เมื่อพูดถึงประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างประเทศพม่านั้น ผู้คนมักจะนึกถึงการไหว้พระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในแต่ละปีมักจะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยหลั่งไหลเข้าไปท่องเที่ยว หรือเยี่ยมชม เมืองหลวงเก่าอย่าง นครย่างกุ้ง ไม่ขาดสาย เมื่อเราค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองย่างกุ้งนั้นจะพบว่ามีการทำรีวิวการท่องเที่ยวกันไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับบทความนี้จะพาผู้อ่านไปพบกับสถานที่ต้อง (ห้าม) พลาด และการท่องเที่ยวในอีกมุมที่หลายท่านอาจยังไม่เคยได้สัมผัส หลังจากถึงสนามบินย่างกุ้งและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือการแลกเงินจ๊า (สกุลเงินของพม่า) แนะนำให้พกแบงค์ดอลล่าร์ไปนะคะ แล้วค่อยนำไปแลกที่เคาน์เตอร์ในสนามบินค่ะ จากนั้นแนะนำให้ซื้อซิมค่ะ เพื่อสะดวกในการใช้ชีวิตที่ย่างกุ้ง สิ่งถัดมาที่ควรทำคือ การดาวน์โหลด Grab app เพื่อใช้ในการเดินทาง จะสะดวกมากๆค่ะ และอัตราค่าบริการไม่แพงเลยค่ะ การเดินทางในย่างกุ้งนั้น พวงมาลัยรถจะอยู่ด้านขวา แต่จะแซงซ้ายค่ะและจอดชิดเลนขวา งง เหมือนกันค่า สถานที่แรกที่อยากแนะนำให้ไปไหว้คือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Chauk-Htat Gyi Buddha) หรือ พระนอนตาหวาน ที่วัดเจาทัตยี (Chauk Htat Gyi Pagoda) พระนอนตาหวาน เป็นพระนอนองค์ใหญ่ที่สุดของพม่า มีความยาว 65 เมตร นอนตะแคงขวา และถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามที่สุดในพม่า ด้วยพระพักตร์ได้รูป ทาสีขาว ขนตางอนยาว ดวงตาเป็นแก้ว เปลือกตาสีฟ้า แต้มสีแดงที่พระโอษฐ์ จีวรพริ้วไหวราวกับของจริง จึงได้ชื่อว่า พระตาหวาน ต่อจากนั้น แวะขอพรกับเทพทันใจ หรือนัตโบโบยี ที่เจดีย์โบตะทาวน์ (Botataung Pagoda) ซึ่งเป็นที่นิยมของคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งการเดินทางไปยังที่นี่ สามารถใช้บริการ Grab ได้เลยค่ะ เทพทันใจ ตั้งอยู่ที่ด้านข้างของเจดีย์โบตาทาวน์ ชาวพม่ามีความเชื่อกันว่า ไม่ว่าจะสร้างเจดีย์ ที่ไหนก็ตาม จะต้องมีเทพคอยคุ้มครองดูแลเจดีย์ ซึ่งเจดีย์แห่งนี้ มีเทพทันใจคอยคุ้มครอง เชื่อกันว่าหากขอพรกับเทพทันใจจะสมปรารถนาอย่างรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การงาน การเรียน ค้าขาย ความรัก โชคลาภ โดยเฉพาะเรื่องเงินทอง หรือ เสริมดวงให้ชีวิตราบรื่นในทุกๆ ด้าน ก่อนจะไปถึงไฮไลท์ของทริป อยากแนะนำให้ผู้อ่านแวะสัมผัสวิถึชีวิตในการรับประทานอาหารของชาวพม่า ซึ่งจะพบชาวพม่านั่งตามร้านอาหารตามสถานที่ต่างๆ หรือ ในตรอก ซอก ซอย ก็จะมีร้านค้าหรือร้านอาหารขายจำหน่ายอยู่ทั่วไป อาหารในภาพจะเป็นขนมคล้ายๆ ขนมฝักบัวในบ้านเรา ราคาที่ขายนั้นถูกมากค่ะ หากสนใจเมื่อมาเที่ยวที่พม่า สามารถหาทานได้ตามสถานที่ทั่วไปค่ะ สถานที่ที่ต้อง ห้ามพลาด เมื่อมาเยือนย่างกุ้ง นั้นคือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shewdagon Pagoda) ซึ่งได้ชื่อว่า พระมหาเจดีย์ทองคำ และที่สำคัญ ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ ประกอบด้วยเพชร 5,448 เม็ด ทับทิม ไพลิน บุษราคัมอีกราวๆ 2,000 กว่าเม็ด ถูกสร้างเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง ซึ่งมีความสูงประมาณ 109 เมตร ความยาวโดยรอบประมาณ 473 เมตร รอบฐานพระมหาเจดีย์ถูกรายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ อีกร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน นับเป็นงานสถาปัตยกรรมที่งดงามหาที่เปรียบมิได้ พระมหาเจดีย์นี้ยังคงฐานะของพุทธสถานอันเป็นที่พึ่งทางใจ ของชาวพม่า ชาวไทย และต่างชาติที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา หากจะเดินทางเข้าเยี่ยมชมพระมหาเจดีย์ชเวดากองนี้ แนะนำให้มาช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพราะอากาศไม่ร้อนอบอ้าว และจะได้สัมผัสกับภาพที่แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับตัวพระมหาเจดีย์ที่มีสิทอง นั้นจะยิ่งเสริมให้เกิดความสวยงามยิ่งนัก ทั้งนี้สามารถเดินไหว้พระขอพรตามจุดต่างๆ ได้เลยค่ะ โดยจะมีพระประจำวันเกิดอยู่รอบๆ ฐานของพระมหาเจดีย์ สำหรับข้อห้ามของการเข้าเยี่ยมชมคือ ห้ามสวมรองเท้าและถุงเท้า หรือแม้กระทั่งถุงน่องของผู้หญิง ดังนั้นแนะนำให้จัดเตรียมถุงพลาสติกใบเล็กๆ เพื่อเก็บรองเท้าใส่กระเป๋าจะสะดวกต่อการเยี่ยมชม และเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าเยี่ยมชมด้วยค่ะ ก่อนลาจากเมืองเก่าอย่างย่างกุ้ง แนะนำให้แวะซื้อของฝาก ได้ที่ตลาดสก๊อต หรือ ตลาดโบ-ยก อองซาน (Bogyoke Aung San Market) ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของย่างกุ้ง โดยของขึ้นชื่อที่ตลาดแห่งนี้คือ “หยกพม่า” ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆ หลากหลายชนิดให้เลือกซื้อ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ ของฝาก ของที่ระลึก เสื้อผ้า รวมไปถึงอาหารด้วย อิ่มบุญแล้วก็ต้องอิ่มท้องด้วยค่ะ พบกันในบทความหน้านะคะ .... ภาพถ่าย โดยนักเขียน