ขนมอิ่วก้วย ขนมจีนโบราณซึ่งคนจีนแต้จิ๋วเป็นผู้นำเข้ามาจากประเทศจีนตั้งแต่ยุคจีนโพ้นทะเลข้ามน้ำนั่งเรือมา โดยมีอาม่าเป็นผู้เล่าเรื่องว่าคนจีนยุคเก่าก่อนมักทำขนมอิ่วก้วยขึ้นใช้ในการไหว้เจ้าถือเป็นขนมมงคลและทำสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยเฉพาะใช้ในวันขอบคุณเจ้าที่ปึงเถ่ากง ที่ได้คุ้มครองให้สมาชิกในครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขึ้น กิจการเจริญรุ่งเรือง สมัยก่อนคนจีนทำเกษตรปลูกข้าว ก็จะเก็บข้าวเหนียวส่วนหนึ่งไว้โม่แป้งแล้วนำมาทำขนมนวดกับมันบด ข้างในมีใส่ไส้ ถั่ว ไส้เผือก ไส้ผัก ไส้มะพร้าว แล้วปั้นเป็นรูป สามเหลี่ยมบ้าง ยาว รี บ้าง ทรงกลมมักใช้กับไส้ผัก ก่อนนำไปทอดในกะทะ ที่มีน้ำมันร้อนจัด จนเหลืองสีสวยน่ารับประทาน วิธีทำออกจะยุ่งยากต้องเตรียมเครื่องกันเป็นวันๆกว่าจะทำเสร็จ ผู้ปั้นต้องมีฝีมือในการปั้น ขนมจึงจะออกมาสวย ซึ่งไม่ค่อยจะมีคนทำขาย ในปัจจุบันจะมีก็ที่ตลาดเยาวราช ถนนแปลงนาม ศาลเจ้าพ่อเสือ แหล่งที่มีชาวจีนอยู่จำนวนมาก เพราะคนจีนหลังไหว้เจ้าเสร็จจะนำมารับประทานกับน้ำชา เป็นอาหารว่าง ทั้งยังเป็นขนมที่ใช้เชื่อมความสามัคคีในชุมชนด้วย ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ถ้าบ้านไหนทำพิธีไหว้เจ้าประจำปี ปีละ1ครั้ง ซึ่งจะอยู่ช่วงปลายปี ตั้งแต่เดือน 11-12 แต่ต้องไหว้ก่อนไหว้ขนมบัวลอย ก็จะนำขนมอิ่วก้วยพร้อมกับเป็ดไก่ ผลไม้ไปให้เพื่อนบ้านรับประทานด้วยเป็นการแลกเปลี่ยน แต่คนรุ่นใหม่น้อยคนนักจะรู้จักขนมชนิดนี้ เพราะวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาเยอะ ทำให้ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษค่อยๆเลือนหายไป คนจีนรุ่นใหม่ รุ่นหลานเหลน แทบจะไม่รู้จักประเพณีไหว้เจ้าประจำปีหรือเรียกตามภาษาจีนว่า ไป่เสี่ยซิ้ง เพราะต้องตระเตรียมเครื่องไหว้หลายอย่าง ยุ่งยากเหน็ดเหนื่อยกว่าจะทำขนมเสร็จหรือ ไปเที่ยวหาซื้อก็ยาก เพราะแทบจะไม่มีให้เห็น เสียเวลาทำงานทำการ คนรุ่นใหม่จึงไม่นิยมไหว้สักเท่าไร? จะมีก็ในชุมชนคนจีนที่ยังหลงเหลืออยู่และตามศาลเจ้าต่างๆ และขนมอิ่วก้วยก็ยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ถ้าไม่มีคนจีนมาซื้อก็จะขายยากด้วยเป็นขนมที่ทำด้วยแป้งข้าวเหนียว เวลาเคี้ยวจะรู้สึกเหนียว และมันด้วยนำ้มันที่ทอด ขนมอิ่วก้วยนอกจากจะใช้ไหว้เจ้าประจำปีแล้วในวันไหว้เจ้าธรรมดา ที่ถือเอาวันชิ้วอิ๊ก วันที่1ตามปฏิทินจีน กับวัน จับโหงว คือวันที่15ตามปฏิทินจีน เป็นวันไหว้เจ้าของชาวจีนก็ยังใช้ไหว้เจ้าได้ด้วย แล้วแต่จะสะดวกหรือพอมีเวลาว่าง คนจีนรุ่นอาม่า กลัวลืมสูตรขนม ก็จะสอนลูกหลานให้ทำและก็เล่าประวัติประเพณีที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษเมืองจีน อีกทั้งยังเป็นขนมที่ฮ่องเต้ใช้เสวยเป็นอาหารว่าง ยิ่งได้กินกับน้ำชาร้อนๆยิ่งเพิ่มรสชาติ ให้กับการกิน คนจีนเก่าแก่ กลัวประเพณีไหว้เจ้าประจำปี (ไป่เสี่ยซิ้ง) จะถูกลบเลือนไป จึงต้องพยายามถ่ายทอดการทำขนมอิ่วก้วยพร้อมที่มาเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักถึงที่มาและวิธีทำ แม้ขนมชนิดนี้จะหาทานยากในปัจจุบัน เนื่องด้วยเวลาทำจะเลอะฝุ่นแป้งและต้องทำด้วยมือทุกอย่างห้ามใช้เครื่องนวดเครื่องปั่นไฟฟ้าไม่ได้เด็ดขาดเพราะจะทำให้ปั้นออกมาเป็นรูปไม่ได้ พื้นก็จะมีแต่คราบน้ำมันสกปรกทั้งใช้เวลานานกว่าจะทำเสร็จเรียกว่าเหนื่อยทั้งวันเลยทีเดียวจึงไม่ค่อยจะมีคนอยากทำแต่ถ้าพูดถึงความอร่อยเรียกว่าของโบร่ำโบราณก็อร่อยไม่แพ้เบเกอรี่ในร้านกาแฟเรียกได้ว่าถ้าจะกินน้ำชาก็ต้องขนมอิ่วก้วย ภาพหน้าปกกับภาพสุดท้ายถ่ายที่บ้านอาม่าผู้เขียน ภาพที่ 1, 2, 3,4,5,6,7 ถ่ายที่ร้านอาม่า ตลาดเยาวราช