ภาพปกจาก Pexels เชื่อว่าทุกวันนี้น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Dreamcatcher หรือ Dream Catcher เครื่องรางที่ใช้ป้องกันฝันร้าย ซึ่งปัจจุบันนี้กลายมาเป็นสินค้าในรูปแบบแฟชั่น หรือแม้แต่เครื่องประดับต่าง ๆ ก็นำ Dreamcatcher มาเป็นไอเดียในการออกแบบ เช่น ต่างหู สร้อยคอ พวงกุญแจ และคนส่วนใหญ่มักจะใช้เจ้า Dreamcatcher มาประกอบการแต่งตัวแนววินเทจหรือแม้แต่แนวโบฮีเมียนที่เห็นได้บ่อย ๆ วันนี้เราจึงอยากจะชวนเพื่อน ๆ ที่ไม่รู้จักและแม้แต่เพื่อน ๆ ที่รู้จักมันอยู่แล้วมาทำความรู้จักมันให้มากขึ้นไปอีกกันดีกว่า! Dreamcatcher เป็นเครื่องรางที่ชาว Ojibwa ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองในสมัยโบราณที่อาศัยอยู่ในอเมริกาก่อนที่จะมีการค้นพบดินแดนโดยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสใช้แขวนบนเปลของเด็กแรกเกิดหรือทารกเกิดใหม่ เพื่อป้องกันเด็กและชาวพื้นเมืองทุกคนจากฝันร้ายและสิ่งชั่วร้าย ไอเดียแรกของ Dreamcatcher มาจากการที่แมงมุมถักทอใย ซึ่งสามารถดักจับสิ่งต่าง ๆ ได้ ทำให้โครงร่างที่เรามักจะเห็นตัว Dreamcatcher มีลักษณะเดียวกันกับใยแมงมุมภาพจาก Pexels ในอดีต Dreamcatcher จะประกอบไปด้วยห่วงที่ได้จากกิ่งต้นวิลโลว์ (แบบเดียวกันกับต้นวิลโลว์จอมหวดในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์เลยนะ) เชือกหรือเส้นเอ็น ขนนก และลูกปัดต่าง ๆ ในบางพื้นที่ Dreamcatcher สำหรับผู้ใหญ่จะไม่ใช้ขนนกล่ะ แต่ในส่วนของ Dreamcatcher ที่พบในปัจจุบัน เรามักจะพบแบบที่มีการตกแต่งมากกว่าแบบดั้งเดิม โดยที่บางอันก็ไม่มีรูตรงกลาง บางอันมีรูปร่างที่ไม่เหมือนเดิม ไม่ได้มีโครงร่างหลักเป็นวงกลมก็มีให้เห็นได้ทั่วไปภาพจาก Pixabay หลายคนคงจะรู้อยู่แล้วว่าแนวคิดหรือหัวใจหลัก ๆ ของการแขวน Dreamcatcher ไว้ที่หัวเตียงคือการป้องกันและดักจับฝันร้าย แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีการของมันเป็นอย่างไร? เวลาที่เรานอน หากมีฝันร้ายเข้ามา ฝันร้ายจะถูกดักไว้ในตาข่ายทำให้เข้าฝันไม่ได้ และจะหายไปเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ส่วนฝันที่ดีจะเข้ามาผ่านรูตรงกลางของตัว Dreamcatcher ทำให้เรานอนหลับฝันดีนั่นเองภาพจาก Unsplash ทุกวันนี้ Nonguji ก็เห็นว่ามีหลาย ๆ คนประดิษฐ์เจ้า Dreamcatcher ขึ้นมาเองแบบง่าย ๆ โดยใช้อุปกรณ์ที่หาได้ตามท้องตลาด ทั้งประหยัดเงินและยังสามารถใส่ไอเดียในการเลือกสีหรือรูปร่างที่ต้องการได้เอง หรือแม้แต่คนที่อยากจะหาซื้อก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพราะเดี๋ยวนี้ Dreamcatcher มีอยู่ตามร้านค้าต่าง ๆ และร้านค้าออนไลน์ด้วยนะ เราเลยอยากชวนให้เพื่อน ๆ ลองหา Dreamcatcher มาลองแขวนที่หัวเตียงกันดูซักอัน จะได้รู้ว่าจะฝันดีหรือฝันร้ายกันแน่!ภาพจาก Unsplash