การเรียนรู้คำบุพบทในภาษาอังกฤษอาจเป็นสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองอย่างมาก คำเล็กๆ เหล่านี้ เช่น "in" "on" "at" และ "by" มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความหมายของประโยค สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์เรื่องเวลา สถานที่ และทิศทางของเนื้อหา แม้แต่เจ้าของภาษาบางครั้งก็สะดุดเหมือนกันเมื่อพยายามใช้คำบุพบทให้ถูกต้อง แต่อย่าเพิ่งถอย บทความนี้มีเทคนิคดีๆ เกี่ยวกับการใช้คำบุพบทในภาษาอังกฤษอย่างเหมาะสมและถูกต้อง คำบุพบทคืออะไรก่อนคำบุพบทคือคำที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำนามหรือคำสรรพนามกับคำอื่นๆ ในประโยค ช่วยอธิบายสถานที่ เวลา ทิศทางเนื้อเรื่อง และความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ภายในประโยค ตัวอย่างทั่วไป ได้แก่ “in” “on” “under” “at” “by” และ “with”1. คำบุพบทสถานที่:“in”ใช้ "in" สำหรับสถานที่ เช่น "ฉันอยู่ในห้อง" "I am in the room." ใช้กับชื่อเมืองหรือประเทศ "ฉันอยู่กรุงเทพ" "I live in Bangkok." “on” ใช้ “On” สำหรับบนพื้นผิวที่สัมผัส เช่น "หนังสืออยู่บนโต๊ะ" "The book is on the table."หรือ "รูปภาพอยู่บนผนัง" "The picture is on the wall." "at"ใช้ "at" สำหรับจุดหรือสถานที่เฉพาะ เช่น "ฉันกำลังรออยู่ที่ป้ายรถเมล์" "I am at the bus stop." "by"ใช้ "โดย" ใช้เพื่อแสดงตำแหน่ง เช่น "เธอยืนอยู่ข้างประตู" "I stand by the door."2. คำบุพบทเวลา: In: ใช้ "in" เพื่อเชื่อมเดือน ปี ทศวรรษ และศตวรรษ เช่น "ฉันเกิดปี 1990" หรือ "เราจะพบกันตอนเย็น" หรือใช้ตามหลักไวยกรณ์ ให้ใช้ "in" สำหรับเดือน ปี และฤดูกาล เช่น "ฉันเกิดในเดือนพฤษภาคม" “I was born in May.” “on” ใช้ “On” เพื่อกล่าวถึงวันและวันที่ "วันเกิดของฉันคือวันที่ 15 มกราคม" "My birthday was on 15th January." หรือ "วันศุกร์เรามีประชุมกัน" "We have a meeting on Friday." "ฉันมีนัดในวันจันทร์" "I have a date on Monday." "at"ใช้ "at" ใช้เพื่อระบุเวลาหรือช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง "เจอกันตอนบ่าย 3 โมง" "I will see you at 3 pm."หรือ "งานเริ่ม 8.30 น." "The party starts at 8.30.” 3. คำบุพบทการเคลื่อนไหว: “to” ใช้ “to” เพื่อระบุทิศทางการเคลื่อนที่ "ฉันกำลังไปสวนสาธารณะ" "I am going to the park." หรือ "เธอกำลังเดินทางไปลอนดอน" "I am flying to London." “from” ใช้ “from” ระบุจุดเริ่มต้น "ฉันมาจากร้านค้า" "I am coming from the shop." หรือ "พัสดุมาจากญี่ปุ่น" "The package is from Japan." “through” ใช้ “through”ใช้เพื่ออธิบายการผ่านหรือจบกระบวนการ “เธอเดินผ่านป่า” “You are going through the forest.” การระบุวิธีการหรือวิธีการได้ เช่น "ฉันจะส่งทางอีเมล" "I will send it through e-mails." 4. คำบุพบทการครอบครอง: “of”ใช้ "of" ใช้เพื่อบ่งบอกถึงองค์ประกอบของสิ่งของ “ปกหนังสือ” “covers of books” “ขาโต๊ะ” “legs of tables” 5. คำบุพบทเหตุและผล: “because of”ใช้ "because of" ใช้เพื่ออธิบายเหตุผล “เราอยู่บ้านเพราะฝนตก” “We stay home because of the rain.” “due to”ใช้ "due to" ที่ความหมายคล้ายกับ "because of" เพื่ออธิบายสาเหตุของเหตุการณ์ “เที่ยวบินล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย” “The flight was delayed due to the weather.”6. คำบุพบทที่ใช้กับคำคุณศัพท์: คำคุณศัพท์คือคำที่เชื่อต่อกับคำนามกับคำคุณศัพท์ ต้องใช้กับคำบุพบทเฉพาะ ตัวอย่างเช่น: interested in: "ฉันสนใจงานศิลปะ" “I am interested in arts.” good at: "เธอเล่นกีฬาเก่ง" “You are good at sports.”7. สำนวนที่ต้องใช่ร่วมกับคำบุพบท: ภาษาอังกฤษเต็มไปด้วยสำนวนที่ใช้คำบุพบท ตัวอย่างเช่น "break up with" หมายถึงการยุติความสัมพันธ์โรแมนติก “Jane broke up withJohn” หรือ "get along with" หมายถึงการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับใครสักคน “Jim can get along with his friends very well.” การเรียนรู้คำบุพบทอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ด้วยการฝึกฝนและการสัมผัสจากการใช้ภาษาโดยตรงจะสามารถทำให้เกิดความเชี่ยวชาญได้ การอ่าน การฟัง และการพูดภาษาอังกฤษเป็นประจำจะช่วยให้คุณรู้สึกคุ้นเคยกับองค์ประกอบที่สำคัญของภาษาส่วนนี้มากขึ้น และที่สำคัญต้องเข้าใจเป็นพื้นฐานว่าคำบุพบทมักจะมีความเฉพาะเจาะจงทางวัฒนธรรม ดังนั้นควรใส่ใจกับสำนวนที่ใช้พูดจริงๆ โดยไม่ต้องแปลตรงตัว ครูด้วงอิงลิชภาพประกอบมาจาก canva.comเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !