สกอร์ 7:0 ที่ปรากฏหราบนสกอร์บอร์ด ไม่ได้ทำให้เฮดโค้ชของทีมชนะหลงระเริงไปกับมันเลย"จริง ๆ แล้วทุกทีมในกลุ่มเป็นทีมที่ดี อยู่ที่จังหวะมากกว่า ว่าใครจะควบคุมคุณภาพได้มากกว่ากัน ถ้าวัดสุทธิฯไม่เหลือ 10 คน พวกเขาก็ยังน่ากลัว ช่วงแรกก็ยืนเกมรับกันได้ดี" ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ หรือ "โค้ชแบงค์" เฮดโค้ชท่าข้ามพิทยาคม ซึ่งนำทีมคว้าแชมป์กรมพลศึกษา รุ่น 18 ปี ประเภท ก มา 2 ปีหลังติดต่อกันพูดถึงคู่แข่งหลังจบเกมแรก"ดีใจกับการเก็บ 3 แต้มแรกและการออกสตาร์ทที่ดี ต้องบอกว่าโชคดีด้วยที่วัดสุทธิฯเหลือ 10 คนเร็ว ทำให้เราเจาะเขาได้ง่ายขึ้น ก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะยิงเยอะ เซอร์ไพร้ส์พอสมควรในเรื่องของสกอร์ แต่ในเรื่องเกมรุกหรือคอนตินิวเพลย์ ยังไม่ดี ต้องกลับไปแก้ไขกันใหม่ แต่โดยรวมก็ถือว่าออกสตาร์ทได้ดี"เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง...แต่ "ยุทธการป้องกันแชมป์" ของ ท่าข้ามพิทยาคม เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง และมันก็อาจจะไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดหรอกเมื่อเดือนมิถุนายน ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ ได้รับโอกาสสำคัญจากผู้บริหาร ชลบุรี เมื่อได้รับแต่งตั้งให้คุม สโมสรบ้านบึง ในมังกรฟ้าลีก (T3) โซนภาคตะวันออก นี่คือสโมสรที่เป็นเวทีให้เด็ก ๆ จากอะคาเดมีของ "ฉลามชล" ได้วาดลวดลาย เพื่อเติบใหญ่ก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ต่อไป"ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมได้คุมบอลอาชีพเลยครับ รู้สึกดีใจที่ทางผู้บริหารให้เราทำทีมอาชีพ ให้ลองคิด ลองตัดสินใจเอง ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับบอลอาชีพที่เรายังไม่เคยเจอ" โค้ชแบงค์เปิดใจ โดยผู้เล่นที่ใช้ทำการแข่งขันคือผู้เล่นเยาวชนวัย 16-18 ปีที่ปกติจะมี "เวทีลับแข้ง" เป็นฟุตบอลกรมพลศึกษานั่นเอง"ตอนที่ส่งชื่อแข่งไทยลีก 3 ตอนนั้นเราไม่คิดว่ากรมพลศึกษาจะจัดการแข่งขันในปีนี้ ด้วยสถานการณ์โควิดที่เป็นอยู่ คุณอรรณพ สิงห์โตทอง ผู้บริหารของ ชลบุรี เลยมองว่า ในเมื่อไม่มีบอลนักเรียนแข่ง แต่ก็อยากให้เด็กพวกนี้ได้มีเวทีพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ก็เลยเอาชุดนี้ลงเล่นไทยลีก 3 เลย"นอกจากเยาวชน 16-18 ปีแล้ว นอกนั้นก็เป็นดาวเตะตัวเก๋าที่ทีมดึงมาเพื่อช่วย "ประคองน้อง ๆ" รวมทั้งคอยถ่ายทอดประสบการณ์ในสนามให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น วัชระ มหาวงศ์, ศิริศักดิ์ มัสบูงอ หรือ ชัยวัฒน์ ฤทธิศักดิ์ เป็นต้น"ตั้งความหวังกับทีมไว้คือ 1. สร้างประสบการณ์ ให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับบอลอาชีพ 2. อย่างที่รู้ว่าเราใช้เด็ก 16, 17, 18 ปีเล่น ก็อยากให้เค้าไต่อันดับที่ดีและอยู่ในโซนปลอดภัยตามที่ตั้งเป้าไว้""แต่ก็ถือว่าเซอร์ไพร้ส์พอสมควร อย่างน้อยในเลกแรก เราก็ไม่ได้อยู่อันดับสุดท้าย แล้วเด็กก็ทำผลงานได้ดีพอสมควร เพียงแต่ยังมีข้อผิดพลาดหลายอย่างที่เราต้องแก้ไข เช่น เกมรับ การอ่านเกม การจบสกอร์""สิ่งที่เราต้องแก้ให้พวกเขาก่อนคือเรื่องหัวจิตหัวใจให้กล้าเล่น ถ้าไปเจอผู้ใหญ่แล้วไม่กล้าเล่น ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีในตัว มันก็จะไม่แสดงออกมาเลย ไม่ว่าจะเป็นเบสิค ทักษะ แล้วมันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีให้พวกเขาด้วย เจอทีมแข็งแกร่งก็จะพัฒนาขึ้น เด็กพวกนี้ปีที่แล้วยังเล่น 16 ปี ข อยู่เลย แต่ปีนี้พวกเขาพัฒนาขึ้นเยอะ การได้เจอกับผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเกมคุณภาพกว่า ถ้าเราผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็เสียประตูได้เลย"ใช่แล้ว "ฉลามเด็ก" ชุดนี้ ส่วนนึงหลงเหลือมาจากชุดแชมป์ 18 ปี ก ของกรมพลศึกษาเมื่อปีก่อน เช่น พันธมิตร ประพันธ์ ส่วนที่เหลือคือรุ่น 16 ปี ที่เล่นในประเภท ข เมื่อปีก่อนนั่นเอง ซึ่งผลงานก็ไม่ดีนักเพราะตกแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้นด้วยน้ำมือของ อบจ.ชัยนาท ถึง 0:4จนเมื่อกรมพลศึกษาดูทิศทางแล้วว่าสามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลได้ หลาย ๆ ทีมอาจจะประสบกับปัญหาการเรียกตัวนักฟุตบอลมาซ้อมร่วมกัน แต่กับ ท่าข้ามพิทยาคม แล้ว ไม่มีปัญหาเลยเพราะทีมซ้อมและเเข่งขันไทยลีก 3 มาอย่างต่อเนื่อง โดย "โค้ชแบงค์" เรียกนักเตะมาเสริมทัพเพิ่มอีก 4 คน"เด็กชุดนี้ก็ซ้อมแบบบอลอาชีพเลยแหละครับ ใช้ฟิตเนส ทุกอย่าง เราซ้อมเพื่อการแข่งขันของ บ้านบึง เลย ไม่ได้แบ่งมาซ้อมแบบทีม 18 ปี แต่ถ้าจะให้เทียบกับชุดแชมป์เมื่อปีก่อน ต้องบอกว่าแตกต่างกันเยอะเลยครับ" โค้ชแบงค์หยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะเล่าต่อ"ชุดปีก่อน เราซ้อมด้วยกันมาตลอดกว่า 2 ปี แล้วชุดนั้นเป็นชุดที่ ชลบุรี ตั้งความหวังไว้ว่าต้องมีขึ้นชุดใหญ่ได้ ซึ่งสุดท้ายก็ขึ้นไปได้จริง ๆ หลายคนขึ้นไปได้ แล้วชุดนั้นมีประสบการณ์เกมต่างประเทศมากกว่าชุดนี้ด้วย ซึ่งเขาจะนิ่ง จะมีความกล้ามากกว่าเด็กชุดนี้เยอะ""แต่ชุดนี้ก็ดีที่ได้มาเล่น T3 ได้พัฒนาตัวเอง ได้มีเกมระดับที่ดีกว่าเดิม ทำให้พอกลับไปเล่นบอลนักเรียน ก็จะทำผลงานได้ดี ดาวเด่นที่น่าจับตามองก็...กัปตันทีม ณ ชนก กลิ่นหอม, มีอนุสรณ์ ทะเลิงรัมย์ ที่เราดึงมาจาก สุรศักดิ์มนตรี แล้วก็พันธมิตร ประพันธ์ แล้วก็ดาวรุ่งอายุ 16 ปีอย่าง เริงชัย เกษฎา ครับ คนนี้โค้ชเฮง (วิทยา เลาหกุล) บอกว่า 'สเปคชลบุรี' เลย มีความแข็งแรง มีความเร็ว มีทักษะที่ดี ครบเครื่อง แต่ก็ต้องดูกันยาว ๆ ทั้งเรื่องทัศนคติและอะไรหลาย ๆ อย่างด้วย"เริงชัย เกษฎา จำชื่อนี้ไว้ได้เลย ได้เดบิวต์บอลอาชีพระดับ T3 ไปแล้ว 3 นัด ยิงได้ 2 ประตูและลงเล่น 18 ปี กรมพลศึกษา ประเภท ก ปีนี้นัดแรก ก็ทำแฮททริก ถล่ม วัดสุทธิวราราม 7:0!สำหรับภารกิจในการป้องกันแชมป์นั้น โค้ชแบงค์มองว่าอยากป้องกันแชมป์ให้ได้แต่ทั้งนี้ก็มีปัจจจัยหลาย ๆ อย่างมาผนวกด้วย เพราะช่วงท้ายทัวร์นาเมนท์จะชนกับโปรแกรมมังกรฟ้าลีก T3 เลกสอง โดยไฮไลท์สำคัญคือการแข่งขันนัดที่ 2 (บ้านบึง - สายมิตร กบินทร์ ยูไนเต็ด) เป็นโปรแกรมแทรกกลางระหว่างเกมรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศบอลกรมพลศึกษาพอดีเลย ซึ่งก็น่าจะส่งผลกระทบพอสมควร"ถ้ามีโปรแกรมชนกัน เราก็ต้องโรเตชันนักเตะบ้าง บางแม็ทช์อาจจะมาไม่ครบ ก็คงทำให้ทีมไม่สมดุลย์ไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด เข้าไปถึงรอบที่ลึกที่สุดให้ได้ครับ แล้วถ้าผู้เล่นครบ ๆ ผมว่า...เราก็อาจจะป้องกันแชมป์ได้" โค้ชแบงค์ให้คำมั่นส่วนทีมคู่แข่งที่ "โค้ชแบงค์" มองว่า "น่ากลัว" ก็คือ อัสสัมชัญธนบุรี, สุรศักดิ์มนตรี และ "รองแชมป์เก่า" สวนกุหลาบ นั่นเองคู่แข่งที่น่ากลัว มองว่าเป็น อัสสัมชัญธนบุรี เพราะเขาก็เล่นไทยลีก 3 เหมือนกับเรา แล้วเป็นทีมที่เราเจอแล้วก็เอาชนะยากทุกครั้งไป อีกทีมนึงน่าจะเป็น สุรศักดิ์มนตรี แล้วก็...สวนกุหลาบ ก็น่ากลัวเพราะชุดนี้เล่นด้วยกันมาตั้งแต่ปีที่แล้วท่าข้ามพิทยาคม จะป้องกันแชมป์ พร้อมทั้งเถลิงถวัลย์บัลลังก์เกียรติยศแห่งฟุตบอลนักเรียน 3 ปีซ้อนได้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป แต่สำหรับทุกทีมแล้ว รางวัลสำคัญที่สุดของน้อง ๆ นักฟุตบอลที่มาแข่งขันรายการนี้ในสายตา ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ ก็คือ..."สำหรับเด็ก ๆ นักฟุตบอลที่ก้าวขึ้นมาเล่นในแต่ละรุ่น ผมมองว่าก็จะมีบอลกรมพลศึกษานี่แหละที่พวกเขาอยากเล่นมาก ๆ, อยากได้โอกาสโชว์ฝีเท้าเพื่อพัฒนาตัวเอง ซึ่งมันสามารถไปต่อยอดจนเป็นเยาวชนทีมชาติได้ เล่นในสโมสรได้ เพราะรายการนี้จะมีแมวมองสโมสรมาดู ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างปีที่แล้วโค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ มาดู เห็น ฉัตรมงคล (เรืองฐณโรจน์) เล่น 2 นัด จากนั้นก็ขึ้นทีมชุดใหญ่ ชลบุรี ไปเลย ก็ถือเป็นเวทีที่ต่อยอดให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสดี ๆ ครับ"เพราะฟุตบอลคือความฝัน และความฝันของ ท่าข้ามพิทยาคม ปีนี้คือการคว้าแชมป์ 3 สมัยซ้อน ซึ่งช่างท้าทายเสียจริง ๆ ภาพทั้งหมดโดย : Football ROMCOMส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !