ไลฟ์แฮ็ก
พาลูกออกจาก "Comfort Zone" สร้างทักษะชีวิต
เราทุกคนเคยลองผิดลองถูกกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจนเริ่มมาถึงจุดหนึ่งที่รู้ว่าสิ่งใดดีหรือสิ่งใดที่เราควรออกห่าง โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ผู้ที่ทำหน้าที่รับผิดชอบและต้องดูแลชีวิตน้อย ๆ ด้วยแล้วละก็ คงทำใจไม่ได้อย่างมากเลยถ้าจะได้เห็นลูกน้อยต้องร้องไห้เสียใจจากการทำผิด ทำพลาด หรือพลั้งเผลอทำอะไรลงไปจนอาจจะต้องเจ็บตัวหรือรู้สึกแย่ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านก็พร้อมที่จะป้องกันและปกป้องอย่างดีที่สุดแน่นอน
แต่ในบทความนี้เราอยากให้คุณพ่อคุณแม่ปล่อยลูกให้ออกจาก Comfort Zone มากขึ้น ซึ่งคำว่าปล่อยที่เราหมายถึงคือ ปล่อยให้เขาได้เผชิญโลกและก้าวออกจากอะไรเดิม ๆ ที่คุ้นเคยบ้าง ไม่ได้หมายถึงปล่อยปละละเลยลูกจะทำอะไรก็ทำ เป็นอะไรก็เป็น เล่นอะไรก็เล่น ไม่ใช่แบบนี้นะคะ
ภาพถ่ายโดย Kaboompics .com จาก Pexels
Advertisement
Advertisement
เราคิดว่าหากลูกของคุณอยู่ในช่วงวัยที่เติบโตมากพอจะดูแลตัวเองได้แล้ว ก็ลองปล่อยให้เขาได้เห็นและรับรู้โลกของความจริงในอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ได้มีพ่อแม่คอยดูแลปกป้องเสมอบ้าง
โดยบทความนี้เราจะมาแนะนำ
4 วิธีง่าย ๆ ที่จะพาลูกของคุณออกจาก Comfort Zone กันค่ะ (และคุณจะได้รู้ว่าลูกคุณเก่งแค่ไหน)
1. พาลูกออกไปเจอโลกกว้าง
การอยู่แต่ที่เดิม ๆ ทุกวันอาจจะทำให้ลูกของคุณได้พบปะพูดคุยและเจอแต่สังคมเดิม ๆ นะคะ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลองพาลูกออกไปเที่ยวข้างนอก พาไปในสถานที่ที่ไม่เคยไป หรือพาเขาท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติต่าง ๆ อาจจะให้เขาได้เห็นสัตว์แปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อเป็นการเปิดหูเปิดตาและเปิดโลกกว้างให้ลูกได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ บ้างนั่นเองค่ะ
2. ทำกิจกรรมพิเศษ
การที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปเรียนกีฬา หรือเข้าค่ายและทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เขาสนใจ ซึ่งมีหลาย ๆ โรงเรียนและหลาย ๆ สถานที่จัดขึ้น ก็เป็นอีกวิธีที่ดีที่จะทำให้เขาได้ฝึกทักษะการเข้าสังคม และจะได้เจอกับเพื่อนใหม่ ๆ นะคะ ที่สำคัญการพาเขาออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ นี้ก็ยังเป็นอีกตัวช่วยที่สอนให้เขารู้จักช่วยเหลือตนเองและฝึกการคิดแก้ปัญหาด้วยค่ะ ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้ลูก ๆ ของคุณออกจาก Comfort Zoneได้ดีมากเลยทีเดียว
Advertisement
Advertisement
3. ให้เขาทำอะไรด้วยตนเอง
เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นคุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้เขาได้ลองทำอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเอง หากลูกพ้นช่วงวัยเด็กแรกเกิดมาสัก 1-2 ปี และเริ่มเข้าใจคำสั่งบ้างแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้เขาฝึกทานข้าวเอง ฝึกให้เขาช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นให้เขาช่วยหยิบนี่ให้แม่หน่อย ช่วยแม่เก็บของเล่นหน่อย เป็นต้นค่ะ
แต่ถ้าหากลูกเริ่มโตขึ้นมากแล้วและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดี คุณพ่อคุณแม่อาจจะฝึกให้เขาซื้อของและจ่ายเงินด้วยตัวเอง ฝึกให้เขาลองถามสิ่งที่อยากรู้ด้วยตัวเอง หรือฝึกให้เขารับผิดชอบงานง่าย ๆ ในบ้าน เป็นต้นค่ะ
การที่คุณพ่อคุณแม่ฝึกลูกให้ทำในสิ่งแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยและไม่กล้าทำจะช่วยปลดล็อคความรู้สึกกลัวต่าง ๆ ในใจเขาได้ค่ะ หากเขายังทำไม่ได้หรือยังกลัวอยู่ในช่วงแรก ๆ ก็ไม่เป็นไรนะคะคุณพ่อคุณแม่ควรเป็นกำลังใจให้เขา แต่ถ้าหากเขากล้าและทำได้เมื่อไหร่ก็อย่าลืมชมเชยเขานะคะ เขาจะได้มั่นใจในตัวเองและกล้าทำสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น
Advertisement
Advertisement
ภาพถ่ายโดย Michael Morse จาก Pexels
4. ปล่อยลูกเล่นบ้าง
เราเคยเห็นคุณพ่อคุณแม่บางท่านไม่เปิดโอกาสให้ลูกเล่นอะไรกับเพื่อนเลย เพราะกลัวล้มบ้าง กลัวเลอะบ้าง เราว่าปล่อยให้เขาได้เล่นตามวัยของเขากับเพื่อน ๆ บ้างก็ไม่เสียหายเท่าไหร่นะคะ คุณพ่อคุณแม่แค่เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ คอยระวังให้อยู่ก็น่าจะไม่มีอะไรต้องห่วงมากเนอะ
สุดท้ายแล้วกว่าเด็กคนนึงจะโตเป็นผู้ใหญ่เราว่าเขาคงต้องล้ม คงต้องเจ็บ คงต้องเรียนรู้อีกมากค่ะ แต่เขาจะผ่านมันไปได้เพราะมีคุณพ่อคุณแม่ที่คอยสนับสนุนและเป็นพลังดี ๆ ให้เขานะคะ
และคุณจะได้เห็นว่าลูกของคุณเก่งกว่าที่คุณคิดไว้มาก
ขอโทษจากใจจริงนะคะหากเกิดข้อผิดพลาดใดในบทความ เราจะพยายามแก้ไขและปรับปรุงงานเขียนให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
ความคิดเห็น