มองหาให้มองเห็นคุณค่าที่เป็นอยู่ (บทความสุขภาพจิต) เมื่อวันแม่แห่งชาติ ผู้เขียนได้พาแม่ไปทำบุญไหว้พระที่วัดหลายแห่ง เพราะการได้ไปทำบุญในวัดที่สวยงามและนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ที่ร่มรื่นภายในวัดคือความสุขของทั้งแม่และลูกที่รู้สึกตรงกัน เมื่อผู้เขียนได้เลี้ยวรถพาแม่เข้าไปในวัดป่าแห่งหนึ่ง ก็เห็นผู้คนที่ขับรถมาแต่ละคันต่างพาแม่มาเที่ยวและทำบุญในวันแม่แห่งชาติเช่นกัน แม่ลูกทุกคู่ล้วนแต่งตัวดีสวมใส่เครื่องประดับสวยงามและขับรถหรูหรากันแทบทั้งสิ้น หลังจากที่ผู้เขียนจอดรถแล้วจึงพาแม่ไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ก่อนจะเข้าไปทำบุญในพระวิหาร และขณะที่กำลังนั่งรอแม่ที่ใต้ต้นไม้อยู่นั้น ผู้เขียนก็พบกับหญิงสูงวัยคนหนึ่งอายุประมาณ 70กว่าปี สวมเสื้อสีขาวขุ่นนุ่งผ้าถุงลายดอกเก่าๆ เธอมีสีหน้าหม่นหมองขณะที่กำลังจ้องมองรถหรูหราคันแล้วคันเล่าที่บรรดาลูกๆขับพาแม่ของตัวเองมาทำบุญไหว้พระที่วัดดังกล่าว ผู้เขียนเห็นผู้สูงอายุคนนี้นั่งอยู่คนเดียวจึงรู้สึกสงสารขึ้นมาอย่างจับใจและได้เข้าไปสนทนาด้วยผู้เขียน “สวัสดีครับคุณยายมาทำบุญหรือครับ”สตรีสูงวัย “ยายก็ไปๆมาๆที่วัดนี้เสมอแหละจ้า”ผู้เขียน “ยายมากับใครหรือครับ”สตรีสูงวัย ไม่ตอบแต่หันหน้ามามองผู้เขียนแล้วพูดว่า “ดูคนเหล่านั้นสิ เขาช่างโชคดีและมีบุญกันจริงหนอ เกิดมาก็มีโอกาสได้ร่ำเรียนหนังสือดีๆมีงานทำมีเงินทองร่ำรวยได้ขับรถสวยๆพาแม่มาเที่ยวกัน คุณก็คงพาแม่มาทำบุญด้วยเหมือนกันใช่ไหมคะ”ผู้เขียน มองคุณยายอย่างใส่ใจและตอบว่า “ใช่ครับ”สตรีสูงวัย “แล้วคุณเรียนหนังสือจบจากที่ไหนและทำงานอะไรหรือ”ผู้เขียน “ผมเรียนจบหลายแห่งครับ วิทยาลัยพยาบาล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยสงฆ์และอีกหลายแห่งและปัจจุบันก็รับราชการอยู่ครับหญิงสูงวัย “แหม ! ช่างโชคดีจังเลยที่มีโอกาสดีๆและเป็นบุญจริงๆ แต่ยายกับลูกของยายนี่สิมีบุญน้อย โชคไม่ค่อยดี ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เงินทองก็ไม่ค่อยจะมีส่งลูกเรียน จึงให้ไปบวชเป็นสามเณรตั้งแต่จบชั้นป.สี่เมื่อเขาอายุได้ 10 ขวบ เห็นคนโน้นคนนี้เขาโชคดีมีบุญกันก็จึงอดคิดเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้”ผู้เขียน “คุณยายกำลังรู้สึกว่าตัวเองกับลูกโชคไม่ดีและรู้สึกไร้คุณค่า”สตรีสูงวัย ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ใช่ๆใช่แล้วคะคุณ”ผู้เขียน “แต่ผมกลับรู้สึกว่าคุณยายและลูกเป็นคนที่โชคดีและมีบุญที่ยิ่งใหญ่มากๆครับ” สตรีสูงวัยหันหน้ามามองผู้เขียนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถามแต่ไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกมาผู้เขียน “ คุณยายครับ คุณยายเป็นแม่ผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่มากเพราะคุณยายยอมทิ้งความสุขส่วนตัวที่ควรจะได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกชายหลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ แต่กลับเสียสละให้ลูกมาบวชในพระพุทธศาสนา ซึ่งก็เท่ากับว่าคุณยายได้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่แม่พึงมี นั่นคือให้ทานลูกชายเป็นทายาทผู้สืบทอดพระศาสนาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณยายเป็นคุณแม่ที่ประเสริฐ มีน้ำใจและได้ทำบุญครั้งใหญ่ที่สุดเลยครับ เพราะการที่พระพุทธศาสนาจะสืบทอดต่อไปได้นั้นจะต้องมีพระสงฆ์อยู่เสมอ และการที่มีลูกเป็นพระนั้นก็ถือเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีบุญใดที่แม่คนอื่นๆจะได้อย่างเช่นคุณยาย คุณยายทราบมั้ยครับว่าสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกนั้นผูกพันกันเสมอ ในเมื่อคุณยายมีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงถึงลูกที่เป็นพระสงฆ์ ก็ถือว่าอยู่ในดินแดนแห่งบุญหรือที่เป็นภาษาบาลีกล่าวว่า ปุญญักเขตตัง ดังนั้นคุณยายจึงได้อยู่ในเขตแห่งบุญเสมอกับลูกที่บวชเป็นพระนั่นเองครับ” สตรีสูงวัยมองผู้เขียนและตั้งไจฟังอย่างสงบ ผู้เขียน “แม่ลูกหลายคนที่คุณยายเห็นขับรถหรูหรามาทำบุญในวันนี้ บางคนอาจมีลูกเป็น ข้าราชการ เป็นทนายความ เป็นตำรวจ เป็นนักธุรกิจหรืออื่นๆอีกเยอะแยะ แต่แม่เหล่านั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นเพียงแม่ของคนธรรมดาอยู่ดี มีแม่เพียงไม่กี่คนหรอกครับที่จะมีโอกาสยิ่งใหญ่ได้เป็นแม่พระหรือแม่ของพระสงฆ์อย่างที่คุณยายเป็นอยู่ ดังนั้นคุณยายกับลูกจึงมีบุญยิ่งใหญ่กว่าแม่ลูกคู่ใดๆครับ” สตรีสูงวัยมองหน้าผู้เขียนด้วยแววตาที่รู้สึกยินดีและอมยิ้มอยู่ที่ริมฝีปาก เมื่อแม่ของผู้เขียนทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ผู้เขียนจึงบอกลาคุณยายคนดังกล่าว แล้วจึงจูงมือแม่เดินเข้าไปไหว้พระและถวายสังฆทานพร้อมปัจจัยสร้างโบสถ์ต่อพระสงฆ์ที่นั่งอยู่ในพระวิหาร หลังจากรับพรพระเรียบร้อยแล้วผู้เขียนกับแม่ก็เดินมายังที่จอดรถ เพื่อจะออกเดินทางไปยังวัดอื่นต่อไป ขณะที่ผู้เขียนกำลังถอยรถออกจากถนนภายในวัดนั้น ก็พบกับคุณยายท่านเดิมกำลังยืนโบกมือเรียกผู้เขียนอยู่ ผู้เขียนจึงชะลอรถแล้วเลื่อนกระจกลงเพื่อพูดคุยด้วยสตรีสูงวัย “ขอบคุณมากนะคะที่มาทำบุญกับลูกชายของแม่พระ ยายรู้สึกดีมากเลยที่ได้พบกับคุณ”ผู้เขียน “ขอบคุณเช่นกันครับคุณยายแม่พระ ขอให้คุณยายมีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนและมีชีวิตอยู่กับลูกพระไปนานๆนะครับสตรีสูงวัย ส่งยิ้มให้ผู้เขียนด้วยสีหน้าแววตาที่เบิกบาน ก่อนที่ผู้เขียนจะขับรถออกจากวัดแห่งนั้นไป ผู้เขียนมีความรู้สึกยินดีและรู้สึกเป็นบุญอย่างยิ่ง ที่ได้ชี้ชวนคุณยายคนดังกล่าวให้มองเห็นคุณค่าของตนเองและลูกได้ บางครั้งคนเราก็มักยึดติดกับคุณค่าของวัตถุนิยม เช่นแต่งตัวสวย นั่งรถหรู มีบ้านหลังใหญ่โต จนลืมคุณค่าสูงส่งภายในจิตใจและคุณงามความดีอื่นๆที่มีอยู่ในตนเองไปเสียสนิทเลย “แล้ววันนี้ คุณผู้อ่านค้นหาจนมองเห็นคุณค่าดีๆในชีวิตกันบ้างแล้วหรือยัง”ภาพปกจาก : JCK5D / pixabayภาพที่1จาก: tyler_clemmensen / pixabayภาพที่2จาก : Michelleraponi / pixabay ภาพที่3จาก : trilemedia /pixabay ภาพที่4จาก : ผู้เขียนรศ.ดร.วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์ นักวิชาการสื่อสารสุขภาพจิตและศาสนาปรัชญานักเขียนสำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,มติชน,อมรินทร์ธรรมะ,ซีเอ็ด,ดีเอ็มจีและวิชบุ๊คประธานสถาบันพัฒนาบุคลากรwuttipong academy ,ไอดีไลน์ac6555 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !