ภาพถ่าย:โดยผู้เขียน ในโลกนี้มีผู้คนมากมายหลงใหลในการเดินทาง หนึ่งในนั้นก็คือตัวผู้เขียนเองที่มักจะหาประสบการณ์จากการเดินทาง เพราะลึกๆ แล้วชีวิตของคนเราล้วนหาความแปลกใหม่และแตกต่างให้กับชีวิตเสมอ เมื่อปีที่แล้วดิฉันได้มีโอกาสเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่ ท่ามกลางสังคมเมืองที่เติบโตและกำลังพัฒนา คุณเชื่อไหมว่าแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งเดียวที่ไม่ได้เปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยว พูดมาถึงตรงนี้คุณจะอาจจะงงว่าหมายความว่าอะไร แต่ก่อนอื่นขอแนะนำชื่อสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อย่างเป็นทางการก่อนนะคะ ชุมชนกุฎีจีน ภาพถ่าย:โดยผู้เขียน ชุมชนกุฎีจีน ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาหรือฝั่งธน ซึ่งการเดินทางนั้นสามารถเดินทางได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางเรือด่วน เจ้าพระยาธงส้มลงวัดกัลยา และหากใครเป็นสายปั่น สายชิว สามารถเช่าจักรยานใต้สะพานพุทธปั่นมาตามทางก็ได้เช่นกัน เพราะที่นี่มีเส้นทางปั่นจักรยานเลียบริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หรือหากใครมารถส่วนตัวสามารถจอดได้ในวัดกัลยาณมิตร เอาล่ะค่ะตอนนี้ทุกคนคงอยากรู้เเล้วว่าชุมชนแห่งนี้ มีความพิเศษอย่างไร ก่อนอื่นดิฉันขอเล่าความเป็นมาของชุมชนแห่งนี้ก่อนนะคะ เพื่อที่ทุกคนจะได้รู้จักกับชุมชนแห่งนี้มากขึ้น ชุมชนกุฎีจีน เป็น ชุมชนที่มีความสำคัญมาตั้งแต่ครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงก่อตั้งเมืองหลวงแห่งใหม่คือเมือง ธนบุรีศรีมหาสมุทร พระองค์ทรงพระราชทานที่ดินให้แก่ชาวโปรตุเกสให้ตั้งถิ่นฐานและเป็นที่อยู่อาศัย ที่สำคัญยังเป็นท่าเรือในการค้าขายกับชาวต่างชาติ คนจีนนิยมมาขายค้าตรงบริเวณแห่งนี้ ทำให้ในอดีตสถานที่แห่งนี้มีความคึกคักและเจริญรุ่งเรืองสุดในยุคนั้น จนเวลาผ่านมาเนิ่นนาน สังคมเมืองเติบโตขึ้นเรื่อยๆแต่ชุมชนแห่งนี้ยังคงเหมือนเดิม ยังมีวิถีชีวิตเช่นวันเก่า คนรุ่นใหม่ในชุมชนอยากที่จะอนุรักษ์และทำให้คนรุ่นต่อๆ ไปไม่ลืมความสำคัญของชุมชนแห่งนี้ จึงมีการสร้างพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนขึ้นมา เพื่อเป็นสถานที่เก็บของและประวัติในการก่อสร้างชุมชนแห่งนี้ สิ่งที่น่าสนใจในชุมชนแห่งนี้คือวิถีชีวิตที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว หากเราเข้ามาในชุมชนจะเห็นสัญลักษณ์เป็นโบสถ์คริสต์ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ โบสถ์ซางตาครู้ส แต่หากสังเกตุดีๆจะพบว่าในชุมชนรายล้อมไปด้วยศาสนสถานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัดกัลยณมิตร ซึ่งเป็นที่นับถือของศาสนาพุทธ มัสยิดขาว ศาสนาอิสลาม โบสถ์ซางตาครู้ส ศาสนาคริสต์ และยังมีศาลของชาวจีนที่ชื่อว่า ศาลเจ้าเกียงอันเกง น่าแปลกนะคะที่ชุมชนแห่งนี้อยู่ด้วยกันทั้งๆ ที่มีแต่ผู้คนต่างศาสนา และเพื่อให้คลายข้อสงสัยดิฉันจึงถามคนในชุมชนแห่งนี้ จึงได้คำตอบมาว่า พวกเขาผ่านการศึกสงครามในตอนที่อยุธยาแตกมาด้วยกันจึงมีความรักไคร่และปรองดองกันดุจเครือญาติ นั่นแหละคะที่เขาว่าความทุกข์ยากจะเป็นเพื่อนแท้ที่ดีที่สุด ที่สำคัญไปกว่านั้นนะคะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพราะคนในชุมชนเองก็ดำเนินการใช้ชีวิตแบบปกติไม่ได้มีการต้อนรับนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด แต่นักท่องเที่ยวมักเดินทางเข้ามาด้วยตัวเอง ที่นี่ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากนักหรอกคะ ก็อย่างที่บอกที่นี่ไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแต่หากนักท่องเที่ยวหรือกลุ่มคนที่สนใจจะเข้ามา คนในชุมชนแห่งนี้ก็พร้อมต้อนรับและบอกเล่าเรื่องราวให้เราฟังได้ค่ะ คนในชุมชนทุกคนใจดีมากค่ะตอนที่ดิฉันได้มีโอกาสเข้าไป เหมือนได้เข้าไปอยู่ที่บ้านตัวเองแต่ถูกรายล้อมไปด้วยประวัติ ศาสนสถาน วิถีชีวิตที่ทรงคุณค่าและมีเส่นห์ ยิ่งได้ไปที่พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนยิ่งทำให้เรารู้จักชุมชนแห่งนี้มากยิ่งขึ้น ที่นี่ฟรีทุกอย่างน่ะค่ะ ไม่มีค่าเข้าชมชุมชน ไม่มีค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ หากอยากจะอุดหนุนชุมชนสามารถซื้อเครื่องดื่ม อาหาร ตามร้านค้าในชุมชนได้เลยค่ะเป็นร้านค้าที่ราคาไม่แพง เพราะทำขายคนในชุมชนด้วยกัน และหากคุณไม่อยากพลาดเมื่อได้มาที่นี้แล้วต้องหาซื้อ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ภาพถ่าย: โดยผู้เขียน ขนมฝรั่งกุฎีจีน สูตรลับเฉพาะเเละเป็นเอกลักษณ์ของคนที่นี้มาตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นสูตรเฉพาะของชาวโปรตุเกส คุณอาจเคยกินขนมลักษณะนี้แล้ว หรืออาจไม่เคยกิน แต่ดิฉันอยากแนะนำให้คุณลองกินมันใหม่อีกครั้งแล้วคุณจะรู้ว่าขนมฝรั่งที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นยังไง จากการที่ดิฉันได้แวะเข้าไปที่บ้านคุณป้าหลังโบสถ์ซางตาครู้สนั้นก็พบว่า เขาใช้เตาในสมัยโบราณในการอบขนมใช่ค่ะ คุณได้ยินไม่ผิด เตาที่ใช้ฟืนกาบมะพร้าวในการก่อการทำอาหาร และทุกกระบวนการไม่ได้มีการนำอุปกรณ์ในยุคปัจจุบันมาใช้ ขนมฝรั่งที่ทำด้วยเตาถ่านโบราณนั้นจะช้าและมีขั้นตอนที่วุ่นวายแต่พวกเขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะเปลี่ยนเลย นั่นก็เพราะการใช้เตาถ่านจะทำให้ได้รสของแป้งและเครื่องปรุงที่ใช้ รับรู้รสชาติผ่านการกินได้เร็วกว่า นั้นแหละค่ะสูตรลับเฉพาะ ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวมาสามารถเข้ามาชมวิถีการทำได้แต่ต้องมาในช่วงเช้าสักหน่อยเพราะที่นี้เขาทำขนมฝรั่งทุกวัน ที่สำคัญทำส่งตามร้านเบเกอรี่ทั่วไปด้วยจ้า นี่แหละค่ะคือสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงที่ดิฉันอยากแนะนำ และดิฉันเชื่อว่าที่นี่มีอะไรให้เราเรียนรู้และหาประสบการณ์ระหว่างการเดินทางอีกเยอะหากคุณมีโอกาสแวะเข้าไปอย่าลืมไปตามแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนที่ดิฉันแนะนำนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าการมีชีวิตที่เรียบง่ายไม่เร่งรีบ วิถีชีวิตแบบนั้นมีอยุูจริงค่ะที่นี้ไงค่ะ ชุมชนกุฎีจีน.