สวัสดีค่ะ...วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำผักพื้นบ้านปลอดสารพิษค่ะ บางชนิดนั้นมีถิ่นหรือแหล่งที่พบเฉพาะในภาคใต้ ทั้งชนิดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ และชนิดที่สามารถปลูกได้เอง ผักเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ดีต่อสุขภาพ ประโยชน์หลากหลาย ปลอดภัยไร้สารเคมีแน่นอน เพราะขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือในส่วนที่ปลูกเองก็ตาม เราสามารถควบคุมการใช้สารเคมีได้ หรือไม่ใช้สารเคมีเลยด้วยซ้ำไป ผู้เขียนค่อนข้างคุ้นเคยกับพืชผักเหล่านี้ เพราะแม่ของผู้เขียนชอบไปหาเก็บพืชผักตามธรรมชาติและชอบปลูกพืชผักชนิดต่าง ๆ นี้ไว้ในไร่ที่เป็นร่องสวนยางพารา (ร่องสวนยางที่โค่นต้นยางแล้ว และในระหว่างปลูกต้นยางใหม่ กว่าต้นยางจะโต เกษตรกรส่วนใหญ่ มักจะไม่ปล่อยให้พื้นที่ว่างเปล่าไร้ประโยชน์ ด้วยการปลูกผัก ปลูกพืชต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งปลูกข้าว เรียกว่าข้าวไร่) แล้วนำมาประกอบอาหารรับประทานเองในครอบครัว หรือนำไปขายที่ตลาดค่ะ แม่พูดให้ฟังเสมอว่า “คนสมัยนี้ค่อนข้างรักความสบาย ไม่ชอบปลูกไม่ชอบหากับข้าว สะดวกในการซื้อมากกว่า” นี่เลยเป็นช่องทางที่ทำให้แม่มีรายได้จากการเก็บผักปลูกผักไปขาย ที่สำคัญคือ ผักเหล่านี้ปลอดภัย ไร้สารเคมี จึงเป็นที่ต้องการของลูกค้า เพราะปัจจุบันนี้กระแสคนรักสุขภาพค่อนข้างมาแรงเลยทีเดียว ผักของแม่จึงเป็นที่น่าสนใจกว่าผักตลาดที่ขายกันทั่วไป และขายดี ขายจนหมดเกลี้ยงทุกครั้ง มาทำความรู้จักผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง ใบบัวบก เป็นใบบัวบกที่ขึ้นเองตามธรรมชาติค่ะ แตกยอดแตกใบงามมาก ชาวใต้นิยมนำมารับประทานกับขนมจีน หรือทำเป็นผักเหนาะ (ผักแนม) สด ๆ แบบนี้จะกรอบจิ้มกับน้ำพริกอร่อยเลยทีเดียว สรรพคุณของใบบัวบกนั้นมีมากมาย แต่ที่เราทราบกันดีคือ สามารถแก้ช้ำในได้นั่นเอง เราจะเอามาทำเป็นกำโดยใช้ใบมะพร้าวมัด ขายกำละ 10 บาท ส้มเขาคัน หรือ เถาคัน เป็นพืชพื้นถิ่นของภาคใต้ ปัจจุบันนี้ค่อนข้างหายากแล้ว เป็นไม้เลื้อยมีลักษณะเป็นเถาวัลย์ มีลูกกลมสีเขียว รสเปรี้ยว ถึงเปรี้ยวมาก นิยมนำมาประกอบอาหารโดยเฉพาะแกงส้ม (แกงส้มปลาใส่ส้มเขาคัน อร่อยมาก) เป็นการใช้รสเปรี้ยวของส้มเขาคันแทนมะนาว ยิ่งในช่วงที่มะนาวมีราคาแพง จะช่วยประหยัดได้เยอะเลยค่ะ ส้มเขาคันจะเหมือนกับพืชที่มีรสเปรี้ยวชนิดอื่น ๆ ถ้ากินมากเกินไปก็อาจทำให้ท้องเสียได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ นำมามัดรวมกัน ขายมัดละ 10 บาท เอาไปทีไรไม่เคยพอขายเลย เพราะเป็นของหายาก ผักบุ้งนา หลายคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะผักบุ้งนานิยมนำมารับประทานคู่กับส้มตำอาหารที่เราโปรดปราน มีลักษณะเด่นคือ ความกรอบ และยอดที่อ่อนน่ากิน จะขึ้นเองตามธรรมชาติใกล้ ๆ แหล่งน้ำ ผู้เขียนมักจะตามแม่ไปบริเวณริมหนองน้ำใกล้บ้านเพื่อเก็บผักบุ้งอยู่เป็นประจำ เอามาผัดน้ำมันหอย หรือ จิ้มน้ำพริกก็อร่อย เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าประโยชน์ของผักบุ้งคือช่วยบำรุงสายตา มีกากใยอาหารช่วยในระบบขับถ่าย และอีกมากมาย ทำเป็นมัดขายมัดละ 10 บาท (มัดใหญ่มาก) ต่อมา...เรามาดูผักพื้นบ้านที่สามารถปลูกเองได้กันค่ะ เกว็ดบอน หรือ ไหลบอน เกว็ดบอนเป็นภาษาพื้นถิ่นของทางภาคใต้ ซึ่งหมายถึง หน่ออ่อนของบอนที่แตกออกมาใหม่แม่ของผู้เขียนปลูกต้นบอนไว้ในไร่ เมื่อมันแตกหน่อใหม่ขึ้นมาก็จะไปเก็บเอามาขาย ขายดีขายหมดไม่เคยพอค่ะ สามารถเอาไปต้มจิ้มน้ำพริก การต้มต้องให้น้ำเดือดก่อนใส่ลงไป ไม่งั้นบอนจะคัน กินไม่ได้ หรือผัดน้ำมันหอย บอกเลยว่าหรอยแรง กินได้ไม่อ้วนดีต่อสุขภาพจริง ๆ ค่ะ ทำเป็นมัด ขายมัดละ10 บาท หัวแส้ หรือ แส้ม้าฮ่อ เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาแทบจะไม่เคยได้ยินเลยใช่ไหมล่ะคะ แน่นอนค่ะ เพราะว่าหัวแส้เป็นพืชพื้นถิ่นของทางภาคใต้ ไม่แปลกเลยค่ะ เพราะแม้แต่เด็ก ๆ ในภาคใต้สมัยนี้ก็แทบจะไม่รู้จักเหมือนกัน วิธีการกินคือกินสด ๆ จิ้มน้ำพริก หรือกินเป็นพักเหนาะ ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า “หรอยจังฮู้” ลักษณะภายนอกทั่วไปจะคล้ายต้นหอม มีหัวสีขาว ใบสีเขียว กลิ่นฉุน แม่ปลูกไว้ในไร่เหมือนกัน เมื่อจะขายก็ไปขุดแล้วนำมาล้างน้ำ เว้นรากไว้ให้เป็นฝอย ๆ เพื่อความสวยงาม สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครปลูกหัวแส้กันแล้ว ผู้เขียนจะเห็นแม่เก็บเหง้าของแส้เอาไว้อย่างดี เพราะหายากแล้วในปัจจุบันสามารถเก็บไว้ได้นานเลยทีเดียว เมื่อคิดอยากจะปลูกเมื่อไหร่ก็สามารถนำเหง้าที่เก็บไว้มาปลูกได้เลย โดยการขุดหลุม ฝังกลบ รดน้ำ กำจัดวัชพืช แล้วมันจะแตกใบใหม่ แตกหน่อใหม่ขึ้นมา ทำเป็นกำ ขายกำละ 10 บาท ใบกะเพราบ้าน กะเพราบ้านจะมีลักษณะของใบเล็ก มีกลิ่นหอมฉุนกว่ากระเพราเกษตรที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ในส่วนของใบกะเพราผู้เขียนช่วยแม่เก็บเอาจากหลังบ้าน ปลูกไว้ต้นเดียวมันก็แพร่ขยายพันธุ์เอง เต็มหลังบ้านไปหมด ด้วยความหอมฉุนเป็นพิเศษเมื่อนำมาผัดในแต่ละครั้งหอมไปสามบ้านแปดบ้าน สรรพคุณของกะเพรานั้นอย่างที่เราเห็นกันก็คือ ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำมาทำผัดกะเพราผัดขี้เมา แกงป่า หรือ ต้มยำโป๊ะแตก เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง ดีต่อร่างกายมาก ๆ ค่ะ ทำขายกำละ 5 บาท ขายไม่แพงเพราะไม่ต้องดูแลอะไรมากในการปลูก ข้าวโพดเหนียว หรือ ข้าวโพดข้าวเหนียว เอ๊ะ! ไม่คุ้นเลยใช่ไหมล่ะคะ จะมาเล่าให้ฟังค่ะข้าวโพดเหนียวก็คือ ข้าวโพดชนิดหนึ่งเม็ดจะมีสีขาว สีม่วง สีขาวขุ่น ปนกันในฝักเดียว บางฝักก็มีสีขาวล้วน เนื้อสัมผัสจะเหนียวหนึบสำหรับผู้เขียนแล้วชอบข้าวโพดเหนียวมากกว่าข้าวโพดหวานที่ขายกันทั่วไป ชอบที่มันหนึบ ๆ นี่แหละ รสชาติจะมัน ๆ หวานน้อยกว่าข้าวโพดหวาน แม่ปลูกไว้ในไร่เหมือนกัน วันนี้มีข้าวโพดเหนียวทับทิมสยามของน้ามาฝากขายด้วย สีออกม่วงแดง สีสวยน่ากินมาก ๆ ข้าวโพดเหนียวมีวิตามินเยอะมาก ประโยชน์ก็มีเยอะจนอธิบายไม่หมด เอาที่เด่น ๆ ก็คือ มีคาโบไฮเดรตให้พลังงานแก่ร่างกายและมีกากใยอาหารสูง ช่วยระบบขับถ่าย ขายถุงละ 20 บาท ไม่แพงเลย ขอแถมด้วย ยอดน้ำเต้า หรือยอดฟักทอง ค่ะ ฟังทอง หรือที่ชาวใต้เรียกว่า น้ำเต้า วันนี้มีน้าข้างบ้านเอายอดฟักทองที่แกปลูกไว้ในไร่มาฝากให้แม่ขายด้วย ขายมัดละ 10 บาท แกบอกว่าปลูกไว้เยอะเห็นยอดอ่อนสวย ๆ เลยเอามาขาย และยังพูดติดตลกอีกว่า “ถ้าขายไม่หมดให้แม่แจกไปเลยก็ได้” ยอดน้ำเต้าสามารถเอาไปผัดน้ำมันหอยก็ได้ ลวกจิ้มน้ำพริกก็ดี ส่วนแม่ของผู้เขียนนั้นใครเอาอะไรมาฝากขายก็รับไว้หมด เมื่อได้เงินมาคนที่ฝากขายก็จะแบ่งให้แม่ตามสัดส่วนแล้วแต่ว่าจะขายได้เท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็พึ่งพาอาศัยน้ำใจกันมากกว่าคิดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ค่ะ เป็นไงบ้างคะ พืชผักพื้นบ้าน ทั้งหมดที่นำมาแนะนำให้รู้จักกัน อร่อย และ มีประโยชน์ดี ๆ แถมปลอดภัยไร้สารเคมีปนเปื้อน ดีต่อสุขภาพทั้งนั้นเลย ผู้เขียนคิดว่า อยู่บ้านเราต่างจังหวัดนั้นมีทรัพยากรดี ๆ อยู่เยอะ ไม่ใช่แค่ที่ผู้เขียนนำมาเสนอเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งดี ๆ อื่น ๆ อยู่อีกมากมาย อยู่ที่ว่าเราจะรู้จักทำมาหากินหรือไม่ อย่างเช่น เรื่องราวที่นำมาฝากกันในวันนี้ นอกจากเราจะได้กินผักดี ๆ อร่อย ปลอดสารเคมีแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ให้เราโดยที่ไม่ต้องลงทุนหรือลงทุนน้อยมากอีกด้วยค่ะ ปิดท้ายนี้ด้วยบรรยากาศการขายผักตลาดนัด ผักพื้นบ้านที่เอาไปเท่าไหร่ก็หมด ไม่เคยพอค่ะ (ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน) ขอบคุณที่รับชม...และฝากติดตามบทความ กิน เที่ยว สุขภาพของ “ขี้พร้าขาหมู” ในครั้งต่อ ๆ ไปด้วยนะคะ...ขอบคุณค่ะ