เพื่อน ๆ ทราบไหมคะว่าไขมันหน้าท้องของเราจะมีทั้งหมด 2 แบบ ที่เห็นหน้าท้องใหญ่ ๆ พุงยื่น ๆ ไม่ได้เกิดมาจากไขมันชนิดเดียวเสมอไปนะคะ โดยเฉพาะคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หน้าท้องก็จะยิ่งใหญ่ ตรงนี้แหละค่ะ ไม่ใช่ว่าทำให้เราดูไม่สวยไม่หล่ออย่างเดียวนะคะ ยังทำให้เกิดผลกระทบกับสุขภาพร่างกายของเราด้วยน้าา!~ ใครที่อยากลดไขมันหน้าท้องออกไป ต้องมาทำความรู้จักประเภทของไขมันหน้าท้องกันก่อนค่ะ หลัก ๆ ที่เห็นได้แบบชัด ๆ ก็จะมีไขมันชั้นในที่อยู่ภายในช่องท้องของเรา และอีกประเภทนึงก็คือไขมันชั้นนอกที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังของเรานี่เองค่ะ อย่างเราก็เป็นสาวตัวเล็กมีพุงหมาน้อยยื่น ๆ ย้วย ๆ ออกมา ก็แอบสงสัยนะคะว่าไขมันหน้าท้องเกิดจากอะไร ไขมันหน้าท้องลดยังไงได้บ้าง เผื่อมีวิธีการอื่นเพราะส่วนตัวก็ขี้เกียจออกกำลังกายค่ะ >< แถมพี่ชายที่บ้านยังมีหน้าท้องตึงมาก ๆ ไขมันหน้าท้องหนามาก ไม่ห้อยย้วยเหมือนเราเลย เราก็แบบว่า… อยากรู้จังว่าทำไมพุงเรากับพุงพี่มันไม่เหมือนกัน!? ก็เลยไปหาข้อมูลคลายข้อสงสัยของตัวเอง และเอามาฝากเพื่อน ๆ ด้วยนี่แหละค่า^^ไขมันหน้าท้องชั้นในไขมันหน้าท้องชั้นใน หรือไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) จะอยู่ข้างใต้กล้ามเนื้อหน้าท้องของเราค่ะ ไขมันตัวนี้แหละ ที่มันเข้าไปแทรกซึมตามอวัยวะภายในของเรา เช่น ตับ, ลำไส้ หรือลามไปส่วนอื่น ๆ ที่ใกล้เคียง ในช่วงแรกที่เกิดการสะสมของไขมันหน้าท้องชั้นใน เราอาจจะยังไม่รู้ตัวก็ได้นะคะ เพราะมันอยู่ข้างในเลยสังเกตเห็นได้ค่อนข้างยาก แต่นานวันเข้าพุงของเรายิ่งใหญ่ยิ่งตึงขึ้น นี่แหละค่ะ อาจเป็นสัญญาณบอกว่าตัวเราเริ่มเข้าใกล้ภาวะอ้วนลงพุงแล้ว! ไขมันหน้าท้องชั้นนอกไขมันหน้าท้องชั้นนอก หรือไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) จะอยู่ระหว่างชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้องและชั้นผิวหนังค่ะ เป็นส่วนที่สามารถบีบจับได้ ไขมันแบบนี้ไม่ได้ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ หรือมีความอันตรายต่อสุขภาพเหมือนกับไขมันหน้าท้องชั้นในนะคะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีไขมันชนิดนี้เยอะ ๆ ก็ไม่ต้องกลัวค่ะ แต่อาจจะกังวลในเรื่องของการแต่งตัว และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้น้า เพราะมันทำให้เราดูอ้วนสุด ๆ ไปเลย5555 ลักษณะของไขมันหน้าท้องชั้นนอกสามารถบีบจับขึ้นมาได้ จับแล้วจะรู้สึกว่านิ่ม ๆ ยิ่งบีบได้เยอะ แปลว่าเรามีไขมันเยอะค่ะพุงจะยื่นออกมา หรือมีไขมันหน้าท้องส่วนล่างเยอะ หน้าท้องจะไม่ตึงมาก และไม่รู้สึกแข็งค่ะกำจัดได้หลายวิธี ทั้งการออกกำลังกาย, ดูดไขมัน, ปรับการกิน หรือฉีดสลายไขมันก็ได้ค่ะ ผลเสียต่อสุขภาพ เมื่อมีไขมันในช่องท้องเยอะ!!