรอกโคลี่จึงจัดเป็นผักอีกชนิดที่กินดิบมากๆอาจก่อให้เกิดโทษ ภาพจากhttps://bit.ly/2vYJ9at 3.ถั่วฝักยาว ถั่วฝักยาวดิบนั้นจะมีบริมาณไกลโคโปรตีนและเล็กตินค่อนข้างมาก ซึ่งสารเหล่านี้มีส่วนชักนำอาการคลื่นไส้ อาเจียนอาการท้องเสียได้ในเวลา 3 ชั่วโมงหลังรับประทานถั่วดิบ ซึ่งทางองค์กรอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกายังออกมาเตือนอีกด้วยว่าไม่ใช่แค่ถั่วฝักยาวเท่านั้นที่กินดิบแล้วอาจให้โทษแต่ถั่วแดงหรือถั่วดำก็ไม่ควรกินดิบเช่นเดียวกันไม่อย่างนั้นอาจทำให้ไม่สบายได้ ภาพจากhttps://bit.ly/2vkdsYL 4.ถั่วงอกเป็นผักชนิดต้นๆที่นิยมกินดิบเป็นอย่างมาก มีสารโซเดียมซันไฟต์ซึ่งเป็นสารฟอกขาวที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้ามักจะนำมาฟอกสีให้ถั่วงอกมีสีขาวน่ารับประทาน อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่รักษาความสดของผัก ให้เก็บไว้ใช้ได้นานซึ่งหากผู้บริโภคมีอาการแพ้สารชนิดนี้หรือกินถั่วงอกดิบในปริมาณมากๆทางศูนย์ข้อมูลพิษวิทยาสาธารณะสุขก็บอกว่าอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ หายใจติดขัด ความดันโลหิตต่ำและปวดท้องได้ ภาพจากhttps://bit.ly/2vdlwus 5.หน่อไม้ศูนย์ข้อมูลด้านอาหารกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่าหน่อไม้สดมีสาร cyanogenic glycosides ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นใส่เนท์อันมีพิษต่อร่างกายหากร่างกายได้รับสารตัวนี้ในปริมาณมาก สารcyanogenic จะเข้าไปจับกับ อีโมโกลบิน ทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจน ทุรนทุรายหมดสติและอาจเสียชีวิตได้ดังนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขจึงแนะนำให้ปรุงสุกหน่อไม้หรือนำหน่อไม้ไปดองซึ่งต้องผ่านการต้มก่อนรับประทานนั่นเอง ภาพจากhttps://bit.ly/2H6fwX8 ภาพปกจาก https://bit.ly/38aINf5