ประวัติศาสตร์จีนที่มีอารยธรรมยาวนานถึง 5,000 ปี จีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราชวงศ์จีน ทั้งความยิ่งใหญ่เกรียงไกร การทำศึกสงคราม รวมถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของจีน แล้วหากพูดถึงจุดเปลี่ยนล่ะก็หนึ่งในเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ จุดอวสานของราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายของจีนก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติซินไฮ่ และเข้าสู่ระบอบสาธารณรัฐ วันนี้ซามะขอมารีวิว The Last Emperor จักรพรรดิโลกไม่ลืม (1987) ภาพยนตร์รางวัลออสการ์ที่ดัดแปลงจากเรื่องราวชีวิตของจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีน ‘ผู่อี๋ หรือ เฮนรี ปูยี’ ความยิ่งใหญ่จะวิจิตรอลังการเพียงใด เรื่องราวจะแสนเศร้ารันทดขนาดไหน เลื่อนลงไปอ่านได้เลยค่ะ (การรีวิวนี้เป็นความเห็น และความรู้สึกส่วนตัวของซามะนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้าจ้า) ตัวอย่างคลิปตัวอย่าง The Last Emporer | Official Trailer ตัวอย่าง ซับไทยขอบคุณคลิปจาก Youtube : SF Cinema เรื่องย่อย้อนกลับไปในปี 1908 หลังจากการสวรรคตของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เหล่าทหารและข้าราชบริพารในราชสำนักได้ส่งพระราชเสาวนีย์ (จดหมาย) ให้ ‘อ้ายซินเจว๋หลัว ผู่อี๋’ ที่ขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 3 ขวบให้เดินทางไปพระราชวังต้องห้ามและพำนักอยู่ในวังตามพระราชโองการ (คำสั่ง) ของพระนางซูสีไทเฮาที่จะให้ผู่อี๋เป็นพระจักรพรรดิองค์ต่อไปของราชวงศ์ชิง ตลอดเวลาที่ผู่อี๋เติบโตและใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในพระราชวังต้องห้าม มีเหล่าขันทีคอยเลี้ยงดู คอยรับใช้ทุกฝีก้าว แต่พระองค์อยากจะหนีออกไปนอกพระราชวังใจจะขาด หลายปีผ่านไปประเทศจีนมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่ ทำให้จักรพรรดิผู่อี๋ต้องสละราชสมบัติและถูกเนรเทศออกจากพระราชวังต้องห้าม และพระองค์ก็ไม่เคยได้กลับไปในฐานะจักรพรรดิอีกเลย ผู่อี๋ จักรพรรดินี เหล่าพระญาติ และข้าราชบริพารย้ายเข้าอยู่ที่เทียนจินซึ่งเป็นเขตปกครองของญี่ปุ่น และพระองค์ก็ได้ถูกอัญเชิญให้เป็นจักรพรรดิ (หุ่นเชิด) ที่แมนจูกัวซึ่งก็ตรงกับความต้องการของพระองค์พอดีที่จะฟื้นฟูระบอบจักรพรรดิขึ้นมาอีกครั้ง หารู้ไม่ว่านั่นคือแผนการที่ญี่ปุ่นได้เตรียมให้เขามาติดกับ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงผู่อี๋จึงต้องลี้ภัย แต่สุดท้ายเขาก็ถูกทางการจีนภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จับตัวมาตามด้วยข้อหาเป็นกบฏและร่วมมือกับญี่ปุ่น เขาต้องใช้ชีวิตที่เรือนจำในฐานะสามัญชน อาชญากรสงคราม และผู้ทรยศต่อประเทศชาติ ‘ผู่อี๋’ จักรพรรดิแมนจูผู้เป็นหุ่นเชิดและมีจุดจบเยี่ยงสามัญชนแม้ว่าผู่อี๋จะเป็นถึงฮ่องเต้ หรือพระจักรพรรดิผู้ซึ่งนั่งบังลังก์มังกรและมีอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน แต่ตลอดชีวิตของพระองค์นั้นเปรียบเสมือนหุ่นเชิดที่มีคนชักใยอยู่เบื้องหลังนับตั้งแต่พระองค์ขึ้นครองราชย์ ซูสีไทเฮาคือผู้ชักใยคนแรก สั่งทหารและข้าราชบริพารให้ตามตัวผู่อี๋มาเป็นจักรพรรดิคนต่อไปโดยหวังจะปกครองบ้านเมืองอยู่หลังม่าน หลายปีผ่านไปประเทศจีนก็เข้าสู่ระบอบสาธารณรัฐที่มีหยวนซื่อไข่เป็นประธานาธิบดี