" กีฬานั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักกัน แม้กระทั่งผู้คนในอีกซีกโลกก็ตาม " คือนิยามสั้นๆ ที่แสดงถึงความหัศจรรย์ของกีฬา คุณยังจำความรู้สึกแรกที่ " สมรักษ์ คำสิงห์ " ผงาดเวทีโลกคว้าเหรียญทองมาฝากคนไทยได้หรือไม่ ? หากมองย้อนกลับไปมันคือความสำเร็จที่ทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นบนเวทีกีฬาโลก และทุกคนต่างมีความสุขกันถ้วนหน้าทั้งประเทศ โดยหลังจากการนับหนึ่งครั้งนั้น เหรียญรางวัลสูงสุดก็เพิ่มอีกเท่าทวีจนมาถึงการแข่งขันในรอบล่าสุดที่กรุงโตเกียว " น้องเทนนิส " ก็สร้างประวัติศาสตร์ใหม่อีกรอบโดยการคว้าเหรียญทองเทควันโดได้เป็นครั้งแรก เป็นของขวัญในช่วงที่ประเทศของเรากำลังยากลำบากจากทุกข์ภัยต่างๆ ซึ่งทุกความรู้สึกที่พวกเราคนไทยรับรู้กันในตอนนี้มันได้เกิดขึ้นแล้วกับประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่งในอีกซีกโลก หากกล่าวถึง " เบอร์มิวด้า " ผมเชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงตำนานสามเหลี่ยมอาถรรพ์ทางตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ สถานที่อันเป็นฝันร้ายของนักเดินทาง แต่เรื่องที่น้อยคนจะรู้ว่าคือในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2020 เบอร์มิวด้าสามารถความเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จจากไตรกีฬา โดยหญิงสาวผู้สร้างตำนานคือ " ฟลอร่า ดัฟฟี่ (Flora Duffy) " โดยก่อนอื่นขอเล่าย้อนสักนิดว่าเบอร์มิวด้าคือเกาะเล็กๆ ในทวีปอเมริกาเหนือที่มีจำนวนประชากรเเค่ราวๆ 70,000 ชีวิตเท่านั้น ( น้อยกว่าเกาะภูเก็ตบ้านเราเสียอีก ) โดยหลายคนอาจไม่คุ้นนักว่าเบอร์มิวด้าเคยส่งนักกีฬาเข้าประกวดบนเวทีโอลิมปิกส์มาตั้งแต่ปี 1936 โดยพวกเขาส่งนักกีฬาลงแข่งขันมาทุกครั้ง ยกเว้นเพียงครั้งเดียวใน " โอลิมปิกเกมส์ 1980 " ที่จัดแข่งในกรุงมอสโก ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้เข้าร่วมก็เป็นผลมาจากการคว่ำบาตรที่นำโดยสหรัฐอเมริกานั่นเอง กลับมาเล่าถึงที่ตัวฮีโรของเรา ดัฟฟี่เริ่มเทิร์นโปรไตรกีฬาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2013 เธอผ่านเวทีการแข่งขันมากมาย แถมยังเคยสร้างสถิติน่าทึ่งเอาไว้เมื่อปี 2016 โดยลงแข่งขันไตรกีฬาโลกจำนวน 3 รายการภายในปีเดียว ส่วนบนเวทีไตรกีฬาโอลิมปิกดัฟฟี่เคยมีโอกาสเข้าร่วมมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน ซึ่งในโตเกียวเกมส์ 2020 เธอผ่านการคัดเลือกให้ติดใน 26 อันดับแรกจากการคัดเลือกรายการฝ่ายหญิง โดยพิจารณาจากการจัดอันดับโลกของ ITU ซึ่งคงไม่มีใครคาดคิดว่าการมารอบนี้จะคุ้มค่ามากๆขนาดนี้ เพราะเธอความเหรียญทองมาครองได้สำเร็จและได้รับเกียรติสูงสุดในฐานะฮีโร่ของเบอร์มิวด้าด้วยวัย 33 ปี สุดท้ายอย่างที่ผมเกริ่นไปตอนต้นบทความ ผมมองว่าอารมณ์ความรู้สึก ณ วันที่ดัฟฟีชูธงชาติเบอร์มิวด้าพร้อมขึ้นไปรับเหรียญทองอารมณ์ความรู้สึกคงไม่ต่างอะไรกับที่คนไทยร่วมฉลองกับไปกับสมรักษ์ คำสิงห์เมื่อครั้งวันวาน และแน่นอนว่าหลังจากนับหนึ่งได้ก็มีโอกาสสูงมากที่เบอร์มิวด้าจะได้เฮฉลองอีกครั้งในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งต่อไป ** Ref Picture ภาพหน้าปก : จาก Olympics ภาพประกอบ 1 , 2 , 3 จาก Olympics / 4 จาก World Triathlon อัปเดตบทความกีฬาสนุก ๆ อีกมากมายไปกับเรา โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !