สถานที่มีที่เบาะสีแดง เรียงรายเป็นแถว ๆ ไป มีจอใหญ่ยักชัดระดับ 4K อยู่ต่อหน้า ผู้คนที่เข้ามาก็ต่างถือแก้วน้ำและถังป๊อปคอร์น ช่วงเวลา 2 ชั่วโมงนิด ๆ กับการนั่งเงียบ ๆ มองดูภาพบนจอ แล้วรู้สึกไปกับมัน หัวเราะ ร้องให้ ซาบซึ้ง มีความสุขช่างน่าแปลกที่พวกเราต่างชมชื่นที่จะเข้าร่วมมหรสพแห่งนี้ประสบการณ์เช่นนี้สำหรับคอสายหนังทุกท่านคงเคยคิดฝันว่าอยากจะไปตะลุยโรงหนังเมืองนอก เมืองนาบ้าง อยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการดูหนังในโรงภาพยนตร์ (โดยเฉพาะสถานการณ์โควิดเยี่ยงนี้ ที่ทำให้ศรัทธาเราต่อโรงหนังเริ่มสั่นคลอน และคิดถึงวันวานที่มีต่อโรงภาพยนตร์) ในเรื่องหนังสือนั้นนวพล ได้ทำการส่งประกวดหนังสั้นไปยังเทศกาลเบอร์ลิน โดยไม่ได้คิดอะไรการใหญ่ แต่บังเอิญเหลือหลายที่โชคชะตานำพาให้เขาได้บินข้ามทวีปไปร่วมเทศกาลภาพยนตร์สั้นที่เขาทำการส่งประกวดไป แต่ก็ต้องออกเงินเดินทางเองครึ่งนึง แต่ยังไงก็ถูกอะ ได้ไปถึงเมืองเบอร์ลิน แถมยังถูกเชิญในฐานะ คนทำหนังสั้นไป Q&A กับคนดู ก็เป็นประสบการณ์ที่คนทำหนังหน้าใหม่ใฝ่ฝันเช่นในวันนี้ข้าพเจ้าเองขอพาทุกท่านไปผจญกับหนังสือนามว่า "ที่โรงภาพยนตร์ไกลบ้านคุณ" เขียนโดย นวพล ผู้กำกับชื่อดังที่พึ่งมีผลงานเรียงน้ำตา จุกเสียดแน่นอนอกไปหมาด ๆ รวมทั้งได้ฉายลง Netflix เมื่อไม่นานมานี้เรื่อง "ฮาวทูทิ้ง"เป็นหนังสือคนเนิร์ดหนัง"ที่โรงภาพยนตร์ไกลบ้านคุณ" อาจไม่ใช่หนังสือพาทัวร์ทุกซอกของเบอร์ลินพร้อมแฝงปรัชญาและชีวิตลงไปแบบหนังทัวร์ทั่ว ๆ ไป แต่หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือการเดินทางฉบับ "เนิร์ดหนัง" ลองคิดดูว่าหนังที่โปรดปราณของเราในวัยเด็ก หรือวัยไหนก็แล้วแต่ คุณได้มีโอกาสเดินทางมายังโลเคชั่น หรือสถานที่ถ่ายทำของหนังเรื่องนั้น ๆ มันจะรู้สึกดีปาณใด หากในมือมีกล้อง ก็ลองจินตนาเล่น ๆ ละกันว่า จะถ่ายไม่ยั้งแค่ไหนแต่โชคร้ายสำหรับนวพล ผู้ที่ได้มีโอกาสไปถึงสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Run lola run อันโปรดปราณของตน แต่ดูเหมือนยุคสมัยนั้นมัน เทคโนโลยียังไม่อ่อนข้อให้กับความสุขของเราเท่าใดนัก เพราะในมือของนวพลกล้องมีเพียงความจุเพียง 2 Gb เท่านั้น (ยุคนั้นสุดก็เท่านี้แหละ มากกว่านี้ก็แพงหูฉีก) แต่ก็ไม่วายวอด ชีวิตหนอยังต้องมาพบว่า เมมที่เอาไปด้วย "มันพัง!" ทำให้ในมือของเขามีเพียงแค่กล้องฟิมล์กับม้วนอีกไม่กี่กลักเท่านั้นเองและนอกจากหนังสือจะพาเราไปยังโลเคชั่นหนังที่เราชื่นชอบ เขายังพาเราไปดูภายในเทศกาลหนัง ความฝันสำหรับคนดูและคนทำ ที่ครั้งหนึ่งก็อยากไปเหยียบที่นั้นสักครั้งแหละนะ สำหรับคนดูถ้าได้ไปสักครั้งก็อยากจะลองเสี่ยงชีวิตด้วยการดูหนังวันละ 4-5 เรื่อง เอาให้คุ้มค่าตั๋ว ค่าที่พัก ค่าที่มานี้แบบคุ้มเกินคุ้มจนไม่รู้เสียดายเงินที่เสียไปเลย แต่เราก็ได้ย้อนมาถามตัวเองว่า มันต้องขนาดนั้นเชียวหรือ หากเราได้ไปถึงเบอร์ลิน อะไรมันจะคุ้มกว่ากันละหว่าง วันนี้ฉันดูหนังนอกกระแสที่หาดูที่อื่นไม่ได้แล้วนะ ไปวันละ 5 เรื่อง กับวันนี้ฉันไม่ได้ดูเลยถึงแม้จะมาร่วมเทศกาล แต่ฉันไปเดินในเมืองเที่ยวถ่ายรูปแทน สำหรับคนทำนับว่าเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเชิญผลงานของตนมาลงฉายร่วมกับผู้กำกับระดับตำนานและหน้าใหม่คนอื่น ๆ เพราะนอกจากจะได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่แล้ว เรายังได้มิตรภาพกับเชฟร้านอาหารต่าง ๆ ที่เราก็ไม่รู้เลยว่าวันนี้จะกินอะไรดี เดินดุ่ม ๆ มั่ว ๆ เห็นร้านไหนเปิดก็เข้าไปสั่งนั่งกิน วันดีคืนดีเราได้เจอเชฟใจดี เราก็ได้แลกเปลี่ยนทัศนะ ความคิด มุมมองของชันชั้นกระฎุมพีไปอีก และก็ได้รู้จักสหายที่หาได้จากร่วมรูมเมทห้องที่เทศกาลจัดที่พักไว้ให้ ได้พิสูจน์ความแกร่งของภาษาตัวเองด้วยการ Q&A ตอบคำถามแก่คนที่มาดูหนังของเรา แต่ไม่ว่าจะมาด้วยฐานะอะไร จะคนดู หรือ คนทำ มันไม่มีเสียอะไรนอกจากเงินหรอก หากมองข้ามเงินที่เสียไป ไม่ว่าเราจะมาด้วยฐานะอะไร และจะใช้วิถีชีวิตแบบใด มันก็มีแต่คุ้มกับคุ้มแน่นอน กล่าวได้ว่า นี่เป็นหนังสือเที่ยวสำหรับคนดูหนัง และ(อยาก)เป็นคนทำหนัง ที่ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยือนเอง แต่ก็ผจญมันไปกับตัวหนังสือของนาย นวพล ผู้ซึ่งมีรสนิยมการดูหนังนอกกระแสเช่นเดียวกับเรา ๆ ที่หยิบเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เป็นหนังสือคนอยากเที่ยวแบบไม่รู้ "-่า" ไรเลยโอเค ถ้าไม่เนิร์ดหนัง จะอ่านเล่มนี้ได้หรือไม่ อ่านได้แหละ แต่จะไม่อินความรู้ของนายนวพลนัก เราอาจจะมึนงงว่า กะอีแค่ห้างสรรพสินค้าที่บังเอิญเดินไปเจอ ต้องถ่ายรูปเก็บทุกซอกทุกมุมเชียวหรือ แต่นั้นน่ะ มันไม่ใช่ห้างทั่วไปไง มันเป็นห้างที่เป็นโลเคชั่นให้หนัง มันจึงพิเศษยิ่งกว่าใด ๆ (แต่ก็แน่นอนว่าชาวบ้านผ่านมาเจอก็คงจะงงว่า อะไรของแกวะ)มันจึงเป็นเสมือนหนังสือของคนที่อยากเที่ยวนะ แต่ไม่รู้อะไรเลย แต่พวกลุย ๆ ชอบแบกเป้เดินเที่ยว ไปตายเอาดาบหน้า เพราะการกระทำเยี่ยงนี้ เป็นความสนุกชนิดหนึ่งให้แก่ชีวิต หลงทางบ้างบางครั้งจะเป็นอะไร ไปช้าบ้างบางครั้งจะแย่นักหรือ สิ่งที่ได้รับจากการหลงทางในเมืองที่เราไม่รู้จักแรก ๆ มันน่ากลัว หรือบ่อยแล้วก็ยังน่ากลัวอยู่ดีแหละ แต่เราจะได้เห็นมุมของเมืองนั้น ๆ แบบที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อน สถานที่ที่พิเศษ สะดุดตาเรากว่าใครเพื่อน และเป็นสถานที่ไม่มีไกด์บุ๊กคนใดพามาสักคนเดียว เป็นสถานที่สำหรับเราคนเดียวที่ได้รับจากการหลงทาง หรือมิตรภาพข้างถนนที่ได้รับจากการถามทางไปเรื่อยเองก็ไม่ต่าง อาจไม่ได้บอกว่า "ไปหลงทางซะพวกแกทั้งหลาย" เพียงแต่นี้คือหนังสือเปิดมุมมองการท่องเที่ยวในอีกรูปแบบ ฉบับคนชอบดูหนัง แต่ไม่รู้ -่า ไรเลยเกี่ยวกับเมืองที่ตนอยู่เราจะได้ความต่างวัฒนธรรมชัดถนัดตายิ่งขึ้น เมื่อเราละทิ้งความเร็วด่วนของคนเมือง ละจุดหมายปลายทางไปชั่วคราวแล้วเดินชมสิ่งมหาศจรรย์ตรงหน้าก็ชีวิต จะสายเกินไปและเมื่อกลับบ้านเราจะคุยได้เต็มปากกับครอบครัว และเพื่อน ๆ ว่า ตอนนั้นฉันไปหลงทางมาแหละและนอกจากนี้สิ่งที่นวพลได้รับจากการเดินทางครั้ง คือรสชาติอาหาร เพราะเบอร์ลิน มองไปทางไหนก็เจอแต่ "กะบับไก่" จนเอียนอะบอกเลยติดตามข้าพเจ้าเองได้ที่ยูทูป Funfrom production และได้ที่ Blockditภาพโดย : ข้าพเจ้าเอง