จากตอนที่แล้ว ฉันได้พูดถึงการเตรียมตัวก่อนเดินทางไปเรียนต่อโทฯ ที่อเมริกา ไป 6 เรื่อง และยังมีรายละเอียดที่ต้องพูดถึงเพิ่มเติมอีกหลายข้อในตอนนี้ เพราะเรื่องต่างๆที่จะพูดถึงต่อไป มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆที่ต้องบอกให้คุณเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทางไปลุยใช้ชีิวิตในอเมริกาการใช้ชีวิตในอเมริกา ถือเป็นสนามจริงที่คุณจะไม่สามารถถอยกลับมาตั้งหลักที่บ้านได้ ถ้าหากคุณไม่เตรียมตัวให้พร้อมดังนั้น ฉันจึงให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเดินทางค่อนข้างมาก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาพูดกันต่อเลยนะคะ7. ของใช้ส่วนตัวสำหรับใช้ที่อเมริกา- เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า ถุงมือ เสื้อกันหนาว หมวกกันหนาว ผ้าพันคอ ฯลฯ คุณควรซื้อตุนไว้จากที่เมืองไทย ไปเหมาจากแหล่งขายส่งเสื้อผ้า เช่น แพลตตินั่ม ประตูน้ำ จตุจักร โบ๊เบ๊ ฯลฯ มาก็ได้นะ แต่ไม่ควรขนซื้อไปเยอะมากเกินไป กะให้ใส่ได้ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็พอ เพราะเวลาที่คุณอยู่ที่โน่น ยังไงคุณก็อดไม่ได้ที่จะไปซื้อเสื้อผ้าที่โน่นอยู่ดีเวลาที่มีลดราคาเยอะๆแล้วอย่าลืมที่จะต้องดูคุณภาพของเสื้อยืดด้วยนะคะว่า สามารถซักเครื่องและใส่เครื่องอบผ้าได้หรือเปล่า ถ้าใส่เครื่องอบผ้า แล้วเสื้อจะหดไม๊ เสื้อผ้าไม่ควรซื้อเสื้อยืดแบบถูกๆมา ตอนนั้นฉันเคยไปเหมามา สมัยนั้นตัวละ 100-200 บาท ใส่แล้วดูไม่ดีเลย เพราะเหมือนใส่เสื้อนอน แถมซักแล้วหดอีกต่างหาก แต่ก็ต้องทนใส่หน่อย เพราะงบมีจำกัดฉันเคยเอาเสื้อยืดจากเมืองไทยไป เป็นเสื้อผ้ายืดแบบใส่พอดีตัว ลายสวยเชียว แต่พอเอาไปซักและเข้าเครื่องอบผ้าของที่อเมริกา จากที่เสื้อ Size ผู้ใหญ่ มันดันหดกลายเป็นเสื้อ Size เด็กอนุบาลใส่ ^_^ เสียดายเสื้อตัวนั้นมากๆเลย เพราะเป็นเสื้อที่แม่ซื้อให้ไว้ใส่ที่โน่น ตอนนี้ยังเก็บไว้เป็นที่ระลึกไว้อยู่เลย ^_^ส่วนเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาว ให้ดูตามสภาพอากาศของที่โน่น แต่อยากจะแนะนำให้ซื้อไปเพียงแค่เซ็ตเดียวก็พอ ไว้ค่อยไปซื้อที่โน่นจะดีกว่า เพราะเค้าจะผลิตขึ้นมากันหนาวได้ดีกว่าที่ซื้อจากเมืองไทย ใส่แล้วจะอุ่นและทนทานกว่าถ้าคุณเลือกไปเรียนมหาลัยที่เป็นเมืองหนาวมีหิมะ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ เสื้อยืดและกางเกงยืดที่รัดติดแนบลำตัว แขน และขา เพื่อเก็บรักษาความอบอุ่นให้ร่างกายโดยเฉพาะ เค้าเรียกว่า “Long John” หาซื้อได้เฉพาะที่โน่นเท่านั้นเมืองที่ฉันอยู่ มีทั้งหิมะและฝน เสื้อแจ็คเก็ตที่เค้าวางขายค่อนข้างดีนะคะ คือด้านนอกเป็นผ้าร่ม ส่วนด้านในเป็นผ้าสำลี ใส่ตัวเดียวอยู่เลยเสื้อที่จะใส่กันหนาว ฉันแนะนำให้ซื้อเป็นพวกเสื้อยืดที่มีผ้าสำลีอยู่ด้านใน จะอุ่นกว่า เคยลองใส่เสื้อหนัง นอกจากจะไม่อุ่นแล้ว ยังเย็นตามสภาพอากาศอีกส่วนรองเท้า ฉันขอแนะนำให้ซื้อแค่รองเท้าผ้าใบ, รองเท้าหนังสำหรับใส่งานที่เป็นทางการ และรองเท้าแตะ อย่างละ 1 คู่พอ แล้วไว้ค่อยไปซื้อเพิ่มที่โน่นเอา จะดีกว่า เพราะที่โน่น เค้าจะมีรองเท้าเฉพาะสำหรับใส่เดินหิมะและใส่กันหนาวได้ส่วนอุปกรณ์กันหนาวอื่นๆ เช่น ถุงมือ ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม ฯลฯ คุณสามารถเลือกซื้อตามงานส่งออกได้ แต่ซื้อแค่ 1 เซ็ตก็พอ แล้วค่อยไปซื้อเพิ่มที่โน่นเอาทางที่ดี คุณต้องเตรียมงบเผื่อไว้สำหรับซื้อเสื้อผ้า รองเท้า เสื้อกันหนาว อุปกรณ์กันหนาว ไว้ด้วยนะ- ยารักษาโรคประจำตัว ยาสามัญประจำบ้าน พลาสเตอร์ยา สำลี ฯลฯควรซื้อตุนไว้บ้างให้เพียงพอกับการอยู่สักสามเดือนก็พอ แล้วแยกเอาใส่ไว้ในกระเป๋าพกที่ไว้ขึ้นเครื่องให้เพียงพอสัก 1-2 วัน แล้วที่เหลือก็ให้ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้เครื่องบินและที่สำคัญยาทุกชนิดต้องมีฉลากยากำกับไว้ด้วย ห้ามเอาออกเด็ดขาด ไม่งั้นอาจมีปัญหาเวลาสแกนผ่านเครื่องเพื่อตรวจเช็คสัมภาระที่คุณพกติดตัวขึ้นเครื่องบินได้อย่างยาสามัญทั่วไป เช่น ยาแก้ลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย ฯลฯ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อไว้เยอะมาก แนะนำให้คุณซื้อเฉพาะยาที่คุณใช้บ่อยๆก็พอ ส่วนพวกสำลี ผ้าพันแผล แอลกอฮอล์ พลาสเตอร์ยา ก็ซื้อไปพอประมาณ ไม่ต้องเยอะมาก กะไว้สำหรับใช้แค่ไม่เกิน 1 เดือนพอ เพราะสุดท้าย เวลาที่คุณเจ็บป่วย ไม่สบาย คุณก็ต้องไปรักษาตามคลีนิกในมหาลัยอยู่ดี เพราะที่อเมริกา เค้าจะบังคับให้นักเรียนทุกคนทำประกันสุขภาพด้วยตอนนั้นฉันขนยาไปเป็นลังใหญ่ๆและเอาสำลีไปเป็นม้วนใหญ่เลย กะจะประหยัดเงิน สุดท้ายจนกลับก็ยังไม่ได้ใช้ ลำบากขนไป เปลืองพื้นที่ในกระเป๋าเดินทางมากๆเลย- ของใช้ระหว่างเดินทางอื่นๆ ที่อยากนำไปด้วย อาทิเช่น ผ้าอนามัยสำหรับผู้หญิง หรือพวกของกินขอแนะนำว่า ควรซื้อเป็นแบบแห้ง หรือบรรจุใส่ในแพคเกจอย่างดีที่มีภาษาอังกฤษได้ จะดีมาก และอาจใส่ในกระเป๋าเสื้อผ้าโหลดใต้เครื่องบินไปเลยแต่มีข้อแม้ว่า ต้องแพคอย่างดี ใส่ถุงพลาสติกหลายๆชั้น ไม่งั้นหกเลอะ จะงานเข้า เรื่องใหญ่แน่นอนแล้วผ้าอนามัยก็ไม่ต้องพกไปเยอะมาก กะไว้สำหรับใช้สักสามเดือน ก็พอ แล้วค่อยไปซื้อที่โน่นเพิ่ม แล้วแบ่งใส่ในกระเป๋าพกตอนขึ้นเครื่องด้วย เผื่อฉุกเฉินจะได้หยิบใช้ได้เลย 8. เรียนเพื่อเพิ่มทักษะด้านภาษาเพิ่มเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะการที่คุณจะไปถึงได้อเมริกาได้นั้น คุณจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษตลอดการเดินทางไม่ว่าจะต้องอ่านป้ายต่างๆ การฟังประกาศต่างๆของสายการบิน การพูดสื่อสารในระหว่างเดินทางดังนั้น คุณควรจะฝึกทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่านให้คล่องไว้เลยตั้งแต่เมืองไทย ก่อนการเดินทาง จะได้เอาตัวรอดได้9. ฉีดวัคซีนบางครั้งทางอเมริกาก็จะมีกฎให้คนที่จะเข้าประเทศต้องฉีดวัคซีนป้องกัน