เรียกว่าเรื่องราวร้อนระอุของข่าวคราวในการเตรียมลงนาม CPTPP ของรัฐบาลนั้นได้ทำให้วงการ Facebook และ Twiter ต่างพากันลุกเป็นไฟเลยทีเดียวค่ะ หลาย ๆ คนก็มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย อีกทั้งต่างก็ได้หยิบยกประเด็น และเหตุผลสำคัญ ๆ มาอธิบายกันต่าง ๆ นานา จนได้เกิดแฮชแท๊ก #CPTPP เกิดขึ้นในทวิตเตอร์ ที่ได้มีการดีเบตเรื่องราวเหล่านี้กันอย่างดุเดือดเลยทีเดียวค่ะCPTPP ย่อมาจาก Comprehensive and Progressive Trans-pacific Partnership ซึ่งหมายถึง ข้อตกลงความเข้าใจและความคืบหน้าเพื่อหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก เป็นการตกลงทางด้านการค้าในรูปแบบเสรี ที่มีมาตรการ รวมทั้งกฏระเบียบที่ต้องใช้ร่วมกันของประเทศสมาชิก ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีประเทศที่อยู่ในกลุ่มนี้ทั้งหมด 11 ประเทศด้วยกัน นั้นคือ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เปรู มาเลเซีย เวียดนาม แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เม็กซิโก ชิลี และบรูไน นั้นเองค่ะในด้านของเรื่องราวที่ดีที่ไทยจะได้รับหากเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP ที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องราวของการส่งออก ที่ไทยจะได้มีพันธมิตรคู่ค้าเพิ่มเข้ามามากขึ้น ซึ่งนั้นย่อมส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้า และจะช่วยทำให้ค่า GDP ของไทยเพิ่มสูงมากขึ้น รวมทั้งในเรื่องราวของการปรับปรุงกฏระเบียบต่าง ๆ ภายในประเทศตามเงื่อนไขของการเข้าร่วม CPTPP นั้น จากการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นในเรื่องการเปลี่ยนกฏเกณฑ์ตาม CPTPP ก็ทำให้ทราบว่านี้อาจจะช่วยทำให้ไทยได้พัฒนาความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ดีมากขึ้นอีกด้วยแน่นอนว่าในเรื่องราวดี ๆ ก็ย่อมมักจะมีผลเสียที่ตามมาอย่างแน่นอน อย่างเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนแรงของการมีคู่แข่งทางด้านธุรกิจทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้น จากที่แต่เดิมนั้นไทยได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเกษตรกรรมชั้นดี รวมทั้งยังไม่ต้องมีต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นจากการซื้อพันธ์พืชอีกด้วย แต่ก็ต้องมาแบกรับกับปัญหาในเรื่องนี้ เนื่องมาจากกฏเกณฑ์ส่วนหนึ่งของข้อตกลง CPTPP นั้นได้กำหนดเอาไว้ในอนุสัญญาการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ หรือ UPOV ที่ให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาเกี่ยวข้องกับการวิจัยพันธ์พืช และยังสามารถจดสิทธิบัตรได้อีกด้วย อีกทั้งในด้านของธุรกิจภาคการบริการที่ได้มีการอนุญาติให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในด้านนี้ได้อย่างเสรี ซึ่งนี้อาจจะส่งผลให้กิจการหลาย ๆ แห่งอาจจะถูกกว้านซื้อจากชาวต่างชาติก็เป็นได้แน่นอนว่าถ้าหากวิเคราะห์ในมุมมองของการเป็นประชากรภายในประเทศแล้วนั้น ก็ขอบอกเลยว่าเห็นทีผลเสียจะมีอิทธิพลที่มากกว่าผลดี กับประชาชนคนไทยธรรมดาอย่างเรา ๆ ที่บอกเลยว่ามีสิทธิ์ที่จะได้รับผลกระทบอย่างเต็ม ๆ โดยเฉพาะ เกษตรกรที่ต้องมีการลงทุนในการทำเกษตรกรรมที่เพิ่มมากขึ้น จากที่แต่เดิมนั้นก็ได้มีการใช้ชีวิตความเป็นอยู่มาในรูปแบบพอเพียง ซึ่งแน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการทำเกษตรกรรมนั้น ย่อมส่งผลต่อรายได้ที่ลดลงต่อครัวเรือนของเกษตรกรตามมาอย่างแน่นอน และถึงแม้ว่าจะมีข้อดีของปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น จากการมีพันธิมิตรคู่ค้าที่เพิ่มมากขึ้นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าประชาชนในประเทศจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างเท่าเทียมกัน เรียกว่าเป็นประเด็นร้อนที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็ต้องมีการกล่าวถึงกันอย่างมากมาย ในเชิงของผลประโยชน์ได้-เสีย ถ้าหากเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP ในครั้งนี้ และจากกระแสข่าวที่เห็นอย่างได้ชัดเจนนั้น ก็จะเห็นได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ รวมทั้งภาคเกษตรกรรม และสาธารณสุข ก็ได้แสดงความคิดเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยอีกด้วยนะคะ เรียกว่าสถานการณ์ของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ก็คงต้องมาลุ้นกันต่อไปแล้วล่ะค่ะขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/รูปภาพหน้าปก : แหล่งทีมา , รูปที่ 1 : แหล่งที่มา, รูปที่ 2 : แหล่งที่มา, รูปที่ 3 : แหล่งที่มา