ธรรมะสวัสดีครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย...วันนี้ผู้เขียนมีเรื่องของวัด ๆ มานำเสนออีกแล้วครับท่านรับรองว่าวัดนี้ไม่เหมือนกับวัดอื่น ๆ แน่นอนวัดที่ว่านี้ครับเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนสวยงามมากเสนาสนะภายในวัดจะเป็นรูปแบบของพระพุทธศาสนามหายาน (พระพุทธศาสนาจะแบ่งนิกายออกเป็น 2 นิกายใหญ่ ๆ คือ มหายานนิกาย และเถรวาทนิกาย จุดสังเกตง่าย ๆ ครับถ้าวัดไหนมีรูปแบบของของพระโพธิสัตว์หรือมีพุทธลักษณะของพระพุทธรูปในรูปแบบของจีน สรุปได้เลยครับนี้คือ เป็นพระพุทธศาสนามหายานนิกายแต่อย่างวัดแถวบ้านเราโดยทั่วไปอันนี้คือเถรวาทนิกาย) วัดที่ว่านี้คือ มหาวิหารจีน วัดห้วยบง วัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยบง ตำบลเขื่อนผาก อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ วัดหาไม่ยากครับทางเข้าจะติดกับถนนสายหลักเส้นเดียวกันกับไปวัดดอยแม่ปั๋ง (หลวงปู่แหวน) เมื่อพบป้ายบอกทางเข้าวัดขับตรงเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตรจะพบกับจุดหมายอย่างแน่นอนทีนี้มาดูกันว่าแต่ละจุดที่เป็นไฮไลท์มีอะไรบ้าง จุดแรก เมื่อท่านเดินทางมาถึงเมื่อจอดรถบริเวณลานจอดรถจะพบกับศาลาประดิษฐานพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมพันมือองค์สีทองสวยงามเป็นจุดแรก และบริเวณศาลาด้านข้างศาลาพระสังกัจจายน์จีนแกะด้วยหินอ่อน สำหรับพุทธศาสนิกชนมีความเชื่อว่าหากใครได้กราบขอพรพระสังกัจจายน์จะพบแต่โชคลาภ มีแต่ความสุข ไม่อด ไม่จน แคล้วคลาดปลอดภัย อย่างลืมนะครับมาแล้วก็มากราบขอพรเป็นสิริมงคลให้ได้ จุดที่สอง เมื่อเข้ามายังโซนด้านในก่อนจะขึ้นไปกราบสักการะขอพรพระในมหาวิหารท่านจะพบกับสิงโตแกะหินอ่อนเด่นสง่าอยู่หน้ามหาวิหารโดยความเชื่อของชาวจีนเชื่อว่าสิงโต มังกร กิเลน เป็นสัตว์เทพเจ้า เป็นสัตว์นำโชคซึ่งคอยปกปักรักษาคุ้มครองผู้มาขอพรให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง ไม่จน ไม่เจ็บ ถัดมาจะพบกับน้ำเต้าใบใหญ่สีเขียวหรือผู้เขียนเองเรียกว่า น้ำเต้าดูดทรัพย์ ผู้เขียนทราบมาว่าคนจึนมักจะทำวัตถุมงคลเป็นสัญลักษณ์รูปน้ำเต้าห้อยกับสายสร้อยเพื่อเป็นการเพิ่มพลังชีวิต เรียกทรัพย์ เรียกความร่ำรวย นอกจากนี้ผู้เขียนขอบอกวิวตรงนี้สวยมากหากท่านมองลงไปด้านล่าง......(ลืมบอกไปครับวัดจะอยูบนเขาแต่ไม่สูงมาก) จุดที่สาม ก่อนเข้าสูมหาวิหารจีนอีกจุดหนึ่งด้านบนจะพบกับพระพรหมสี่หน้าองค์สีทองขนาบด้านซ้ายขวาด้วยเทพจีนสององค์ (ผู้เขียนว่าแปลกดีครับแต่มีความลงตัว) คือ พระพรหมนั้นเป็นความเชื่อของศาสนาพราหมณ์แต่เทพเจ้าสององค์นั้นน่าจะเป็นความเชื่อของพุทธฝ่ายมหายานแต่ทางวัดนำมาตั้งประดิษฐานอยู่ด้วยกันได้ (ในส่วนของพระพรหมสี่หน้านี้ในทางพระพุทธศาสนานำมาเปรียบเทียบเป็นเชิงอุปมาในหลักของพรหมวิหารธรรม 4 ประการ ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) ตรงนี้อย่าลืมกราบขอพรก่อนเข้าไปในพระวิหารนะครับ... จุดที่สี่ ภายในมหาวิหารหลังแรกท่านจะพบกับพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ประดิษฐานกลางมหาวิหารรายล้อมไปด้วยพระพุทธรูปปางต่าง ๆ เท่าที่ผู้เขียนสังเกตจะพบกับพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะแบบไทย และจีนเท่าที่พอจะรู้จักได้แก่ มีเจ้าแม่กวนอิม พระพุทธเจ้าน้อย พระพุทธรูปปางห้ามญาติ เทพจีน พระโพธิสัตว์จีน เป็นต้น สวยงามมากท่านสามารถเข้าไปกราบขอพร และบันทึกภาพได้ผู้เขียนรับรองสวยงามพระรามเก้ามาก...อ่อ ภายในมหาวิหารแห่งแรกนี้จะมีตู้จำหน่ายของที่ระลึกด้วยนะครับหากท่านต้องการจะเช่า บูชาของที่ระลึกสามารถเรียกเจ้าหน้าที่ที่คอยให้บริการได้ จุดที่ห้า ภายในมหาวิหารหลังที่สองท่านจะพบพระพุทธรูปตามโซนต่าง ๆ องค์ใหญ่สีทองเท่าที่ผู้เขียนรู้จักจะมีพระสังกัจจายน์จีน พระพุทธรูปปางนาคปก พระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม พระศรีอริยเมตไตรย์ (ซีอาน) สวยงามอลังการจริง ๆ ครับภายในมหาวิหารเงียบ สงบมาก เมื่อเข้ามาอยู่บริเวณด้านในแทบจะไม่ได้ยินเสียงด้านนอกเลยหากเปล่งเสียงสวดมนต์จะก้องกังวานชัดเจน (ประมาณว่าเวลาสวดมนต์เสียงจะก้องเหมือนมีคนร่วมสวดด้วยเป็นสิบคน...) ท่านสามารถกราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัวได้ บริเวณบรรยากาศโดยรอบพระวิหาร เสาพ่อฟ้าแม่ดิน ข้างมหาวิหารจีนที่ให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ขอพรฟ้าดิน เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต.... มากันให้ได้นะครับวัดแห่งนี้หากขึ้นมาอยู่ด้านบนวัดท่านจะมองเห็นความงามด้านล่างทำให้เห็นบ้านเรือน ทุ่งนา ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูง หากมองย้อนกลับมายังมหาวิหาราจะพบกับความสวยงามอลังการเหมาะอย่างยิ่งกับการเดินทางมาพักผ่อน ทำบุญในวัดหยุด ผู้เขียนรับรองเลยว่า...อิ่มทั้งอาหารตา และอิ่มทั้งบุญมากันให้ได้นะครับถ้าพลาดแล้วจะเสียใจน้า....สำหรับวันนี้ไปละครับ...สวัสดีครับ เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)