สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 แพร่ระบาดไปยังหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วยในขณะนี้ มียอดผู้ติดเชื้อมากกว่า 160,000 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,500 รายเข้าไปแล้ว และกำลังกลายเป็นข่าวที่ผู้คนให้ความสนใจค้นหามากที่สุด รวมทั้งเป็นข่าวที่สร้างความสับสนให้กับผู้คนมากที่สุดอีกด้วยเช่นกัน เพราะในสถานการณ์แห่งความวิตกกังวล หวาดระแวง ตื่นกลัวของคนเรานั้น อาจทำให้เกิดความเครียดสะสม จนทำให้ขาดสติยับยั้งชั่งใจ ขาดการไตร่ตรอง หรือขาดวิจารณญาณในตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องจากแหล่งที่มา กลายเป็นความอ่อนไหวต่อข้อมูลข่าวสาร พออ่อนไหวมาก ๆ เข้าอาจจะทำให้กลายเป็น โรคภาวะที่แสดงออกถึงความกลัว ตื่นตระหนกแบบไม่มีเหตุผล หรือที่เรียกว่า Panic Disorderขอบคุณภาพประกอบ Rishiraj Singh Parmar / pexelsในช่วงนี้นั้นหลายคนอาจจะต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เกาะติดเหตุการณ์จนกระทั่งยอมอดหลับอดนอน ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจนกดดันตัวเอง เมื่อกดดันมากขึ้น ๆ ในทุก ๆ วัน อาการเก็บกดที่สะสมนั้นก็อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งจากตัวเองไปจนถึงคนใกล้ชิดรอบข้างด้วย เมื่อส่งผลกระทบกันมากเข้า เป็นทอด ๆ ไป ก็อาจทำให้เกิดการลุกลามจนกลายเป็นภาวะ "สังคมตื่นตระหนก" หวาดระแวงซึ่งกันและกัน หวาดระแวงสถานที่ หวาดระแวงสังคมสภาพแวดล้อม หวาดระแวงการใช้ชีวิต ฯลฯ ขอบคุณภาพประกอบ Matteo Fusco / unsplashเราจะเห็นตัวอย่างได้จากสังคมไทย ณ ขณะนี้ที่การรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทั้งจากการบอกเล่าต่อ ๆ กัน หรือการใช้งาน Social Media ที่ส่งต่อข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ จนคนแห่แหน ทำตามกันเป็นจำนวนมากมาย อย่างเรื่องไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 นี้ก็มีเรื่องการกลั้นหายใจตรวจไวรัสได้ การดื่มน้ำบ่อย ๆ ไล่เชื้อไวรัสออกจากร่างกายได้ ซึ่งมีการแชร์ข่าวต่อ ๆ กันไปมากมายมหาศาล ผลปรากฎว่าไม่เป็นความจริงในทางการแพทย์แต่อย่างใดเลย หรือข่าวลือเรื่องพบคนติดเชื้อที่นั่นที่นี่ กลายเป็นการตั้งข้อรังเกียจคน ๆ นั้น หรือสถานที่นั้น ๆ โดยไม่ตรวจสอบความจริง สุดท้ายพอเป็นข่าวปลอม มีผู้รับเคราะห์จริง ๆ ไปแล้ว ก็ตามกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ขอบคุณภาพประกอบ pxhereล่าสุดที่เห็นได้ชัดคือเรื่องกักตุนสินค้า เพราะกลัวสินค้าจะแพง หรือกลัวจะขาดตลาดจนหาซื้อไม่ได้ นี่ก็เป็นข่าวในสังคมออนไลน์ที่สร้างความวิตกกังวล หวาดระแวงให้กับผู้คน จนกระทั่งซุปเปอร์มาร์เก็ตตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ แน่นขนัดไปหมด เพราะแต่ละคน แต่ละครอบครัวไปแย่งกันซื้อหาของกินของใช้เข้าบ้าน ก็เพราะเชื่อตามข่าวสารอย่างไม่มีเหตุผล ที่จริงแล้วภาวะตื่นตระหนก กับโรค Panic Disorder มีอาการแสดงออกมาภายนอกเหมือนกันจนแทบแยกกันไม่ออก แต่อาจจะแตกต่างกันที่ภาวะแสดงออกภายในเช่น อาการอ่อนแรง เหงื่อออก ตัวสั่น ใจสั่น ใจเต้นแรง แน่นหน้าอก ในสมองคิดวนเวียนแต่เรื่องร้าย ๆ มือเท้าชา ฯลฯ นี่คือระยะเริ่มต้นของ Panic Disorder ขอบคุณภาพประกอบ Pranidchakan Boonrom / pexelsในสังคมที่มีสถานการณ์เลวร้ายมาก ๆ อย่างข่าวการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 ในขณะนี้นั้น ก็ยิ่งง่ายต่อการเกิดภาวะสังคมวิตกกังวล ตื่นตระหนก จนเกินความเป็นจริงไป ซึ่งนั่นก็เพราะสังคมไทยไม่ได้เตรียมพร้อมตั้งรับการแก้ปัญหาไวรัสนี้มาตั้งแต่แรก พอเกิดเหตุใกล้ตัวเข้าจริง ๆ ก็กลายเป็นสถานการณ์วุ่นวายอย่างที่เห็น ทางเดียวที่จะแก้ปัญหา Social Panic นี้ได้คือทุกคนต้องช่วยกัน ส่งต่อข้อมูลอย่างเป็นทางการที่ถูกต้อง ช่วยกันเตือนถึงข่าวสารที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน และช่วยกันดูแลคนรอบข้าง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างมีน้ำใจ ในส่วนของภาครัฐก็ควรจะเร่งประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มกำลัง เพื่อลดความตื่นตระหนกของสังคม เพราะเมื่อความตื่นตระหนกของผู้คนลุกลามเป็นวงกว้างนั้น อาจจะส่งผลทำร้ายสังคมได้รุนแรงพอ ๆ กับโรคระบาดต่าง ๆ หรืออาจจะมากกว่าก็เป็นได้ขอบคุณภาพปก Free To Use Sounds / unsplash + Rishiraj Singh Parmar / pexels