เหตุเกิดจากความเหงา (เอ๊ย! ไม่ใช่ละ) เหตุเกิดจากการที่เราเสิร์ชหาที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติๆ ในจังหวัดบ้านเกิดตัวเองแล้วไปเจอสถานที่หนึ่งที่เคยมีการเขียนแนะนำเอาไว้ว่าเป็นอันซีน (unseen) เมืองลำปางอย่าง เขาส่องกระจก ถ้ำผาบ่อง ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยมากๆ ประจวบเหมาะกับการที่กลับมาบ้านครั้งนี้ตรงกับอากาศหนาว อุณหภูมิราวๆ 15 °C การไปเที่ยวสถานที่แบบนี้น่าจะเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ และเดินเที่ยวได้สบายๆ โดยไม่ต้องกลัวร้อน เลยตัดสินใจว่าจะไปที่นี่แหละ ปักหมุดไว้ละ ต้องได้ภาพสวยๆ วิวปังๆ มาเขียนคอนเทนต์แน่ๆ วันต่อมาไม่รอช้า แพลนเอาไว้แล้วว่าจะไปก็ต้องไป เราออกจากบ้านประมาณ 8.30 น. ขับตามเส้นทางในกูเกิ้ลแมพราวๆ ครึ่งชั่วโมงก็มาถึงจุดหมายปลายทาง เอาล่ะ! จุดพีคมันอยู่ตรงนี้แหละเพราะว่ามาถึงช่วงสายๆ แล้วแท้ๆ แต่ในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กลับไม่มีคนเลย แถมรอบๆ ก็ดูเปลี่ยว มีหญ้าขึ้นรกในหลายจุดเหมือนกับไม่มีคนคอยดูแล ตรงลานจอดรถจะมีอาคารอยู่สามสี่หลังก็ปิดประตูหมด ช่างเงียบและเหงาจนคิดว่ามาผิดที่ เลยย้อนกลับไปดูรีวิวที่เคยอ่าน อ้าวเฮ้ย! ที่เขาเขียนแนะนำไว้มันเมื่อสองสามปีที่แล้วแล้วนี่นา เอายังไงดี? ขับรถมาก็นานพอสมควร จะมาแค่จอดรถแล้วกลับงั้นเหรอ หลังจากคิดอยู่สักพักกับแม่และแฟนก็ตัดสินใจกันว่าไหนๆ ตั้งใจจะมาเที่ยวแล้วงั้นลองเดินๆ ดูสักหน่อยแล้วกัน เริ่มเดินดูรอบๆ ตรงด้านล่างที่เป็นลานจอดรถ ตรงนี้จะมีศาลาและเจดีย์กลางน้ำ มีรูปปั้นพระอยู่สององค์ เราก็เดินไปกราบไหว้และขอพรให้เที่ยวอย่างราบรื่น (และก็ขอให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นเพื่อนกันอีกสักคันสองคันแล้วกันจะได้ไม่เหงาแบบนี้ ฮ่าๆ) อ้อ ลืมบอกไปว่าสถานที่ตรงนี้ชื่อเต็มๆ คือถ้ำเขาส่องกระจกดอยแก้วนะคะ ตรงลานด้านล่างจะเป็นเหมือนสถานที่ปฏิบัติธรรมหรือสำนักสงฆ์อะไรประมาณนั้น ถ้าใครอยากได้วิวสวยๆ หรือถ่ายรูปกับปล่องของเขาส่องกระจกต้องเดินขึ้นไปข้างบนค่ะ และหลังจากที่เราไหว้พระด้านล่างเสร็จเราก็เดินขึ้นบันไดไปข้างบนกันต่อ ข้างๆ ทางปกคลุมด้วยต้นไม้สูงและต้นหญ้ามากมาย (มีหนามด้วยนะ ต้องคอยระวัง) แต่สภาพบันไดยังใช้งานได้ดีอยู่ บันไดมีหลายขั้นและทางก็ชันมากด้วย แนะนำว่าต้องจับราวบันไดเอาไว้แล้วค่อยๆ เดินขึ้นไปไม่อย่างงั้นอาจจะมีเซตกลงมาได้ (เพราะเราก็เซและเกือบแล้ว ดีนะคว้าราวไว้ทัน) ระหว่างทางเดินขึ้นก็จะมีรูปปั้นพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่บ้าง ตรงราวสีขาวๆ เดิมที่จะมีระฆังห้อยไว้เป็นทางยาวแต่ตอนที่เราไประฆังไม่มีแล้ว เหลือแขวนเอาไว้อยู่สองสามใบเท่านั้น เมื่อเดินขึ้นไปถึงจุดหนึ่งจะมีทางแยกไปสองทาง ทางหนึ่งจะพาไปที่ลานชมวิวและอีกทางหนึ่งจะพาไปยังปล่องที่คนนิยมมาถ่ายรูป ลานชมวิวเนื่องจากมีต้นไม้เยอะทำให้พอขึ้นไปถึงไม่เห็นวิวเลยเห็นแต่กิ่งก้านต้นไม้ น่าเสียดายมากๆ TT ส่วนทางขึ้นไปยังจุดถ่ายรูปเราต้องปีนก้อนหินขึ้นไปในระยะทางประมาณหนึ่ง เนื่องจากว่าหญ้ารกทำให้ปีนขึ้นไปยากและต้องคอยระมัดระวังมากๆ ด้วยเช่นกัน แต่พอขึ้นไปถึงแล้วและมองเห็นวิวทิวทัศน์มันทำให้ความรู้สึกที่อิหยังวะก่อนหน้านี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง สรุปการเดินทางในครั้งนี้ แม้ว่าจะผิดคาดจากที่คิดและการอ่านรีวิวมาบ้างแต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถูกไม่น้อยเลย วิวตรงหน้าที่ได้มองเห็นมันสวยมากๆ อากาศก็เย็นสบายอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เราไม่แน่ใจว่าที่เขาส่องกระจกแห่งนี้ดูรกร้างแบบนี้เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวบ่อยๆ เลยทำให้ขาดงบในการดูแลและบำรุงรึเปล่า แต่ถ้าหากมีการดูแลที่ดีขึ้น ถางหญ้ารกร้างให้เดินทางง่ายและไม่บดบังทัศนียภาพ สถานที่แห่งนี้จะเป็นอีกที่หนึ่งที่เป็นจุดขายของจังหวัดลำปางได้เลย สำหรับใครที่อยากมาตามรอยเราก็สามารถมากันได้นะคะ แต่อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบปีนป่ายหรือคนที่แข้งขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในเรื่องของเส้นทางการเดินทางก็สะดวกมากๆ วิวสองข้างทางสวยงามเป็นธรรมชาติและเป็นถนนลาดยางตลอดสายเลย ใครที่เป็นสายธรรมชาติแนะนำให้ลองมาเที่ยวมาดูกันค่ะ พิกัดการเดินทาง : เขาส่องกระจก ถ้ำผาบ่อง ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปางวันที่เขียน : 26/12/2023ภาพปกและภาพประกอบ : เรื่อยเปื่อยเกิร์ล (ผู้เขียน)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !