ถ้าจะพูดถึงจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งที่มีที่ท่องเที่ยวครบอรรถรสครบครัน ทั้งภูเขา ทะเล ลำธาร น้ำตก โรงแรม เวียงวัง ร้านอาหาร อาหารทะเลมากมาย คือไปจังหวัดเดียว เที่ยวได้ครบทุกอรรถรส เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศในเรื่องอัญมณี และเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เราจะไปทุบหม้อข้าวกัน เฮ้ย เราจะไปเที่ยวกัน จังหวัดนั้นก็คือ จันทบุรี หรือ จันทบูรเดิมนั่นเอง จุดหมายปลายทางที่จะแนะนำในวันนี้ของผู้เขียน เราจะไปกางเต็นท์ฟังเสียงน้ำที่ “น้ำตกพลิ้ว” ก่อนที่จะไปถึงจุดหมายปลายทาง เราก็ต้องแวะตลาดสดเตรียมเสบียง จะได้ใม่ขาดไม่อย่างนั้นเนวิเกเตอร์ที่นั่งอยู่ทางซ้ายของคนขับเขาจะไม่ปลื้มเอาได้ ผู้เขียนจัดเต็มทั้งอาหารทะเลและสันคอหมูย่าง เป็นเมนูโปรดที่จะทำให้ผู้ร่วมทางของผู้เขียนเป็นปลื้มยิ่งนัก หลังจากได้เสบียงอาหารเครื่องดื่มครบครันแล้ว ผู้เขียนตรงไปที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ไปถึงก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ แจ้งความประสงค์ขออนุญาตกางเต็นท์ที่อุทยาน ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นเอง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ พร้อมแผ่นพับให้ 1 ใบ เสร็จภาระกิจเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่ ผู้เขียนตรงไปที่ลานกางเต๊นท์ สถานที่ผู้เขียนเลือกกางเต๊นท์ คือ หน้าป้ายที่บ่งบอกสถานที่นี้ว่าคือที่ใด ซึ่งรถยนต์ไม่สามารถเขาไปถึงได้ เราต้องแบกสัมภาระขึ้นไปที่จุดกางเต๊นท์เอง เเต่โชคดีหน่อยทางอุทยานมีรถเข็นไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว มันก็เหมาะเจาะกับผู้เขียนที่เป็นสายขนพะรุงพะรังอยู่เเล้ว กว่าผู้เขียนจะกางเต๊นท์ขนของเสร็จ ปาเข้าไปจะ 5 โมง ผู้เขียนรีบจุดเตาถ่านที่พกมาด้วยพร้อมติดตั้งหลอดไฟใช้แบตเตอรี่รถยนต์ขนาด 45 แอมป์ เพื่อต่อพัดลมตัวเล็กด้วย ผู้เขียนเป็นคนติดพัดลมกับหัวต้องหนุนหมอนข้างมากสองสิ่งนี้เลยจะขาดไม่ได้เลยเวลานอน ใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะตกพอดี ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของอุณหภูมิสีของท้องฟ้า พร้อมกับลั่นชัตเตอร์กล้อง ไปด้วย สุดฟินไปกับบรรยายกาศยามเย็น พลบค่ำมีเสียงจั๊กจั่นเรไรดังอยู่เป็นระยะๆ พอฟ้ามืดสนิทเเล้วเราสามารถเห็นดาวเดือนที่อยู่บนท้องฟ้าชัดเจนมากขึ้น ถ้าใครอยากจะมาลองลิ้มรสบรรยากาศ อุทยานมีเต๊นท์บริการวิวดี ไม่แพ้มุมที่ผมนอนเลย ส่วนคืนนี้ผมของร่ำลาท่านผู้อ่าน แล้วพรุ่งนี้เจอกัน ก่อนอรุณรุ่งพุ่งสางผมได้ยินเสียงน้ำค้างกระทบใบไม้พร้อมเสียงนกลั้ลลั้าเพลินลม คอยพัดโบกโชยมาเป็นระยะ ๆ ให้ผมรู้สึกตัว ก่อนจะรูดซิบเต๊นท์โยนไซค์กระทัดรัดมาพบกับแสงแรงของวันใหม่ อากาศช่างสดชื่นเพลินจนหลงลืมกรุงไปชั่วขณะ ลุกมาต้มน้ำชงชาเตรียมกาแฟร้อนที่ดื่มรับรสก่อนที่จะล้างหน้าแปรงฟัน ทำอาหารเช้าง่าย ๆ ด้วยขนมปัง ทาแยม พร้อมไข่ดาวและนมอุ่น ก่อนที่จะแต่งตัวพร้อมลุยกับการเดินท่องเที่ยวอุทยาน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผมเดินไปพีระมิดก่อนเพื่อสักการะสถูปบรรจุพระอังคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ในฐานะสถานที่ผมเคยศึกษา เป็นวังของพระนางเจ้าฯ มาก่อน ด้วยพีระมิดแห่งนี้สร้างมาด้วยตำนานความรักที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงมีให้แก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ด้วยแล้วทำผมรู้ปิติเป็นอย่างมาก ที่ได้มาที่เป็นประวัติศาสตร์เช่นนี้ ปลาพลวง ที่อยู่บรเวณน้ำตก ก็ถือเป็นจุดเด่น จุดสำคัญที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติอย่างใกล้ชิด บางแห่งยกให้ปลาพลวงเป็น เสือโคร่งของสายน้ำเลยทีเดียว เราสามารถเห็นปลาชนิดอิ่นด้วยอาศัยบริเวณน้ำตก สามารถเดินลงน้ำไปถ่ายรูปเซลฟี่กับปลาได้ใกล้ ๆ เลย สิ่งผมตื่นตาอีกอย่างคือความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่ร่มเย็นมีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย เดินชมเพลินตาเลยเชียว น้ำตกพลิ้ว ถือเป็น 1 ในน้ำตกที่ควรค่าที่จะมาสัมผัสบรรยากาศบริสุทธิ์ โปรดเก็บชื่อน้ำตกพลิ้วไว้พิจารณาเป็นโปรแกรมของทริปต่อไปด้วยนะครับท่านผู้อ่าน