จังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจเป็นอย่างมาก ในเรื่องของการกราบไหว้สักการะ ตามวัดต่างๆและวัดพระธาตุมรุกขนคร ก็เป็นอีกวัดที่มีความงามและประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจไม่แพ้วัดอื่นๆในจังหวัดนครพนมเลย หากใครมีโอกาสไปเยือนจังหวัดนครพนมควรไปกราบสักการะพระธาตุประจำวันเกิดเพื่อเป็นสิริมงคล แก่ตนเอง ครอบครัว และคนใกล้ชิดอธิษฐานจิตให้ ดำรงชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท หมั่นทำความดีเพื่อสะสมเป็นพลังบุญไว้แก่ตนเองในภายภาคหน้า แน่นอนว่าฉันเป็นอีกหนึ่งคนที่ไปจังหวัดนครพนมแล้วไม่พลาดที่ไปกราบไหว้สักการะพระธาตุมรุกขนคร บริเวณวัดและตัวของพระธาตุนั้นมีจุดเด่นที่สวยงามทุกบริเวณในพื้นที่พระธาตุเป็นสีเหลืองทองงดงามมากๆฉันตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก รีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำทันที หลานฉันที่ไปด้วยก็ดูจะตืานเต้นเป็นพิเศษ วิ่งเข้าไปกราบไหว้ แทบไม่รอเลย นอกจากความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์แล้วประวัติความเป็นมาของพระธาตุมรุกขนครก็น่าสนใจไม่แพ้กัน พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ลักษณะคล้ายพระธาตุพนม แต่เล็กกว่าองค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังสี่เหลี่ยม สูง ๕๐.๙๐ เมตร ฐานกว้างด้านละ 20 เมตร พระธาตุสูง 50.9 เมตร มีความหมายว่า สร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี และจุด ๙ หมายถึงรัชกาลที่ ๙ พระธาตุมรุกขนครเป็นพระธาตุบริวารของพระธาตุพนมองค์ที่อายุน้อยที่สุด แต่วัดมรุกขนครที่ประดิษฐานพระธาตุองค์นี้ มีอายุเกือบสามร้อยปีมาแล้ว สร้างโดยพระบรมราชาเจ้าแอวก่านเจ้าเมืองมรุกขนคร วัดนี้เคยเป็นวัดประจำเมืองที่มีความเจริญมาก จนถึงปี พ.ศ. ๒๓๒๐ ตัวเมืองถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง เกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้ย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่บ้านหนองจันทน์ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม บริเวณนั้นปรากฏชื่อว่า “บ้านเมืองเก่า” มาจนถึงทุกวันนี้ ยังมีซากปรักหักพังของเมืองและวัดปรากฏอยู่ในบริเวณโรงเรียนดอนนางหงส์สงเคราะห์ ปัจจุบันได้รับการบูรณะและตั้งเป็นวัดโดยถูกต้องสมบูรณ์ พอยิ่งฟังประวัติของวัดมรุกขนครแล้ว ก็ยิ่งทำให้ศรัทธามากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ในบริเวณวัดก็มีร้านอาหารแล้วเครื่องดื่มคอยให้บริการ ราคาก็ไม่แพงอีกด้วย ส่วนในเรื่องของการเข้าชม ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆค่ะ สิ่งของบูชาพระธาตุ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกบัว ธูป 17 ดอก เทียน 2 เล่ม การเดินทางมาตามทางหลวงหมายเลข 212 เป็นถนนสายเลียบแม่น้ำโขงที่ผ่านหลายอำเภอในจังหวัดนครพนม จากพระธาตุพนม มีทางแยกเข้าพระธาตุเรณู จากนั้นก็มาพระธาตุมรุกขนคร ต่อจากนั้นยังไปถึงพระธาตุท่าอุเทนได้อีกด้วย เมื่อเข้ามาในวัดจะเห็นอุโบสถอยู่ตรงหน้าทางเข้าวัด มีทางข้างโบสถ์ไปถึงสระน้ำ ขับมาถึงด้านหลังของโบสถก็จะเห็นพระธาตุมรุกขนคร ในกำแพงแก้วล้อมรอบ มีซุ้มประตู 4 ทิศ ที่สร้างอย่างสวยงาม เวลาทำการ จันทร์ - อาทิตย์ 06:00-00:00 น. ภาพโดยผู้เขียน