ย้อนกลับไปในวันที่ 30 มกราคม 2554 วันที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศตกอยู่ในความเศร้า กับข่าวการละสังขารของ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสองค์แรกแห่งวัดป่าบ้านตาด (วัดเกศรศีลคุณ) จ.อุดรธานีหลวงตามหาบัว ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิสายกรรมฐาน ที่สร้างคุณูปการไว้ให้กับประเทศชาติอย่างมากมายจากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี พ.ศ.2540 หลวงตามหาบัวได้ริเริ่มจัดทำการทอดผ้าป่าทองคำและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ชื่อ "โครงการผ้าป่าช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" เพื่อใช้เป็นทุนสำรองของประเทศแม้ในวันที่ท่านละสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ยังคงมีความห่วงประเทศชาติ เพราะเมื่อมีการเปิดพินัยกรรมท่านได้สั่งเสียไว้ว่า ให้นำเงินสดทั้งหมดไปซื้อทองคำแท่ง เพื่อมอบให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อไว้ใช้เป็นทุนสำรองของประเทศจากวันที่ท่านละสังขารจนถึงวันนี้นับเป็นเวลาเกือบ 10 ปี แต่คุณูปการ คำสอน ต่างๆ ของหลวงตามหาบัวยังคงอยู่ให้ลูกหลานชาวพุทธได้จดจำ ในวันนี้เราจะได้พาไปเยือน พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อสัมผัสกับความสุข สงบ ร่มรื่น เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีและคำสั่งสอนของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเมื่อไปถึงยังทางเข้าเราจะได้เห็นรูปเหมือนของหลวงตามหาบัว ขนาดเท่าๆ กับตัวจริง ในท่านั่งชันเข่า ชี้นิ้วมือเหมือนกำลังให้โอวาทสั่งสอนอยู่ส่วนด้านข้างก็จะเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงประวัติ ธรรมเทศนา คติธรรมคำสอนของหลวงตามหาบัว สำหรับใครที่ต้องการเข้าชมในส่วนตรงนี้ต้องตระเตรียมเวลามาให้มากหน่อย เพราะการเข้าชมจะจัดเป็นรอบๆ ใช้เวลาก็ประมาณ 90 นาที ในแต่ละรอบ โดยมีทั้งหมด 6 รอบด้วยกัน คือ 9.30น. 10.00น. 10.30น. 13.30น. 14.00น. 14.30น.ต่อมาพระวิหาร เป็นสถาปัตยกรรมไทยผสมผสานศิลปะล้านช้าง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปนามว่า "พระพุทธวิสุทธิมงคลศาสดา เจ้าฟ้าจุฬาภรณืนฤมิตร" พร้อมด้วย รูปเหมือนหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงตามหาบัวจากนั้นด้านในลึกเข้าไปเราจะได้เจอกับพระเจดีย์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมไทยผสมผสานศิลปะล้านช้าง รูปทรงระฆังแปดเหลี่ยม ปลียอดโลหะทองแดง ปิดด้วยทองคำบริสุทธิ์ 96.70 % น้ำหนัก 224 กิโลกรัม ด้านในบรรจุอัฐิธาตุของหลวงตามหาบัว ในส่วนศรีษะ และฟัน โดยเครื่องบรรจุทำจากทองคำน้ำหนัก 18 กิโลกรัมในวันที่ไปเยือน บอกได้เลยว่าแดดแรงมาก แต่อากาศกลับไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด ที่สำคัญพื้นหินที่เดินย่ำด้วยเท้าเปล่าเป็นระยะทางไกลไม่น้อย นั้นเย็นสบาย จนรู้สึกแปลก เพราะปกติอย่างที่รู้กันลานหินกลางแจ้งในสภาพอากาศร้อนแดดสาดส่องอย่างเมืองไทย ต้องเรียกว่าเดินไปกระโดดไปเหตุเป็นเพราะได้มีการนำหินอ่อนไวท์คาราร่า จากประเทศอิตาลี มาปูพื้นและผนังโดยรอบ ซึ่งหินอ่อนชนิดนี้มีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดีแต่แนะนำว่าควรติดหมวกและแว่นกันแดดไปด้วย จะได้เดินชมเพลินแบบสบายมากขึ้น รับรองว่าได้ใช้เวลาดื่มด่ำกับความสงบ ร่มเย็น ณ สถานที่แห่งนี้ได้เป็นเวลาหลายชั่วโมงแถมวันที่ไปท้องฟ้าก็ยังสวยงาม เมฆก่อตัวเป็นรูปร่างต่างๆ ถ่ายภาพออกมามุมไหนก็สวยสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามากราบสักการะในส่วนของพระวิหาร และพระเจดีย์ นั้น สามารถมาได้ทุกวัน แต่ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ปิดทำการในวันจันทร์พิกัด : พิพิธภัณฑ์หลวงตามหาบัวภาพถ่ายทั้งหมดโดย : ผู้เขียน ติดตามข่าวสาร คอนเทนต์เด็ด ๆ ก่อนใคร อย่าช้า โหลดเลยที่ TrueID !!