เราเคยฟังใครแล้วไม่ได้ยินเสียงตัวเองบ้างหรือไม่?ที่มาของภาพ ; freepikโดยธรรมชาติแล้ว เวลาเราฟังใคร เรามักจะฟังตัวเราเองไปพร้อม ๆ กัน ในขณะที่เราได้ยินเสียงเขาพูด เราก็มักจะได้ยินเสียงความคิดในหัวของเราไปด้วย เช่น ใช่เหรอ จริงเหรอ เว่อร์ไปหรือเปล่า พูดจริงมั๊ยเนี่ย ฯลฯ ดังนั้น เวลาเราฟังใครจบแล้ว เราอาจจะไม่ได้ยินเสียงที่เขาพูดทั้งหมด เพราะเวลาส่วนหนึ่ง เราเอาเวลามาฟังตัวเองอยู่บ้างที่มาของภาพ : freepikเราเคยฟังใครแล้วได้ยินเสียงที่เขาไม่ได้พูดบ้างหรือไม่?เวลาเราฟังใคร เรามักจะได้ยินแค่เสียงคำพูดเท่านั้น แต่เราเคยได้ยินความรู้สึกของเขาบ้างไหม บางคนพูดเรื่องความสำเร็จแต่ถ้าเราฟังดี ๆ ฟังให้ลึก ๆ ไม่มัวฟังแต่คำพูดแต่เพียงอย่างเดียว เราอาจะได้ยินความรู้สึกลึก ๆ ของเขาก็ได้ เช่น คนบางคนพูดเรื่องความสำเร็จแต่ความรู้สึกดูเหมือนจะเราอาจจะได้ยินความรู้สึกเหงาโดดเดี่ยวก็ได้ ถ้าเราฟังใครสักคนได้ยินเสียง ได้ยินความรู้สึกแล้ว ลองลงลึกไปฟัง “ความเชื่อและทัศนคติ” ของเขาดูบ้าง ดูซิว่าการที่เขาพูดแบบนั้น เขาน่าจะเป็นคนที่มีทัศนคติแบบไหน เช่น ฟังแล้วได้ยินว่าเขาเป็นคนคิดบวก เขาเป็นคนต่อสู้ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ฯลฯ ถ้าเราฟังเขาแล้วได้ยินเสียง ได้ยินความรู้สึก ได้ยินความเชื่อทัศนคติแล้ว ลองฟังให้ลึกลงไปอีกจนได้ยิน “ความต้องการ” ของเขาดู ฟังดูว่าที่เขาพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เขาต้องการอะไร เช่น เขาพูดเรื่องความสำเร็จให้เราฟัง จริง ๆ เขาต้องการจะบอกว่าเขาเก่งนะ เขาต้องการที่จะลบคำสบประมาทของใครบางคนที่เคยดูถูกดูแคลนเขาไว้ก็ได้ หรือเขากำลังจะบอกว่าเขาได้ปลดล๊อคปมชีวิตของเขาได้แล้วนะที่มาของภาพ : freepikดังนั้น ถ้าเราอยากจะฟังคนอื่นแล้วให้ได้ยินสิ่งที่เขาไม่ได้พูดคือ ได้ยินความรู้สึก ได้ยินความเชื่อทัศนคติ ได้ยินความต้องการ เราจะต้องฝึกอย่างไรในขณะที่เรากำลังฟังคนอื่นอยู่ เราจะต้องฝึกหยุดพูด หยุดคิด หยุดรู้สึก หยุดเชื่อ หยุดความต้องการของตัวเองเอาไว้ก่อน เพราะมิฉะนั้น เราจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาไม่ได้พูดแน่ๆในขณะที่เราฟังคนอื่น เราต้องเอาสมาธิจดจ่ออยู่กับเขา ฟังเขาแบบที่เขาเป็น อย่าคิดไปก่อน อย่าตัดสินเขาด้วยประสบการณ์เรา ฟังเท่าที่เขาพูด สังเกตความรู้สึก แววตา สีหน้าท่าทาง และอยู่กับเขาตลอดเวลาที่เขากำลังพูดเวลาฟังเขาพูด อย่าเพิ่งแทรกหรือขัดจังหวะ อย่าตั้งคำถามถ้าเขายังพูดอยู่ เพราะบางครั้งเขากำลังประมวลผลว่าจะพูดอะไรดี พูดอย่างไรดี หรือเขากำลังจัดการกับความรู้สึกภายในของเขาอยู่ก็ได้ ปล่อยให้วาระการพูดเป็นของเขา วาระของเราคือการฟังอย่างเดียวถ้าเราฝึกฟังได้แบบนี้ รับรองได้ว่าเราจะเป็นนักฟังที่มีคนอยากพูดด้วย เราจะเป็นนักฟังที่เก่งกว่าหมอดูเสียอีก เพราะเราฟังแล้วสามารถเข้าไปสิงจนเข้าใจเขาอย่างที่เขาเป็นจริง ๆ เราสามารถทำนายความคิด ความรู้สึก ความต้องการของเขาได้ไม่ยาก ลองนำไปฝึกกันดูนะครับ โดยเฉพาะการฟังคนที่เราไม่เคยฟังอย่างตั้งใจมาก่อน เช่น คนในครอบครัวที่เรามักจะฟังแค่เสียงและคำพูด เราอาจจะไม่เคยได้ยินเสียงที่เขาไม่ได้พูดเลยก็ได้ที่มาของภาพ : freepik”ถ้าฟังเป็น จะเห็นคำตอบ”ที่มาของภาพหน้าปก ; freepik