เช้าวันรุ่งขึ้นประมาณ 7 โมงเช้าแวะทานอาหารเช้ารองท้องก่อนออกเดินทางกันสักหน่อย เดินออกจากตัวโรงแรมนิดเดียวก็ถึงร้าน Yong Pin Dim Sum Restaurant 榕槟茶楼 ซึ่งเป็นร้านอาหารติ่มซำที่ขึ้นชื่อของย่านถนน Kimberly เลยก็ว่าได้ เพราะมีติ่มซำให้เลือกหลากหลาย รสชาติดีเยี่ยม แถมเจ้าของร้านเป็นคุณป้าที่เปิดร้านมายาวนานกว่า 33 ปีใครมาที่นี่ห้ามพลาดเลย และที่นี่จะมีธรรมเนียมคือถ้าเข้าไปนั่งในร้านอาหารทุกร้านทุกที่จะมีบริการสั่งน้ำดื่มตลอดไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ โกโก้ ราคาติ่มซำจะอยู่ที่ 2.20 RM - 5.00 RM ซึ่งไม่แพงเลยถ้าเทียบกับบ้านเรา อย่างเข่งขนมจีบมี 3 ลูกไม่ถึง 20 บาท ร้านเปิดทุกวันช่วงเช้า 6.30 น.- 12.30 น. และช่วงเย็น 19.00 - 00.00 น. แอบบอกนิดนึงว่าคนแน่นตั้งแต่เช้า ถ้าจะไปควรไปแต่เช้าจะได้ไม่ต้องรอคิวยิ่งวันหยุดคนยิ่งเยอะ ภายถ่ายโดยผู้เขียน BrownTea หลังจากทานเสร็จก็ไปรอรถที่สถานขนส่ง Komtar จะมีจอแสดงเวลารถเข้า - ออก ให้ขึ้นสาย 204 ไปลงยังป้าย Bukit Bendera หรือ เป็นชื่อของ Penang Hill นั่นเอง ใช้เวลานั่งรถ 30 นาที ทางค่อนข้างมีโค้งเยอะต้องผ่านหมู่บ้านด้วย เมื่อลงรถแล้วจะเห็นทางไป Penang Hill ให้เดินขึ้นไปซื้อตั๋วที่ห้องจำหน่ายตั๋ว แฟนของผู้เขียนเป็นคนไปต่อแถวซื้อราคาตั๋วจะมีหลากหลายแบบมาก ที่ซื้อคือประเภท Adult แบบ Non - Malaysian คือตั๋วผู้ใหญ่ที่เป็นคนต่างชาติ ไม่ใช่ประชากรในประเทศมาเลเซีย ราคาประมาณ 30 RM หรือ 225 บาท เป็นตั๋วธรรมดาแบบ ไป - กลับ ส่วนใครที่ต้องการแบบ Fast Lane ราคาจะต่างกัน 2 เท่าเลยทีเดียวซึ่งจะเป็นแถว และรถรางคันที่มีคนน้อจะได้แบบ Priority หรือสิทธิพิเศษได้ไปก่อน ไม่ต้องมารอต่อแถวยาวเหมือนเลนปกติ ผู้เขียนแนะนำให้มาวันที่ไม่ตรงกับเทศกาลวันหยุดของที่นี่เพราะคนเยอะมากครับต่อแถวซื้อตั๋วร่วมชั่วโมง หลังจากได้ตั๋วมาจะมีรอบบอกว่าได้รอบที่เท่าไหร่บนหน้าจอ เวลาเหลือเลยหาอะไรรองท้องก่อนแล้วค่อยไปต่อแถวข้างในอีกรอบ ที่นี่เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06.30 น. - 23.00 น. เข้ามารอต่อแถวข้างในประมาณชั่วโมงกว่า ๆ กว่าจะได้ขึ้นรถราง หน้าตาของทางขึ้นเขาจะเป็นแบบนี้ครับ ขอบคุณภาพถ่ายโดยคุณ Fidelia Zheng จาก Unsplash ภายถ่ายโดยผู้เขียน BrownTea และแล้วก็มาถึง Penang Hill สิ่งแรกจะเห็นจะเป็นวิวพาราโนมา 280 องศา มีความสูงจากน้ำทะเลประมาณเมตร ด้วยความสูงขนาดนี้ทำให้อากาศเย็นสบาย บริสุทธิ์ สดชื่นมาก ๆ เราสองคนจึงไม่พลาดที่เก็บบรรยากาศที่สวยงามรอบ ๆ ซึ่งมองจากข้างบนจะเห็นเกาะปีนัง และน้ำทะเล กว่าจะมาถึงใช้เวลาเยอะพอสมควร เห็นวิวแล้วหายเหนื่อยเลยครับ ภายถ่ายโดยผู้เขียน BrownTea ที่นี่จะมีต้นไม้ ดอกไม้นานาชนิด มีทางเดินทอดยาวให้เดินรอบ ๆ ก่อนที่จะไป Love Lock ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคู่รักที่มาจะต้องมาเขียนชื่อบนลูกกุญแจรูปหัวใจด้วยกัน และติดไว้กับลูกกรงทำให้กลายเป็นที่สวยงามแบบนี้ ผู้เขียนเลือกถ่ายรูปคู่กันเป็นที่รถลึกแทน ส่วนสุดท้ายที่จะพาไปชมคือวัด Sri Aruloli Thirumurugan ที่รู้จักกันดีของศาสนาฮินดู สร้างขึ้นในปี 1800 และเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในปีนังเลย ผู้เขียนชอบพระแม่กาลีมาก เลยไปถ่ายก่อนกลับครับ การมาเที่ยวต่างประเทศที่ไม่ไกลจากประเทศไทยก็ทำให้มองเห็นอะไรใหม่ ๆ ในชีวิต ถ้ามีโอกาสมาอีกจะไม่พลาดไปที่ใหม่ ๆ แน่นอน ขอบคุณครับ BrownTea