โรคอ้วนหรือภาวะอ้วนลงพุง จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมามากมายตัวรับสัญญาณอินซูลินผิดปกติ การควบคุมน้ำตาลจึงผิดเพี้ยน และเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้อัตราการหายใจลดลง และทำให้ทางเดินหายใจแคบลง ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของปอดโดยตรงค่ะทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ระบบการไหลเวียนเลือดทำงานผิดปกติ อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดตีบตันและโรคหัวใจได้ไขมันอุดตันเส้นเลือด เลยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้สมองขาดออกซิเจนและเสื่อมได้ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดโรคต่าง ๆ ได้อีกเพียบ! ตามนี้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งตับ, โรคไขมันพอกตับ, โรคนิ่วในถุงน้ำดี, โรคข้อเข่าเสื่อม, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคความดันโลหิตสูง, โรคกรดไหลย้อน, โรคไอจามปัสสาวะเล็ด หรือแม้แต่การทำให้ประจำเดือนของสาว ๆ มาผิดปกติได้เหมือนกันค่ะ ดังนั้น ถ้าทำได้ก็อยากให้เพื่อน ๆ ลดพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในช่องท้องลงนะคะไขมันหน้าท้องลดยังไงได้บ้างนะ?หักห้ามใจเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน กินพอดีอิ่ม กินเท่าที่ร่างกายต้องการ ไม่ต้องฝืนใจกินให้หมดเลิกพฤติกรรมการกินจุกจิก หรือกินตลอดเวลา ควรกินเป็นมื้ออาหารเพื่อให้ร่างกายทำงานอย่างเต็มที่เพิ่มการกินโปรตีน เพราะโปรตีนช่วยลดความอยากอาหาร และเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้เราได้ด้วยค่ะเพิ่มปริมาณในการกินไฟเบอร์ เพิ่มกากใย ช่วยลดความอยากอาหาร และทำให้เราอิ่มนานขึ้นอีกด้วยค่ะลดปริมาณการกินคาร์โบไฮเดรตในแต่ละมื้อลง (น้ำตาล, ข้าวขัดขาว, แป้งขาว, น้ำอัดลม หรืออาหารแปรรูปเป็นต้น)นอนพักผ่อนให้เพียงพอและพยายามไม่เครียด เพราะสองสิ่งนี้ส่งผลให้เรากินอาหารมากขึ้น และมีน้ำหนักเพิ่มได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานที่กินเข้าไปในแต่ละวัน ช่วยลดการสะสมของไขมันได้ดูดไขมันหน้าท้อง สำหรับลดไขมันชั้นนอกเท่านั้น ไขมันชั้นในต้องใช้วิธีอื่นน้า วิธีนี้คือเห็นผลทันทีเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย หรือไม่มีระเบียบวินัยอย่างเรา คิดว่าทางนี้น่าจะตอบโจทย์ที่สุดค่ะ >< สรุปสรุปว่าไขมันหน้าท้องมีทั้งประเภทปกติและประเภทที่ส่งผลเสียต่อร่างกายเราค่ะ บางคนอาจจะมีไขมันหน้าท้องสะสมแค่ชนิดเดียว แต่บางคนอาจจะมีไขมันทั้งสองประเภทนี้อยู่พร้อม ๆ กันก็ได้นะคะ ถ้ายังไม่สะดวกไปพบคุณหมอ เรามาลองเช็คไขมันด้วยตัวเองกันก่อนได้เช่นกันค่ะ โดยการจับดูว่าสามารถบีบไขมันขึ้นมาได้เยอะแค่ไหน ถ้าบีบขึ้นมาได้เยอะ ๆ ก็แปลว่าเรามีไขมันชั้นนอกเยอะ แต่ถ้าบีบขึ้นมาได้น้อยแต่ท้องยังป่องมาก ๆ อยู่ อาจแปลได้ว่าเรามีไขมันหน้าท้องชั้นในเยอะได้ค่ะ ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.amara-clinic.com/visceral-fat/https://www.amara-clinic.com/how-to-prevent-obesity/https://mgronline.com/goodhealth/detail/9640000096535 เครดิตและที่มาของภาพภาพหน้าปกจาก jcomp / Freepikภาพที่ 1 จาก Amara Clinicภาพที่ 2 จาก Thaihealthภาพที่ 3 จาก Freepikภาพที่ 4 ภาพ jcome / Freepik อัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !