เคยไหมที่สั่งกิมจิโฮมเมดเนื่องจากมีราคาที่ถูกและมีปริมาณเยอะ พอสั่งมาแล้วเจอปัญหาถุงรั่วถุงพองถุงแตก รสชาติที่เปรี้ยวเกินไป บางครั้งมีกลิ่นตุๆเสียหรือเปล่านะ เราจึงตัดสินใจทำเองดีกว่าไหม แต่เราก็รู้แหละว่าวัตถุดิบที่ใช้ทำซอสหมักกิมจิค่อนข้างเยอะและยุ่งยากต้องซื้อของใหม่หมดต้องใช้เครื่องปั่นอีก หากเราอยู่หอหรืออพาร์ทเม้นท์อุปกรณ์ก็มีไม่เพียงพอที่เก็บอุปกรณ์ก็น้อยไม่มีที่เก็บที่วาง เรามองว่าไม่คุ้มถ้าจะซื้อทุกอย่างมาทำกินเองเพียงครั้งคราว แล้วเราควรทำอย่างไงหล่ะ? ในสมัยปัจจุบันนี้ไม่ว่าอะไรก็หาซื้อง่ายไปหมด นอนอยู่บ้านสวยๆก็เข้าแอพกดสั่งจ่ายจบกันเป็นประจำอยู่แล้ว แม้กระทั้งซอสสำเร็จรูปในการทำกิมจิก็ยังมีขาย แบบนี้ชีวิตก็ง่ายขึ้นนะสิ เราแค่ซื้อผักอย่างเดียวเอง เราจึงจัดการซื้อซอสทำกิมจิมาซึ่งมีหลายสูตรมาก เราเลือกสูตรคีโต (ดูแลสุขภาพสุดๆ อิอิ) ปริมาณ 300 กรัม สามารถทำกิมจิได้ 1 กิโลกรัม เริ่มทำกิมจิกันเถอะ 1. เตรียมผักตามใจชอบ แล้วแต่เลยว่าแต่ละคนชอบทานผักอะไรไม่มีตายตัว สิ่งที่เราเตรียมมีดังนี้ ผักกาดขาว 2 หัวขนาดกลาง หนักประมาณ 1.2 กิโลกรัม แครอท 1 หัวเล็ก แตงกวาญี่ปุ่น 1 ลูก หัวไชเท้า ¼ หัว ต้นหอมประมาณ 4 ต้น เกลือ หั่นผักกาดขาวตามรูปภาพและใช้มือดึงออก (อย่าตัดให้ขาด) เพราะจะทำให้ผักที่ใช้มีดหั่นมีชิ้นที่เล็กและไม่ติดอยู่ในก้านผัก ทำให้มีเศษผักชิ้นเล็กๆแทนที่จะเป็นชิ้นใหญ่ๆ และหั่นแครอท แตงกวาญี่ปุ่น หัวไชเท้า ต้นหอม เป็นเส้นๆขนาดประมาณ 2 นิ้ว 2. ทำผักให้อ่อนตัวคลายน้ำโดยการทาเกลือ สำหรับผักกาดขาวให้ทาเกลือทีละใบ โรยเกลือกับผักอื่นๆด้วย ยกเว้นต้นหอม (การทำให้ผักคลายน้ำโดยเกลือนั้นเพื่อให้ผักมีความยืดหยุ่นไม่แตกหักให้คงสภาพชิ้นที่สวยงาม และยังช่วยลดการคลายน้ำจากผักระหว่างการหมักดองของกิมจิกับตัวซอสทำให้การเสียรสชาติของซอสน้อยลง) หลังจากนั้นพักทิ้งไว้จนผักไม่กรอบค่ะ แล้วล้างน้ำออกเป็นการล้างเกลือออกไปและบีบน้ำออกให้หมด พักให้สะเด็ดน้ำ 3. นำผักทั้งหมดยกเว้นผักกาดขาวผสมเข้ากับซอสกิมจิสำเร็จรูปให้เข้ากันก่อน จากนั้นนำผักกาดขาวมาทาซอสกิมจิที่ผสมไว้ทีละใบให้ครบทุกใบ และใส่โหลที่เตรียมไว้ (เราแนะนำให้เป็นโหลแก้ว เนื่องจากตัวกิมจิมีความเปรี้ยวอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนกับภาชนะได้ และหากเราทานเข้าไปไม่ดีแน่ๆ) ยัดผักให้แน่นไล่อากาศออกให้หมดปิดฝา (อย่าใส่กิมจิให้เต็มโหลให้เหลือพื้นที่ไว้ เนื่องจากระหว่างการหมักตัวของกิมจิ จะเกิดฟองอากาศและทำให้ตัวผักพองขึ้นมา จะทำให้ล้นโหลออกมาได้) หลังจากนี้ให้ทิ้งตัวกิมจิไว้อุณหภูมิห้องประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนนำไปแช่ตู้เย็น 1 คืน วันรุ่งขึ้นเราสามารถทานได้เลย ตัวกิมจิจะมีความเปรี้ยวนิดหน่อย แต่ถ้าหากอยากให้กิมจิเปรี้ยวมากๆทิ้งไว้อุณหภูมิห้อง 1 คืนก่อนนำไปแช่ตู้เย็นค่ะ ง่ายไหมล่ะ ง่ายสิแค่เตรียมผัก คนๆ ผสม เสร็จ เย่ ง่ายตรงที่เราไม่ต้องทำซอสหมักกิมจิเองนี่แหละ ถามว่าซื้อซอสสำเร็จรูปจากไหน ตามแอพขายของออนไลน์ต่างๆเลยค่ะมีหลายเจ้าเลย และมีซอสกิมจิหลายรสชาติด้วย แต่ก็อ่านรีวิวกันดีๆนะคะว่าร้านนี้ทำซอสออกมาอร่อยไหม แต่เราทำเองก็เชื่อมั่นได้อย่างนึงว่าผักที่เรานำมาใช้สะอาดปลอดภัยแน่ๆ