ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2562 ที่ผ่านมา โลกของเราได้เผชิญกับภัยธรรมชาติมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อุทกภัย แผ่นดินไหวหรือไฟไหม้ป่า ความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง ล้วนประเมินค่าไม่ได้ ทั้งความเสียหายต่อมวลมนุษยชาติและความเสียหายต่อสรรพสัตว์อื่น ๆ อีกหนึ่งภัยธรรมชาติที่สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก นั่นคือ เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่ประเทศออสเตรเลียที่ก่อให้เกิดความสูญเสียกับสัตว์ป่าไปกว่าหลายร้อยล้านตัว และอีกนับไม่ถ้วนที่มีอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรง ในประเทศไทยของเรา แม้ไม่ได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบ่อยมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น แท้จริงแล้วไฟไหม้ป่าเกิดจากอะไรและจะมีวิธีป้องกันอย่างไรได้บ้าง บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับการเกิดไฟไหม้ป่าและเรียนรู้วิธีการป้องกันที่ถูกต้องกันค่ะ ไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ? การเกิดไฟป่ามี 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ 1. ไฟป่าที่เกิดโดยธรรมชาติ และ 2. ไฟป่าที่เกิดจากกระทำของมนุษย์ 1. ไฟป่าที่เกิดโดยธรรมชาติ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นใบไม้หรือกิ่งไม้ที่เสียดสีกันจนทำให้เกิดปฏิกิริยาความร้อนและเกิดการเผาไหม้ขึ้น จนลามไปเป็นไฟไหม้ป่าในที่สุด หรืออาจจะเป็นผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิด หรือแม้แต่ประกายไฟที่เกิดจากฟ้าผ่าอย่างรุนแรงจนทำให้ลุกลามเกิดเป็นไฟป่าขึ้น 2. ไฟป่าที่เกิดจากกระทำของมนุษย์ อาจเกิดจากความประมาท เช่น การทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นที่ป่าหรือการเข้าไปพักยังเขตป่าและมีการจุดไฟแล้วดับไม่สนิท การกระทำที่มาจากความตั้งใจ เช่น กรณีมีข้อขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่รัฐ จึงจุดไฟในเขตป่าเพื่อเป็นการแก้แค้น การเข้าไปหาของป่าหรือสัตว์ป่าที่ต้องมีการจุดไฟเพื่อหลอกล่อให้สัตว์ออกมาใกล้ ๆ แล้วดักจับหรือยิงสัตว์ตัวนั้น หรือแม้แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบุคคลที่อยากจุดไฟเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น โดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าได้ เราสามารถป้องกันไฟไหม้ป่าได้อย่างไรบ้าง ? ปัญหาไฟป่าจะเกิดขึ้นน้อยลงมาก ๆ หากทุกคนมีจิตสำนึกในการไม่เป็นต้นเหตุให้เกิดไฟป่า เช่น การไม่เผาป่า และมีความรับผิดชอบต่อพื้นที่ธรรมชาติต่าง ๆ ไม่สร้างความเสียหายให้แก่ธรรมชาติเมื่อต้องเข้าไปในพื้นที่นั้น ๆ เช่น ไม่ก่อกองไฟในพื้นที่ป่าหากไม่จำเป็น หรือถ้าหากมีความจำเป็นก็ต้องดับไฟให้สนิท เพื่อไม่ให้เป็นต้นเหตุแห่งการเกิดไฟไหม้ป่าขึ้น เสริมสร้างจิตสำนึกที่ดีให้แก่ลูกหลานตั้งแต่ยังเด็ก โดยการบอกเล่าถึงผลเสียและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพื้นที่ป่าและสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมในการดับไฟป่าไว้อยู่ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการดับไฟ และกำลังคนที่ต้องมีจำนวนเพียงพอ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ในการเฝ้าระวังไฟป่าที่จะเกิดขึ้น รวมถึงหากมีภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ป่าขึ้น ก็ควรมีการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่อย่างทันท่วงที สถานศึกษาต่าง ๆ ต้องให้ความรู้เกี่ยวกับป่าไม้และการเกิดไฟไหม้ป่าแก่ผู้เรียนอยู่เสมอ เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของป่าไม้ที่มีต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เขตป่าที่อยู่ใกล้กับบ้านเรือนของประชาชน ควรทำแนวกันไฟไว้อยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่มากจนแก้ไขไม่ทัน ในหลาย ๆ ครั้งที่ภัยธรรมชาติได้เกิดขึ้น เราเองไม่อาจทราบได้เลยว่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมา จะมีมูลค่ามากมายเท่าไหร่ ดังนั้น การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้อยู่คู่กับโลกใบนี้นาน ๆ จึงมีความจำเป็นมากที่สุด แม้หลายท่านอาจจะมองว่าภัยธรรมชาติบางอย่างไกลตัวเกินไป แต่หากเราได้ทำความรู้จักและเตรียมรับมือไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ก็ย่อมเป็นแนวทางป้องกันที่ดีที่สุด เครดิตภาพจาก : pixabay.com