พลูคาวหรือผักคาวตอง เป็นพันธุ์ไม้ที่รู้จักกันดีของทางภาคเหนือของไทย เป็นพืชตระกูลเดียวกับพลู โดยใบพลูคาวมีลักษณะแตกต่างจากพลู คือ ที่ใต้ใบของพลูคาวจะมีสีแดงอ่อนไปจนถึงสีแดงเข้ม โดยนิยมทานเป็นผักเคียงคู่กับลาบ ก้อย พลูคาวเป็นพืชล้มลุกเป็นผักที่มีลำต้นใต้ดิน เป็นพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ พบตามลำห้วย ลำธาร และพื้นที่ชื้น สามารถนำมาปลูกลงแปลงหรือในกระถางได้ เหมือนปลูกผักทั่วไป พลูคาวหรือผักคาวตองจัดอยู่ในประเภทผักที่มีรสเผ็ดร้อน จึงนิยมปลูกไว้เป็นผักสดกินเป็นกับแกล้ม พลูคาวหรือผักคาวตองมีชื่อเรียกที่หลากหลายแตกต่างกันออกไปตามภูมิภาค เช่น จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดมุกดาหาร เรียกว่า คาวทอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียกว่า ผักก้านตอง จังหวัดแถบภาคอีสาน เรียกว่า ผักคาวตอง ส่วนทางภาคกลางมักจะนิยมเรียกว่า พลูคาว ภาพโดย : https://pixabay.com/ หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของพลูคาวในการรักษาโรค แล้วพลูคาวมีดีอย่างไร ปัจจุบันประชาชนให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพของตนเองโดยวิธีธรรมชาติมากขึ้นทำให้ความนิยมในการใช้สมุนไพรเพื่อสุขภาพมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความต้องการการใช้สมุนไพรอย่างแพร่หลาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศจึงมีความต้องการในตลาดสูง พลูคาวเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากให้หมู่ประชาชนภาคเหนือและภาคอีสาน โดยมีการพัฒนาสมุนไพรไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจ มีการนำส่วนต่าง ๆ ของพลูคาวมาสกัดเป็นยาในการรักษาโรคอีกด้วย สำหรับสรรพคุณในต้ารับยาไทยของ พลูคาว นั้น ส่วนต้น ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อและทางเดินหายใจ ฝีหนองในปอด ปอดบวม ปอดอักเสบ ลดอาการบวมน้ำ ขับระดูขาว ริดสีดวงทวาร แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ส่วนราก ใช้เป็นนยาขับปัสสาวะและแก้ริดสีดวงทวาร ส่วนใบ ใช้ปรุงเป็นนยา แก้กามโรค ทำให้แผลแห้งเร็ว แก้โรคข้อและแก้โรคผิวหนังทุกชนิด พลูคาวทั้งต้นมีรสเย็นและฉุน ผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมนำมาดูแลสุขภาพเพื่อให้สมุนไพรซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง ภาพโดย : https://www.freepik.com/ ในปัจจุบันได้มีการนำพลูคาวมาสกัดเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม เราควรมีวิจารณญาณในหารเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ควรมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ และที่สำคัญหัวเราะดังๆเพื่อความสุขของตนเองและคนรอบข้าง