ว่าด้วยเรื่องขึ้นเขาภูกระดึง ไม่ว่าจะไปแบบเป็นแก๊ง คู่รักหรือครอบครัว ที่ตกลงชวนกันขึ้นเขาภูกระดึงมาแล้วนั้น ก็มักจะมีเรื่องเล่าฮา ๆ แปลก ๆ กับวีรกรรมที่สร้างไว้ให้พูดถึงในช่วงที่เราไปเที่ยวเขาภูกระดึงแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเดินขึ้นเขา การแวะพักตามจุดต่างๆ ความชันของเส้นทาง จุดชมวิวระหว่างทาง และความรู้สึกตอนได้เห็นป้ายพิชิตภูกระดึง ล้วนเป็นเสน่ห์ให้ทางนักเดินทางจดจำได้ดี “ใครชวนขึ้นภูกระดึงอีกเราจะโกรธ” นี้คือคำพูดของเราเองหลังจากจบทริปภูกระดึงสามวันสองคืนครั้งแรก เพราะครั้งแรกที่ไปนั้นเป็นเสาร์แรกของเดือนตุลาคม แล้วคือเป็นปลายฝนต้นหนาว ครั้งนั้นที่ไป คืนก่อนเดินขึ้นภูกระดึงมีฝนตกหนัก แล้วทำให้ทางเดินขึ้นซึ่งมีความชันอยู่แล้วเพิ่มความลื่นเข้าไปอีก มันสร้างภาพจำให้เราได้ดีเหลือเกินฮ่าๆ แต่ที่เซอร์ไพร์สกว่านั้นก็คืนทาก ที่รอเราอยู่เต็มพื้นที่หลังแปนั้นเอง เจ้าถิ่นไร้ซึ่งความปราณีใดๆ ต่อแขกผู้มาเยือนจากแดนไกลยิ่งนัก หันไปทางไหนเค้าจะมาทักทายตลอด ๆ แต่ก็นั้นแหละเราต้องยอมรับให้ได้ แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือช่วงเดือนตุลาคมเส้นทางเดินน้ำตกสวยมากๆ ถึงมากที่สุด ใครที่ชอบน้ำตกสวยๆ ธรรมชาติงดงามตลอดเส้นทาง แนะนำให้ไปช่วงต้นเดือนตุลาคม แล้วทำไมอีกสองปีต้องไปอีกหลังจบทริปภูกระดึงก่อนหน้าไป เหตุผลก็คือเรายังไม่ได้เที่ยวแบบแห้งๆ ไง ก็เลยตัดสินใจรวมแก๊งไปอีกรอบ โดยรอบนี้เราไปในช่วงเสาร์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน เราวางแผนไว้ว่าจะปั่นจักรยานบนภูเพื่อไปผาหล่มสักดูพระอาทิตย์ตกดินที่นั้น พร้อมกับทางอุทยานมีบริการให้เช่าแก่นักท่องเที่ยวสะดวกสบายสุดๆ เราเลยตัดสินใจไปอีกรอบ โดยรอบสองนี้ดีมาก เจ้าถิ่น(ทาก) แทบจะไม่มาทักทายเราเลย เพราะอากาศเริ่มแห้งทำให้เค้าเก็บตัวไง อากาศหนาวปลายเดือนพฤศจิกายนตอนเช้าที่ต้องตื่นตีห้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ที่ผานกแอ่นนั้นก็ทรมานร่างใช่ย่อย แต่หากคุณทำได้ก็ไม่ผิดหวังแน่นอน ฉะนั้นหากคุณได้ขึ้นไปอย่าเสียเวลานอนที่เต็นท์อยู่เลยนะ ออกไปเถอะเพราะมันคุ้มค่าแน่นอนจ้า รูปประกอบโดย JJJoop