อยู่ให้รอด เรียนให้จบ ใช้ชีวิตเมืองนอกให้คุ้มเมื่อคุณเริ่มออกเดินทางไปที่อเมริกาแล้ว สิ่งแรกที่ฉันอยากให้คุณตั้งปณิธานไว้กับตัวเอง เสมือนคำสัญญาที่ให้ไว้กับตัวคุณเองอย่างหนักแน่นว่า “ไม่จบ ไม่กลับ” ดังเช่นที่ฉันเคยตั้งปณิธานไว้กับตัวฉันเอง เมื่อเริ่มขึ้นเครื่องบินซึ่งมันจะทำให้คุณไม่ถอดใจ ไม่ล้มเลิกกลางคัน แล้วจะทำให้คุณมีแรงฮึดสู้ ยามเมื่อคุณเจอกับอุปสรรคขวากหนามที่แม้มันจะใหญ่แค่ไหน คุณก็ยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อก้าวไปสู่ความฝันของคุณ แล้วยังคงทำมันต่อไปให้สำเร็จตามที่หวังเอาไว้การใช้ชีวิตที่โน่น มันค่อนข้างแตกต่างกับเมืองไทยอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากประเทศอเมริกาเป็นประเทศแห่งเสรีภาพ ฉะนั้นการแสดงออกของพวกเค้าค่อนข้างจะเสรีและตรงไปตรงมาและหลายครั้งที่คุณอาจต้องเผชิญกับการเหยียดสีผิวจากพวกฝรั่งผิวขาว พวกฝรั่งผิวขาวบางคนชอบที่จะเหยียดสีผิวคนผิวเข้มและคนเอเชีย อย่าได้ไปใส่ใจ มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่เป็นแก่นสารให้คุณต้องมาเสียกำลังใจ**จำไว้ โฟกัสอย่างเดียวคือ ทำอย่างไรให้คุณเรียนจบโทตามที่คุณตั้งใจไว้เป็นพอ เรื่องอื่นเป็นเรื่องรองทั้งหมด**การที่คุณจะอยู่ให้รอด เรียนให้จบ และใช้ชีวิตเมืองนอกให้คุ้มนั้น มันประกอบไปด้วยหลายๆเรื่อง ดังนี้สังคมและสภาพแวดล้อม - ควรเลือกคบใครและควรปฏิบัติตัวอย่างไร?หากเลือกได้ ฉันขอแนะนำให้คุณคบกับคนไทยให้น้อยคนที่สุด เพราะอะไรหรือ?คุณจำเป้าหมายที่คุณต้องการไปเรียนต่อได้มั้ย? คุณต้องการให้ได้ทักษะด้านภาษาอังกฤษกลับมา ดังนั้น การที่คุณคบคนไทยนั้น คุณก็จะพูดแต่ภาษาไทย และฟังแต่ภาษาไทย โอกาสที่คุณจะได้ฝึกภาษามีน้อยมาก ยกเว้น คุณจะตกลงกันเองว่า จะพูดแต่ภาษาอังกฤษ แต่สุดท้ายก็หลุดพูดภาษาไทยออกมาอยู่ดีมันจึงไม่ต่างอะไรกับการที่คุณอยู่เมืองไทย แค่เปลี่ยนสถานที่ไปเท่านั้นเอง และนี่คือเหตุผลหลักที่ว่า ทำไมหลายคนที่ได้ชื่อว่า เรียนจบอเมริกา แต่พอเรียนจบ กลับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ไม่ได้ทักษะภาษากลับไปเลย เพราะวันๆคลุกอยู่แต่คนไทยนั่นเองตอนอยู่ที่โน่น มีคนมากหน้าหลายตา ร้อยพ่อพันธุ์แม่ ต่างความคิดต่างที่มา พยายามเลือกคบแต่คนที่นิสัยดี ช่วยเหลือด้วยความเต็มใจนะคะคนที่ไปอเมริกาส่วนใหญ่นั้น ต้องดิ้นรนขวนขวาย บางคนก็เห็นแก่ตัว มันก็ไม่ต่างอะไรจากอยู่เมืองไทยเท่าไหร่นักหรอก เพียงแต่คุณอยู่ไกลบ้าน เวลามีปัญหา คุณต้องสู้อยู่คนเดียว เพราะฉะนั้น กันไว้ดีกว่าแก้ จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวทีหลังเลือกคบแต่คนดีๆ ไม่ต้องมีเพื่อนเยอะก็ได้ มีเพื่อนน้อยๆ แต่จริงใจดีกว่านะพยายามมีเพื่อนต่างชาติเข้าไว้ ชาติอะไรก็ได้ ถ้าหาไม่ได้ก็มีเพื่อนชาวเอเชียไปเลยค่ะ จะได้มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษเยอะๆ และได้มีโอกาสศึกษาวัฒนธรรมของพวกเค้าเหล่านั้นไปด้วยถ้าเป็นไปได้ อยากจะแนะนำให้คุณมีเพื่อนร่วมห้องหรือรูมเมทเป็นชาวต่างชาติค่ะ หากเลือกได้ แนะนำให้เป็นคนเอเชียด้วยกัน เพราะวัฒนธรรมการกินอยู่คล้ายๆกันหากเป็นคนอเมริกันนั้น คุณอาจได้ทักษะภาษาอังกฤษเร็วขึ้นมากก็จริง แต่บางทีก็เสี่ยงเรื่องความสะอาด เพราะคนอเมริกันบางคน ไม่ถอดรองเท้า ไม่ว่าจะขึ้นเตียงหรืออยู่ในบ้าน แถมเพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า เค้ามีรูมเมทเป็นฝรั่ง เลวร้ายมาก เพราะคุณเธอเวลาเข้าห้องน้ำแล้วไม่ยอมกดชักโครก มันน่าจับมาตีก้นซะให้เข็ดจริงๆ . . . ^_^ซื้อรถไว้ใช้สักคันหากพอจะมีเงินอยู่บ้าง ก็ควรทำเรื่องซื้อรถไว้ใช้สักคัน ที่โน่นค่าน้ำมันและราคารถ ก็ไม่ได้แพงเหมือนบ้านเราเท่าไหร่ หากเทียบเป็นเงินดอลล่าร์ ข้อดีของการมีรถ คือ จะทำให้คุณพึ่งตัวเองได้จริงๆ รบกวนคนอื่นน้อยที่สุด และมีอิสระมากขึ้นในการใช้ชีวิตที่โน่น อยากไปไหนก็ไปได้ อยากจะซื้ออะไรเมื่อไหร่ ก็ไม่ต้องขอร้องคนอื่น หรือรอให้คนอื่นว่างพาไปการตั้งเวลาเรื่องการตั้งเวลาที่แตกต่างกัน ที่อเมริกาจะไม่เหมือนบ้านเรา คือ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่จังหวัดไหน เวลาก็ยังเท่ากันทุกที่ ไม่ต้องตั้งเวลาใหม่ และเมื่อเปลี่ยนฤดูกาล บ้านเราก็ไม่ต้องปรับเวลาแต่ที่อเมริกา ถ้ามีการเปลี่ยนฤดูกาล เค้าจะประกาศให้ตั้งเวลาใหม่ขึ้นหรือลง 1 ชั่วโมง เนื่องจากดวงอาทิตย์ขึ้นหรือลง ไม่เท่ากันในแต่ละฤดูกาล เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญหากคุณไม่ตั้งเวลาให้ถูกต้องกับชาวบ้านเค้า เมื่อคุณไปเรียนหรือไปทำงาน คุณอาจต้องไปรอ 1 ชั่วโมงหรืออาจสายไป 1 ชั่วโมงก็ได้ ซึ่งจะมีผลต่อชีวิตคุณค่อนข้างมากเหมือนกันการใช้รถ-ใช้ถนนการข้ามถนนหรือการขับรถหรือเวลาเจอตำรวจ ที่โน่นการขับรถ เค้าจะใช้พวงมาลัยซ้าย และขับรถชิดซ้าย ไม่เหมือนบ้านเราที่ขับรถชิดขวาและใช้พวงมาลัยขวาดังนั้น สิ่งสำคัญคือ คุณต้องปรับสมองของคุณให้ชินกับการมองถนนก่อนข้าม นั่นคือ คุณควรจะมองไปทางซ้ายก่อนแล้วค่อยมองขวา หากไม่ทำเช่นนั้น อาจถูกรถชนได้ อันตรายมากๆส่วนการขับรถก็ต้องใช้หลักเดียวกัน และที่โน่นเค้าจะมีป้ายหยุดรถ (Stop Sign) เมื่อเห็นป้ายนี้ คุณต้องหยุดรถให้สนิทจริงๆ ซึ่งตำรวจที่โน่นเค้าจะเคร่งและมีวินัยมาก ไม่เหมือนบ้านเรานะ ผิดกฎจราจร เป็นโดนจับจริงๆและคุณควรขับรถไม่เกินความเร็วที่ป้ายเค้ากำหนด หากคุณขับเกินความเร็ว ตำรวจจะเปิดไฟหวอเพื่อให้คุณหยุดรถ หากคุณไม่หยุดรถ คราวนี้โดนโทษหนักแน่ๆและหากเจอตำรวจแล้วเค้าพูดว่า “freeze” หมายถึงให้หยุด คุณก็ต้องหยุดจริงๆ ไม่งั้นอาจโดนยิงได้นะเพราะเค้าอาจคิดว่าคุณเป็นผู้ร้ายเคยมีเพื่อนคนไทยเล่าให้ฟังเหมือนกันว่า มีคนเคยถูกตำรวจยิง เพราะไม่เข้าใจว่า ตำรวจพูดอะไร แล้วยังเดินต่อไป ไม่ยอมหยุดนิ่งอยู่กับที่ดังนั้น ขอให้คุณพยายามจำคำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวันให้ได้ จำให้ขึ้นใจเลยว่า แต่ละคำ ฝรั่งออกเสียงยังไง และแปลว่าอะไรแล้วชีวิตคุณในช่วงเริ่มต้นที่โน่น จะได้ง่ายขึ้น และคุณจะได้ไม่พบกับปัญหาในการสื่อสารกับฝรั่งด้วยและเนื่องด้วยรายละเอียดในการใช้ชีวิตเรียนต่อที่อเมริกานั้น มีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างเยอะค่ะ เตรียมเรื่องเล่าให้ฟังไว้เยอะเลย อยากเล่าให้ฟังยาวๆเหมือนกันค่ะ แต่เกรงจะเบื่ออ่านกันซะก่อน จึงขอยกไปเล่าต่อในตอนหน้าและตอนถัดๆไปแทนนะคะสู้ๆ นะคะ ^_^(โปรดติดตามอ่านตอนต่อไปค่ะ ^_^)ภาพประกอบโดยผู้เขียน