ทำให้พระองค์ต้องถูกกักขังในพระราชวังของตัวเอง ไม่สามารถออกนอกประตูวังได้ การเข้ามาของญี่ปุ่นพระองค์ก็ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองอีกครั้ง และการเข้าร่วมกับญี่ปุ่นของพระองค์ทำให้จีนต้องสูญเสียกำลังพลทหาร ราษฎรต้องถูกคนญี่ปุ่นกดขี่ข่มเหง ถูกสังหารราวกับเป็นผักปลา พระองค์จึงถูกตราหน้าว่าขายชาติกลายเป็นอาชญากรสงคราม และสุดท้ายพระองค์ก็ใช้ชีวิตและเสียชีวิตในฐานะสามัญชนคนธรรมดา ภาพยนตร์อัตชีวประวัติระดับตำนานของวงการภาพยนตร์โลกThe Last Emperor คือภาพยนตร์อิงอัตชีวประวัติของจักรพรรดิ ‘อ้ายซินเจว๋หลัว ผู่อี๋’ จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชิง โดยได้ ‘แบร์นาโด แบร์โตลุคชี่’ ผู้กำกับชาวอิตาลีมาร่วมเขียนบทและกำกับ นอกจากนี้ The Last Emperor ยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายทำในพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่งได้ และอนุญาตให้นั่งบนบัลลังก์มังกรของจริงได้เช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซเลยก็ว่าได้ เพราะเขาตัดสินใจที่จะหยิบเรื่องราวของจักรพรรดิจีนซึ่งเป็นวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และประเพณีจากประเทศฝั่งตะวันออกมาถ่ายทอดสู่สายตาผู้ชมฝั่งตะวันตก นอกจากแบร์นาโดจะขึ้นแท่นผู้กำกับภาพยนตร์ระดับตำนานแล้ว เขายังได้ร่วมงานกับคอมโพสเซอร์ชาวญี่ปุ่นอย่าง ‘ริวอิจิ ซากาโมโตะ’ ที่มีบทบาทในการแต่งเพลงสกอร์ประกอบภาพยนตร์ (เพลงบรรเลงเสริมอารมณ์ในแต่ละฉาก) และร่วมแสดงภาพยนตร์อีกด้วยThe Last Emperor (Theme)ขอบคุณคลิปจาก Youtube: Ryuichi Sakamoto ตำนานภาพยนตร์รางวัลออสการ์ ‘ชิง 9 ได้ 9’นอกจาก The Last Emperor จะประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับต่อวงการภาพยนตร์ทั่วโลกแล้ว สิ่งที่เป็นตำนานอีกหนึ่งอย่างของหนังเรื่องนี้คือการได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 9 สาขา (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม กำกับภาพยอดเยี่ยม ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม บันทึกเสียงยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม) ซึ่ง The Last Emperor สามารถกวาดมาได้ทุกสาขาที่เข้าชิง! ไม่เพียงแต่รางวัลอันทรงเกียรติอย่างออสการ์เท่านั้น แต่ยังคว้ารางวัลจากเวทีอื่นๆ อีกหลายเวที ทั้งรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe Awards) รางวัลเดวิด ดิ ดอนนาเทลโล (David di Donatello) รางวัลเจแปน อะคาเดมี ไพรซ์ (Japan Academy Film Prize) รางวัลซีซาร์ (César Award) ยูโรเปียน ฟิล์ม อวอร์ดส์ (European Film Awards) เป็นต้น The Last Emperor and Bernardo Bertolucci Win Best Picture and Directing: 1988 Oscarsขอบคุณคลิปจาก Youtube : Oscars ริวอิจิ ซากาโมโตะเองก็ได้รางวัลออสการ์ สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมร่วมกับนักแต่งเพลงอีกสองคน คือ เดวิด เบิร์น และคอง ซู และเพลงที่ริวอิจิได้แต่งขึ้นมาก็ยังคงกึกก้องและตราตรึงในใจผู้ชมมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งเพลง The Last Emperor และ First CoronationThe Last Emperor Wins Original Score: 1988 Oscarsขอบคุณคลิปจาก Youtube : Oscars รีวิวจากซามะขอออกตัวก่อนว่าเรื่องนี้เราได้ยินมาจากรายการแฟนพันธุ์แท้ตอนออสการ์ค่ะ ว่าหนังเรื่องนี้เข้าชิงออสการ์ 9 สาขา แล้วเหมาหมดทุกสาขาที่เข้าชิง เป็นจุดเริ่มต้นให้เราไปดู แล้วที่เซอร์ไพรซ์สำหรับเราคือ ตัวละครพูดภาษาอังกฤษทั้งเรื่องเลย (นึกว่าเป็นเรื่องราวของจักรพรรดิจีนต้องพูดภาษาจีน ไม่รู้ก่อนหน้านี้ว่าผู้กำกับเป็นชาวอิตาลีค่ะ ) นี่ก็ชอบมากๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ ในส่วนของตัวหนังเราว่าเขาเก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ ตั้งแต่โลเคชั่นพระราชวังต้องห้าม อุทยานจิ้งหยวนที่เทียนจิน คอสตูมของเหล่าข้าราชบริพาร ขันที จักรพรรดินีทั้งสอง (หว่านหรง กับ เหวิ่นซิ่ว) ก็ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนหลุดออกมาจากสมัยนั้นจริงๆ พอดูจนจบแล้วเราเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงได้ครบ 9 สาขา เพราะหนังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของคนคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าโลกภายนอกพระราชวังเกิดอะไรขึ้นแต่ต้องมาปกครองประเทศตั้งแต่ยังเป็นเด็กไม่รู้ประสาตามเกมการเมืองของผู้ใหญ่ เมื่อจีนเกิดความไม่สงบ มีความผันผวนทางการปกครอง ผู่อี๋ต้องถูกเนรเทศออกจากบ้านของตัวเองแล้วกลายเป็นเครื่องมือทางผลประโยชน์ของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก จะบอกว่าเป็นคนน่าสงสารคนนึงก็ได้ เพราะถ้าหากผู่อี๋ไม่ได้ถูกเรียกให้ไปเป็นจักรพรรดิ พระองค์อาจมีทางเลือกอื่นที่ทำให้ชีวิตของตัวเองไม่ต้องมาประสบชะตากรรมเช่นนี้ก็ได้ อ่านกันมาขนาดนี้ มีรางวัลการันตีขนาดนี้ก็คงพลาดไม่ได้ที่จะรับชม The Last Emperor จักรพรรดิโลกไม่ลืม (1987) ใครที่ดูมาแล้วมีความเห็นอย่างไรกับช่วงชีวิตของผู่อี๋กันบ้าง ก็สามารถคอมเมนต์ได้เลยนะคะ มาแชร์ความเห็นกัน ครั้งต่อไปจะเป็นหนัง อนิเมะ หรือแอนิเมชันเรื่องไหนที่ซามะจะมารีวิวต้องติดตามเท่านั้นค่ะ ต้องการอ่านบทความอื่นๆ คลิ๊กที่ชื่อของซามะได้เลยน้า หรือถ้าอยากลองดูบทความด้านล่างก่อนก็คลิ๊กเข้าไปอ่านได้เลยเหมือนกันค่ะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่า บทความอื่นๆ:มูฟวี่รีวิว :: Dangal ปล้ำฝันสนั่นโลก (2016) เรื่องจริงของอดีตนักมวยปล้ำ จับลูกสาวมาสานฝันคว้าแชมป์ให้ประเทศมูฟวี่รีวิว :: Ocean Waves สองหัวใจ หนึ่งรักเดียว (1993) แอนิเมชันรักสามเศร้าของวัยรุ่นยุค 90s จากสตูดิโอจิบลิ!อนิเมะรีวิว :: ยาสึเกะ ซามูไรแอฟริกา (Yasuke) อนิเมะแอ็กชันไซไฟแฟนตาซี กราฟิก CG คุณภาพเยี่ยมอนิเมะรีวิว :: GTO (Great Teacher Onizuka) คุณครูพันธุ์หายาก (1999) อดีตนักเลงแก๊งมอเตอร์ไซค์ สู่การเป็นครูผู้แก้ปมในใจเหล่านักเรียน เครดิตภาพภาพปก: Canva จาก ผู้เขียน (ซามะ) I ภาพประกอบโดย (1) (2) จาก Facebook: SF Cinemaภาพที่ 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 10, 11 จาก Facebook: SF Cinemaภาพที่ 6 จาก Facebook: THE STANDARDภาพที่ 9 จาก Facebook: Ryuichi Sakamoto 坂本龍一ภาพที่ 12 จาก Facebook: PPTV HD 36เครดิตคลิปYoutube: SF CinemaThe Last Emporer | Official Trailer ตัวอย่าง ซับไทยYoutube: OscarsThe Last Emperor and Bernardo Bertolucci Win Best Picture and Directing: 1988 OscarsThe Last Emperor Wins Original Score: 1988 Oscars จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !