มิวเซียมลำปาง (Museum Lampang) ถือพื้นที่การเรียนรู้สร้างสรรค์แห่งใหม่ของจังหวัดลำปาง ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังศาลหลักเมืองลำปาง เป็นพื้นที่ในการส่งเสริมการอ่าน และการเรียนรู้ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และประเพณี ตลอดจนปลูกฝังทักษะการเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็ก เยาวชน รวมถึงประชาชนชาวไทยทุกท่านมิวเซียมลำปาง ได้แบ่งพื้นที่การเรียนรู้ออกเป็น 3 ส่วน คือ นิทรรศการถาวร โดยแผนผังการจัดแสดง มีด้วยกัน 16 จุด นิทรรศการหมุนเวียน และห้องสมุด TK Museum Lampang วันนี้เราจะพาผู้อ่านทุกท่าน “ย้อนเวลา” นั่งไทม์แมชชีนไปสู่อดีตอีกครั้ง ผ่านสถานที่แห่งนี้ มิวเซียมลำปางจุดที่ 1 ก่อร่างสร้างลำปาง (Building Lampang City) เมื่อชะเง้อมองเข้าไปยังประตูบานแรก มือจับประตู สองเท้าก้าวย่างสู่พิพิธภัณฑ์ สิ่งที่ทำให้สะดุดตาเป็นอันดับแรก คือ แสงที่ทอลอดออกมาจากรูปปั้นสีขาวนวล แต่ทว่าเมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ ๆ รูปปั้นที่ดูไร้การเคลื่อนไหว กลับดูเหมือนมีชีวิตอีกครั้ง จากการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ... กล่าวได้ว่า แต่ละบุคคลล้วนมีความสำคัญในการพัฒนาเมืองลำปาง ตั้งแต่อดีตกาล ร้อยเรียงมาจนถึงปัจจุบันอย่างมาก เป็นประตูบานแรก ที่ทำให้เราอยากรู้ตำนานบทต่อไปของเมืองลำปางยิ่งขึ้นจุดที่ 2 เปิดตำนานอ่านลำปาง (Legends of Lampang) จุดที่สอง จะพาเราไปตะลุยตำนาน เรื่องราว ประวัติศาสตร์ผ่านการอ่าน หนังสือที่ติดอยู่กับผนังกำแพง เป็นหนังสือที่มีขนาดเล่มโต ปกแข็ง ภาพสีชวนอ่าน ไม่ว่าจะเป็น วัด เมือง ย่าน วีรบุรุษ ทุกอย่างล้วนถูกร้อยเรียงมาเป็นตำตาน ที่มีเรื่องราวซ่อนอยู่ในแต่ละเนื้อหา รู้สึกประทับใจกับภาพการ์ตูนที่สวยงาม สร้างสีสัน เปิดโลกจินตนาการให้กับเราไม่น้อยจุดที่ 3 ผ่อผาหาอดีต (Black to the Past) จุดนี้เป็นอีกจุดที่ประทับใจ และชื่นชอบมาก เพราะเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยังอดีตอีกครั้ง เป็นจุดที่นำเราไปรู้จักจังหวัดลำปางแบบลงลึกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การค้นพบฟอสซิลมนุษย์เกาะคา (โฮโม อิเรคตัส) อายุอย่างน้อย 500,000 ปี ภาพเขียนสีที่ช่องประตูผา และหลุมฝังศพ ที่มีอายุมากกว่า 3,000 ปี มีความยาวกว่า 300 เมตร ถือว่าเป็นภาพเขียนสี ที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย บ่งชี้ได้ว่า พื้นที่ของจังหวัดลำปาง เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่บรรพกาล อีกทั้งจุดที่ 3 นี้ ทำให้เราได้รู้ว่า... “มนุษย์เกาะคา หน้าตาเป็นอย่างไร ?”จุดที่ 4 ประตูโขงโยงรากเหง้า (Pratu Khong, Roots of Lampang) เมื่อเราได้ก้าวเท้า "ลอดซุ้มประตูโขง วัดพระแก้วดอนเต้า" หากสังเกตดี ๆ เราจะเห็นลวดลายที่ละเอียดงดงามบนกำแพง สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ประตูบานอื่น ๆ เป็นการบอกเราว่า จุดที่ 4 นี้ กำลังจะพาเราเข้าสู่ เมืองลำปางรุ่นแรกอย่าง เมืองเขลางค์นคร ถือเป็นเมืองในวัฒนธรรมทวารวดีอายุยาวนานกว่า 1,300 ปี อีกทั้งเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับ “หริภุญชัย (ลำพูน)” ของพระนางจามเทวี ธิดาแห่งรัฐละโว้อีกด้วย จุดตรงนี้จะมีเกมส์ให้เล่นด้วยนะคะ ลองไปเล่นกันดูค่ะอาลัมพางค์นคร เขลางค์นคร กุกกุฏนคร ลัมพกัปปะนคร ศรีดอนชัย ศิรินครชัยเมืองนคร เวียงละกอน เวียงลคอร เมืองลำพาง นครลำปางจุดที่ 5 สี่สหายฉายประวัติศาสตร์ (Fantastic Four of Lampang’s History) เมื่อเดินมาถึงจุดที่ 5 เราจะได้ยินเสียงตัวละคร นาค ช้าง สิงห์ อินทรี มาแต่ไกล ตัวละครทั้ง 4 ตัวจะพาเราไปศึกษาเรื่องราวการย้ายจากเขลางค์นคร มาสร้างเมืองลำปางรุ่นที่ 2 เรียกว่า “เวียงลคอร (เวียงละกอน) ภายใต้อำนาจของล้านนา พม่า และอยุธยา ถึงว่าเป็นอีกหนึ่งจุด ที่ทำให้เรารู้สึกสนุกมากมาย ทั้งภาพ 3 มิติ และการเล่าเรื่องให้ชวนน่าติดตามจุดที่ 6 แง้มป่องส่องเวียง (A Look into Lampang) เมื่อเดินเข้ามา เราได้กวาดสายตามองไปรอบ ๆ สิ่งที่สะดุดตาคือ หน้าต่างเรือนขนมปังขิงสีนวล แม้บรรยากาศในห้องจะเย็นฉ่ำ แต่สีของประตูก็ช่วยให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนพาเราย้อนวันวานกลับไปยังอดีตของเมืองลำปางอีกครั้ง โดยเฉพาะ "กาดกองต้า" และ "บ้านของหม่องโง่ยซิ่น" สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่เคยรุ่งเรืองในการค้าขายมาก่อน มากกว่านั้น ทำให้เราได้รู้ว่า จังหวัดลำปางแต่ก่อนนั้น เคยเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าไม้ ที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนืออีกด้วยจุดที่ 7 ไก่ขาวเล่าวันวาน (Chicken Stories) เมื่อเดินเข้ามาถึงจุดนี้ เราจะเห็นถ้วยตราไก่ขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า มีลวดลายไก่หลากหลายสีที่เราต่างคุ้นเคย ตัดกับกรอบสีขาวสะอาดตา เราต่างทราบกันดีว่า ตราสัญลักษณ์ของเมืองลำปางนั้น คือ “ไก่ขาว” เพราะฉะนั้นจุดที่ 7 นี้ เมื่อได้เข้ามา ทุกท่านจะได้เห็นพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของเมืองลำปาง ตั้งแต่ปลายยุคช่วงนครลำปาง ก้าวผ่านมาจนถึงลำปางในปัจจุบัน รวมไปถึงได้เห็นพัฒนาการภาพไก่ขาวอีกด้วยจุดที่ 8 จุดเปลี่ยนเมืองลำปาง (Turing Points of Lampang) จุดที่ 8 นี้ จะมีประตูเหล็กกั้นเป็นฉาก ๆ เมื่อเราได้ชะเง้อคอมองไปบนกำแพงและเดินไปเรื่อย ๆ เราจะได้เห็นจอที่ฉายเรื่องราว บอกเล่าถึง “คน” หลากหลายกลุ่ม ในแต่ละยุค ที่มีบทบาทในการพลิกเมืองลำปางตั้งแต่อดีต เปลี่ยนแปลงเมืองลำปางมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ชาวลั้วะ ยวน(ล้านนา) พม่า และชาวบางกอกจุดที่ 9 รางเหล็กข้ามเวลา (Railway Story) เมื่อได้ลองมาที่จุดนี้ เราจะเห็นภาพที่ถูกเนรมิตฉากแบบอลังการ ทั้ง ภาพรถไฟ รถสองแถว รถม้า และอุโมงค์ขนาดใหญ่ ผสมผสานกับรางรถไฟของจริงทอดยาวไปจนถึงกำแพง บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวอักษรที่ติดอยู่กับรางรถไฟ สร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างมาก อีกทั้ง สถานีรถไฟ ถือเป็นสถานที่มีบทบาทที่สำคัญในด้านคมนาคมขนส่งของชาวลำปางมาก อยู่คู่กับชาวลำปางมายาวนานไม่น้อยกว่า 100 ปี อีกทั้งที่แห่งนี้ ยังเป็นเหมือนจุดเริ่มต้น ในการนำพาเรื่องราวใหม่ ๆ มาสู่จังหวัดลำปาง พลิกโฉมลำปางไปอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย จุดที่ 10 รถม้าพาม่วน (Lampang on a Carriage) รถม้าพาม้วน ให้ความรู้สึกเหมือนได้นั่งรถม้าของจริงอีกครั้ง เพราะพาเราเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ประวัติศาสตร์ของชาวลำปาง ไม่ว่าจะเป็นวัดเก่า เมืองเก่า ย่านการค้าโบราณ และสถานที่ที่สำคัญของเมืองลำปาง ซึ่งจุดนี้ มีรถม้าจำลองให้เราเดินทางไปยัง 3 เส้นทาง เช่น เส้นทางที่ 1: ม่วนเมืองพันปี มีเก่ามีงาม เส้นทางที่ 2: ม่วนเมืองนานาชาติ ยุคตลาดค้าไม้ เส้นทางที่ 3: ม่วนอดีตเมืองท่า ย่านค้าต่างยุค จุดที่ 11 วัดพม่าหน้าตาอินเตอร์ (Myanmar Temples, International Style) จุดตรงนี้เมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เราจะเห็นรูปภาพที่มีสีสันชวนมอง สร้างความตื่นตาตื่นใจสุด ๆ ถ่ายทอดเรื่องราวในช่วงยุคอาณานิคมที่พม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ชาวอังกฤษ พม่า-ไทใหญ่ เข้ามาทำกิจการค้าไม้ในลำปาง ครั้งนั้น คหบดีชาวพม่าต่างสร้างวัดไว้ที่นี่มากมาย กล่าวได้ว่าจังหวัดลำปาง มีวัดพม่ามากที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งเป็นวัดพม่าผสมฝรั่ง ที่มีเฉพาะในจังหวัดลำปางเท่านั้นจุดที่ 12 พอดีพองาม อารามลำปาง (Simple Temples of Lampang) แม้เราจะเดินมาไกลแล้ว แต่จุดที่ 12 ก็ดึงดูดความสนใจไม่น้อย เป็นซุ้มจำลองจักรวาลตามความเชื่อทางพุทธศาสนาลงมาบนโลกมนุษย์ ตรงนี้ถือว่าเป็นอีกจุดที่สะท้อนความเป็นบุคลิกของวัดเมืองลำปางมากค่ะ จุดที่ 13 เหลี่ยมคิด คมปัญญา (Wisdoms of Lampang) เมื่อมาถึงจุดที่ 13 ถ้าเรามองไปรอบ ๆ ข้างกำแพงรวมถึงโคมสีขาว เราจะได้เห็นแสงของโคมไฟทอลอดผ่านโคมขนาดใหญ่ เขียนข้อความที่ชวนคิดวิเคราะห์สร้างความ “อึ้ง และ ทึ่ง” ไม่น้อยกับภูมิปัญญาของชาวลำปาง บอกได้เลยว่าผสมผสานไปทั้งศาสตร์และศิลป์ที่สนุกสุด ๆจุดที่ 14 ซับป๊ะเสียงสำเนียงลำปาง (Dialects of Lampang)คนลำปางใช้คำลงท้ายว่า “หนา...” | คนลำปางเรียกไม้ขีดหรือไฟแช็กว่า “แปม”จุดนี้ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์อีกจุด เพราะเราสามารถสนุกไปกับการกดปุ่มฟังสำเนียงการพูดของแต่ละพื้นได้ด้วย เสียงที่ถ่ายทอดออกมานั้นมีความลุ้มลึกและมีเสน่ห์ สร้างความละลานตาละลานใจไม่น้อย ต้องบอกว่าจังหวัดลำปาง มีภาษาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ อีกทั้งคนลำปางไม่ได้พูด "กำเมืองล้านนา" แต่พูดกำเมืองลำปาง เพราะฉะนั้น จะมีสำเนียงที่หลากหลาย แตกต่างกันไปแต่ละอำเภอ ทั้งการแปรเสียงและการแปรคำศัพท์ จุดที่ 15 ลำปางมีดี เมืองนี้ห้ามพลาด (Tourism in Lampang) ระหว่างสองข้างทาง เราจะเห็นงานฝีมือต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น "แอ๊บหมากทรงมน" ภายในขันหมากจะมีชุดตลับเล็ก ๆ เป็นแอ๊บใส่ของต่าง ๆ ใส่ยาเส้น และตอกไม้ไผ่ทารัก ทำให้ดูหรูหรายิ่งขึ้น เป็นจุดนี้จะรวบรวมของดีในลำปางอันหลากหลาย พิเศษไม่เหมือนใคร... สะท้อนภูมิปัญญา ความประณีตของชาวลำปางมากมายจุดที่ 16 เนี่ยะ... ลำปาง (This is Lampang) จุดสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด... เพราะระหว่างทาง ยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราว เนื้อหา ภาพวาด สิ่งประดิษฐ์ ที่บอกเล่าเรื่องราวเมืองลำปางอย่างไม่รู้จบ สิ่งที่รู้สึกประทับใจก่อนก้าวเท้าออกจากห้อง คือ รถที่นั่งของนางงามและนักข่าวนั่นเอง รถคันนี้ ถ้าได้ลองมาขี่ที่ถนนในยุคปัจจุบัน คงตื่นเต้นและสนุกไม่น้อยบทสรุปทิ้งท้ายของการเยี่ยมชม เมื่อได้เข้าไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ในครั้งนี้ จนกระทั่งก้าวเท้าออกจากห้องพิพิธภัณฑ์ เป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พลั่งพลูออกมาด้วยความรู้สึกที่มหัศจรรย์ ตื่นตาตื่นใจ และสนุกไม่น้อย แม้เรื่องประวัติศาสตร์ที่ดูซับซ้อน ก็กลายเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ไม่ยาก อีกทั้งเป็นเหมือนประตูทะลุมิติที่พาเราเชื่อมลึกไปสู่โลกอดีต ให้เรารู้ถึง เรื่องเล่า-ประวัติศาสตร์-ตำนาน ไม่ว่าจะเป็นวัด ย่าน เมือง สถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่วีรบุรุษ ล้วนมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานหลายพันปี จนทำให้เราเข้าใจถึงคำว่า “มนต์เสน่ห์ของลำปาง” นั่นเป็นอย่างไร ลองมาเยี่ยมชมกันดูนะคะ แล้วคุณจะหลงรัก “ลำปาง” มิวเซียมลำปาง เปิดตั้งแต่วันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ เวลา 09:00น.-17:00น. (หยุดเฉพาะวันจันทร์ และวันนักขัตฤกษ์)Website: www.museumthailand.comFacebook: มิวเซียมลำปาง Museumlampang ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม: มิวเซียมลำปาง Museum Lampangภาพถ่ายทั้งหมดโดย : นักเขียน (นามปากกา: JAN.Wipha)ผู้เขียน : JAN.Wiphaกำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !