ยาต้านไวรัส โควิด-19 นั้นมีหลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับองค์กรสาธารณะสุขและการแพทย์ของแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่นประเทศไทย ได้มีการใช้ยาต้านไข้มาลาเลีย ควบคู่กับยาต้านไวรัสเอชไอวี ในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 https://pixabay.com/th/ โดยในสภาวะการณ์ปกติ ยา Hydroxychloroquine ใช้ในการรักษาไข้มาลาเลีย โรคลูปัส (lupus) และโรคฟอร์ไฟเรีย (porphyria) โดยประเทศอินเดียเป็นประเทศที่ผลิตยาชนิดนี้ออกสู่ตลาดมากที่สุดในโลก https://pixabay.com/th/ โดยในส่วนของประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2563 ประธานาธิบดี Donald Trump ถึงกับมีการใช้อำนาจทางการเมืองกับประเทศอินเดียในการส่งมอบยา ที่ชื่อว่า Hydroxychloroquine มาให้สหรัฐ หลังจากที่ทางอินเดียประกาศระงับการส่งออกยาดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ทั่วโลกต่างมีคำถามว่าทำไม โดนัล ทรัมพ์ถึงต้องการยาชนิดนี้อย่างมาก ทั้งที่ยาชนิดอื่นก็มีประสิทธิภาพในการรักษาได้เช่นกัน ทาง CNN รายงานว่า เหตุผลประการแรกเลยทางทีมงานแพทย์ที่ปรึกษาของนายทรัมพ์ ได้ให้การสนับสนุนถึงสรรพคุณด้านดีของยาชนิดนี้ โดยอ้างอิงมาจากผลงานวิจัยของนักวิจัยชาวฝรั่งเศส นอกจากนี้ทางทีมวิจัยของสหรัฐเองพบว่า 6 ทีม จากทั้งหมด 15 ทีม เห็นตรงกันในเรื่องประสิทธิผลของการรักษาอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ก็ยังต้องรอผลการทดสอบในผู้ป่วยที่มากกว่านี้ https://pixabay.com/th/ นอกจากนี้ทางทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกาเองก็ออกมาโต้แย้งถึงการจะนำยาชนิดนี้มาใช้ในการรักษา เพราะว่างานวิจัยเกี่ยวกับผลของยาชนิดนี้ยังไม่มากพอที่จะใช้ตัดสินใจ อาทิเช่น Henry Ford Health System ในรัฐ มิชิแกน, มหาวิทยาลัยวอชิงตัน, Baylor Scott & White Health จากรัฐเทกซัส, มหาวิทยาลัยเวนเดอร์บิท ในรัฐเทนเนสซี่ และ Basset Healthcare และมหาวิทยาลัยดุ๊ก ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สถาบันวิจัยทั้งหลายต่างได้ออกมาชี้แจงว่าการทำการทดลองเพื่อให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือนั้น ต้องศึกษาในผู้ป่วย 2,000 ถึง 3,000 ราย และใช้เวลานานถึงสี่เดือนเลยทีเดียวกว่าจะได้ข้อมูลครบถ้วนและน่าเชื่อถือ ซึ่งต่างจากการที่ทรัมพ์ได้ออกมาชี้อแจงต่อสื่อเมื่อวันที่ 4 เมษายน ว่าใช้เวลาแค่ 3 วันก็จะได้รับข่าวดีแล้ว https://pixabay.com/th/ นอกจากนี้ยา Hydroxychloroquine ยังมีอันตรายหรือผลข้างเคียงจากการใช้ยา โดยพบว่ายาชนิดนี้เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยบางรายเสียชีวิตอย่างกระทันหันด้วยสภาวะหัวใจล้มเหลว และอาการสูญเสียการมองเห็นแบบถาวรด้วยค่ะ ส่วนงานวิจัยจากสถาบันนักวิจัยในฝรั่งเศสที่มีการตีพิมพ์ผลการรักษาอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยยา Hydroxychloroquine นั้นทางเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาได้มีการตรวจสอบ แล้วพบว่าเป็นสถาบันวิจัยขนาดเล็ก ส่วนรายงานการวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วนั้นอาจจะต้องนำมาพิจารณาแก้ไขใหม่อีกครั้งด้วยค่ะ ที่มา https://edition.cnn.com/2020/04/08/health/drug-hydroxychloroquine-french-study/index.html