โรคต่างๆที่เค้าระบุเอาไว้ดังนั้นคุณควรตรวจสอบกับทางสถานทูตอเมริกาก่อน ว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคใดบ้างแล้วคุณก็ไปที่โรงพยาบาลเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคนั้นๆ ก่อนการเดินทางสัก 1-2 สัปดาห์แล้วอย่าลืมขอใบรับรองแพทย์เป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วยนะ เพื่อใช้เป็นเอกสารยืนยันไว้แสดง กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ต้องการขอดู10. แลกเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)คุณควรดูแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลล่าร์เอาไว้ และลองเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนของแต่ละธนาคารดู แล้วก็แลกเงินในช่วงที่อัตราค่าเงินดอลล่าร์ต่ำหน่อยนอกจากนั้น เดี๋ยวนี้คุณสามารถแลกเงินดอลลาร์ได้โดยใช้บัตรเครดิตของธนาคารต่างๆได้ เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกร ฯลฯ ซึ่งเมื่อคุณแลกแล้ว คุณยังได้คะแนนบัตรเครดิตเป็นของแถมด้วยแต่บางคนก็นิยมไปแลกเงินดอลลาร์กับร้านซุปเปอร์ริช http://www.superrich1965.com/ ก็ลองเปรียบเทียบราคาอัตราแลกเปลี่ยนดู บางครั้งราคาอาจจะถูกกว่าการแลกกับธนาคาร แต่ถ้ารวมเรื่องค่าน้ำมัน เวลาที่เสียไป ก็อาจพอๆกันก็ได้นะ ลองพิจารณาดูเนอะ11. เงินสำหรับใช้จ่าย- เงินสำรองในการเดินทางคุณต้องพกเป็นเงินสด โดยตอนแลกเงินก็ขอที่จุดแลกเงินว่า ขอให้มีแบงค์ย่อยเยอะหน่อย เพื่อใช้ซื้ออาหารหรืออะไรต่างๆในระหว่างเดินทาง แล้วก็ยังเผื่อไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่คุณต้องใช้เมื่อไปถึงอเมริกาแล้วแนะนำว่า ควรแบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วน แล้วพกเป็นเงินสดไว้ตอนเดินทางสัก 1 ส่วน ส่วนที่ 2-3 อาจแลกเป็นดร๊าฟ ไว้เข้าธนาคารหรือจ่ายค่าเทอม ส่วนที่ 4 เก็บไว้ในธนาคารที่เมืองไทย เอาเป็นเงินสำรองใช้ในยามจำเป็นหรือฉุกเฉินเท่านั้นและต้องฝากบัญชีไว้ให้คนที่เมืองไทยโอนเงินให้หรือใครอาจจะแบ่งให้ย่อยกว่านี้ก็ได้ แต่ให้คงแนวการแบ่งเงินคล้ายๆแบบนี้ไว้ เพื่อเป็นแผนสำรองหากเกิดอะไรที่ไม่คาดหวัง- เงินที่นำไปจ่ายค่าเทอมอาจต้องลองปรึกษามหาลัยและธนาคารดูว่า ควรทำอย่างไรบ้าง ซึ่งอาจแนะนำให้ออกเป็นดร๊าฟแล้วพกไปก็ได้ สมัยนั้น ฉันพกเช็คดร๊าฟติดตัวไปบัตรเครดิต ถ้าให้ดีควรทำไว้ตั้งแต่อยู่ที่เมืองไทย ประเภท Visa หรือ Mastercard ก็ได้ และควรเป็นบัตรที่พวกฝรั่งรู้จัก เช่น Citibank ฯลฯ เพราะการที่ไปอยู่ที่โน่น โอกาสที่คุณจะได้รับอนุมัติบัตรเครดิตนั้น ยากมาก หากคุณมีตั้งแต่ที่เมืองไทย ก็จะสะดวกมากและเนื่องด้วยรายละเอียดในการเตรียมพร้อมก่อนการเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกานั้น มีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างเยอะ จึงขอยกไปเล่าต่อในตอนหน้านะคะ เพราะเกรงจะทำให้บทความนี้ยาวเกินไปสู้ๆ นะคะ ^_^(โปรดติดตามอ่านตอนต่อไปค่ะ ^_^)ภาพประกอบโดยผู้เขียน